เอเจนซีส์ - ฝนทำให้เที่ยวบินขนส่งความช่วยเหลือต้องจอดนิ่งสนิทในภาคเหนือของโมซัมบิก ในวันจันทร์ (29 เม.ย.) นับเป็นวันที่สอง ที่ความพยายามจะไปให้ถึงผู้รอดชีวิตจากพายุไซโคลนเคนเน็ธถูกขัดขวาง ด้านจำนวนผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็น 38 ราย
เจ้าหน้าที่กู้ชีพใช้ช่วงที่ฝนหยุดตกเป็นเวลาสั้นๆ ทำการส่งเฮลิคอปเตอร์หนึ่งลำที่เต็มไปด้วยความช่วยเหลือไปยังเกาะไอโบ ซึ่งมีบ้านเรือนหลายร้อยหลังถูกถล่มจนพังราบ จากพายุไซโคลนลูกที่สองในรอบ 6 สัปดาห์ที่เล่นงานประเทศนี้
อย่างไรก็ตาม ฝนเริ่มขึ้นอีกครั้งและด้วยเงื่อนไขต่างๆ ทำให้อันตรายเกินไปที่จะส่งเที่ยวบินชุดต่อไป ส่วนถนนสู่เขตชนบทที่ไกลออกไปทางเหนือนั้นถูกน้ำท่วมและไม่สามารถใช้ได้หลังจากฝนตกหนักเมื่อวันอาทิตย์
"น่าเสียดายที่สภาพอากาศเปลี่ยนแปลงเร็วเกินไปและคุกคามการปฏิบัติงาน” โฆษกหน่วยงานด้านมนุษยธรรม OCHA ของสหประชาชาติ ระบุ
พายุไซโคลนเคนเน็ธ พัดถล่มประเทศคอโมโรส ตามมาด้วยเมืองคาโบเดลกาโดของโมซัมบิกเมื่อวันพฤหัสบดี ด้วยความเร็วลมใกล้ศูนย์กลาง 280 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในภูมิภาคที่ยังคงพยายามฟื้นตัวจากพายุไซโคลนอิดาอี
พายุได้ตัดการสื่อสารและพลังงาน ชุมชนในชนบทบางแห่งแปรสภาพเป็นกองไม้ มีเพียงสิ่งปลูกสร้างบางอย่างและต้นมะพร้าวที่ยังยืนอยู่ได้
สหประชาชาติ ระบุว่า มีผู้เสียชีวิต 4 รายในคอโมโรส ด้านสถาบันการจัดการภัยพิบัติแห่งชาติของโมซัมบิกระบุว่า ยอดผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 38 รายในวันจันทร์
หลังจากถูกพัดถล่มครั้งแรก ฝนก็ตกหนักบริเวณทางเหนือของโมซัมบิก ซึ่งเป็นบริเวณที่มีแนวโน้มว่าจะเกิดน้ำท่วมและดินถล่ม ส่วนข้อมูลเกี่ยวกับขนาดของน้ำท่วมในพื้นที่ห่างไกลยังคงไม่ชัดเจน