เอเจนซีส์ - เอกอัครราชทูตของจีน ระบุเมื่อวันพุธ (24 เม.ย.) ว่าเปรูจะลงนามในบันทึกความเข้าใจ (เอ็มโอยู) เพื่อเข้าร่วมโครงการริเริ่มโครงสร้างพื้นฐาน Belt and Road ของจีนในอีกไม่กี่วันข้างหน้า แม้จะมีคำเตือนในช่วงที่ผ่านมาจากสหรัฐอเมริกา เกี่ยวกับการขยายอิทธิพลของปักกิ่งในละตินอเมริกา
เอกอัครราชทูต เจี่ย ไกด์ ได้ประกาศให้แขกที่มาร่วมงานปาร์ตี้ส่วนตัวในกรุงลิมา พร้อมกับรองประธานาธิบดีของเปรู ขณะที่จีนเริ่มต้นการประชุมซัมมิท Belt and Road เป็นเวลาสามวันในกรุงปักกิ่งที่มีรัฐมนตรีการค้าและผู้นำจากทั่วโลกเข้าร่วม
ข้อตกลงดังกล่าวจะทำให้เปรูเป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศแถบละตินอเมริกาที่จะเข้าร่วมนโยบายโครงสร้างพื้นฐานของจีนอย่างเป็นทางการ ตอกย้ำให้เห็นว่าประเทศต่างๆ ทั่วโลกกำลังถูกดึงเข้าสู่วงโคจรของจีนโดยสัญญาการลงทุน แม้จะมีการคัดค้านจากสหรัฐฯ
เมอร์เซเดส อาราออซ รองประธานาธิบดีเปรู ระบุว่า ความสัมพันธ์ของเปรูกับวอชิงตันจะยังคงเข้มแข็ง
"การลงนามในบันทึกความเข้าใจนี้เป็นจุดเริ่มต้นของรูปแบบความร่วมมือที่จีนเสนอต่อโลก ช่วยให้เราสามารถขยายความสัมพันธ์ของเราได้” อาราออซ บอกรอยเตอร์
"เราได้สร้างความสัมพันธ์ทวิภาคีที่เข้มแข็งกับจีน อย่างที่เรามีกับสหรัฐฯ” อาราออซ กล่าวเสริม
ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ของจีน ชูนโยบาย One Belt, One Road เมื่อปี 2013 เพื่อขยายการเชื่อมโยงระหว่างปักกิ่งกับเอเชีย แอฟริกา และยุโรป ผ่านการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์
เมื่อต้นปีที่แล้วจีนได้เชิญประเทศในแถบละตินอเมริกาและแคริบเบียนให้ลงทะเบียนด้วยเช่นกัน ขณะพยายามที่จะกระชับความสัมพันธ์ในภูมิภาคดังกล่าวที่เต็มไปด้วยทรัพยากร
ชิลี ซึ่งเหมือนกับเปรูตรงที่เป็นพันธมิตรที่ใกล้ชิดกับสหรัฐอเมริกา ได้ประกาศเมื่อเดือนพฤศจิกายนว่า เข้าร่วมโครงการดังกล่าวของจีน
รัฐมนตรีคลังของจีน ระบุในช่วงเริ่มการประชุมซัมมิทว่า ปักกิ่งมีเป้าหมายที่จะทำให้โครงการ Belt and Road มีความยั่งยืนและป้องกันความเสี่ยงด้านหนี้สิน ลดเสียงวิจารณ์ที่ว่าโครงการนี้จะยิ่งสร้างหนี้บุญคุณและขาดความโปร่งใส