รอยเตอร์/เอเอฟพี - ล่าสุดประธานาธิบดีศรีลังกา ไมตรีปาละ สิริเสนา ได้ขอให้ผู้บัญชาการตำรวจศรีลังกาและรัฐมนตรีกลาโหมศรีลังกาลาออกจากตำแหน่ง หลังจากมีความล้มเหลวที่ไม่สามารถป้องกันการโจมตีวันอีสเตอร์(21 เม.ย) รัฐบาลศรีลังกาออกมายอมรับวันนี้(24 เม.ย)ว่า มีเจ้าหน้าที่ระดับสูงด้านการข่าวกรองจงใจปกปิดการเตือนโจมตี พบมีพลเมืองชาวเดนมาร์ก 2 รายสูญหายหลังเหตุโจมตีแต่ล่าสุดพบปลอดภัย ด้านเอกอัครราชทูตสหรัฐฯออกมาเตือน เชื่อว่าผู้ก่อการร้ายยังคงวางแผนโจมตีซ้ำในที่พลุกพล่านสาธารณะ
รอยเตอร์รายงานวันนี้(24 เม.ย)ว่า แหล่งข่าวใกล้ชิดประธานาธิบดีศรีลังกา 2 รายเปิดเผยกับรอยเตอร์ล่าสุดว่า ประธานาธิบดีศรีลังกา ไมตรีปาละ สิริเสนา ได้ขอให้ผู้บัญชาการตำรวจศรีลังกาและรัฐมนตรีกลาโหมศรีลังกาลาออกจากตำแหน่ง เซ่นเหตุการระเบิดครั้งร้ายแรงที่เกิดขึ้นในวันอาทิตย์(21)
โดยในวันพุธ(24) รัฐมนตรีกิจการสาธารณะศรีลังกา ลาชมาน คิรีเอลลา(Lakshman Kiriella) ได้แถลงต่อรัฐสภาศรีลังกาว่า “มีเจ้าหน้าที่ข่าวกรองระดับสูงของศรีลังกาบางส่วนใด้จงใจปกปิดข้อมูลการข่าวอย่างมีจุดประสงค์ ซึ่งมีข้อมูลอยู่ตรงหน้าแต่ทว่าคนระดับสุงเหล่านั้นกลับไม่ออกมาตรการรับมืออย่างเหมาะสม”
และในการแถลง คิรีเอลลากล่าวว่า ***การข่าวที่เชื่อว่าทางบรรดานักการเมืองได้รับมาจากหน่วยงานข่าวกรองอินเดียเมื่อวันที่ 4 เม.ยถึงความน่าจะเป็นที่มือระเบิดฆ่าตัวตายจะลงมือโจมตีโบสถ์คริสต์และโรงแรม และการประชุมของสภาความั่นคงศรีลังกาที่เกิดขึ้นในวันที่ 7 เม.ย หรือ 3 วันหลังจากนั้นโดยมีประธานาธิบดีศรีลังกานั่งเป็นประธานหัวโต๊ะ แต่ทว่าข่าวกรองกลับไม่ได้รับการเผยแพร่อย่างทั่วถึง***
“มีใครบางคนกำลังควบคุมเจ้าหน้าที่ข่าวกรองระดับสูงเหล่านี้” รัฐมนตรีศรีลังกาแถลง และกล่าวต่อว่า “สภาความมั่นคงศรีลังกากำลังเล่นการเมือง เราต้องทำการสอบสวนในเรื่องนี้”
เอเอฟพีรายงานโดยอ้างจาก CNN สื่อสหรัฐฯว่า หน่วยข่าวกรองอินเดียได้ส่ง “การข่าวที่ไม่ปกติ” ไปให้กับทางศรีลังกาหลายสัปดาห์ก่อนหน้าการโจมตี แต่ทว่าข้อมูลชิ้นนี้กลับไม่ได้ถูกส่งให้กับนายกรัฐมนตรีศรีลังกา รานิล วิกรามาสิงหะ หรือรัฐมนตรีระดับสูงคนอื่นรัฐบาลศรีลังกาแถลง
เอเอฟพีกล่าวว่า ผู้บัญชาการตำรวจศรีลังกาได้ออกคำเตือนการโจมตีในวันที่ 11 เม.ย
รอยเตอร์รายงานว่า ซาราธ ฟอนเซกา(Sarath Fonseka) อดีตผู้นำกองทัพศรีลังกาและรัฐมนตรีพัฒนาภูมิภาคศรีลังกาแถลงต่อสภาว่า เขาเชื่อมั่นว่า การโจมตีครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้นต้องถูกวางแผนล่วงหน้ามาราว 7-8 ปี เป็นอย่างน้อย
ซึ่งทางเอกอัครราชทูตสหรัฐฯแถลงในกรุงโคลัมโบว่า ทางสหรัฐฯเชื่อว่ายังคงมีการวางแผนซุ่มโจมตีก่อการร้ายอย่างต่อเนื่อง โดยทางผู้ก่อการร้ายสามารถลงมือได้โดยที่ไม่ต้องเตือนล่วงหน้าในสถานที่สาธารณะที่ผู้คนรวมตัวกันอยู่
เอเอฟพีรายงานว่า ตลอดชั่วข้ามคืน เจ้าหน้าที่ความมั่นคงศรีลังกาที่ได้รับอำนาจเพิ่มภายใต้กฎหมายฉุกเฉิน ได้จับกุมผู้ต้องสงสัยเพิ่ม 18 ราย และมาถึงเวลานี้พบว่าตำรวจศรีลังกาได้จับกุมมาแล้วรวม 58 ราย โดยทั้งหมดเป็นชาวศรีลังกา สถานการณ์ทั่วไปในประเทศยังคงมีการควบคุมอย่างเข้มงวด หน่วยเก็บกู้ระเบิดถูกส่งออกไปทำการระเบิดสิ่งของต้องสงสัยตลอดทั้งวันนี้(24)
ขณะที่สถานีโทรทัศน์ทีวี 2อ้างเอกอัครราชทูตเดนมาร์กประจำอินเดีย รายงานวันพุธ(24)ว่า มีพลเมืองชาวเดนมาร์กจำนวน 2 คนที่ทางเจ้าหน้าที่และครอบครัวยังไม่สามารถติดตามตัวได้ โดยคนทั้งคู่สูญหายไปตั้งแต่เกิดเหตุโจมตีวันอาทิตย์(21) ทั้งนี้พบว่า พลเมืองเดนมาร์ก 2 รายนี้ได้เข้าเช็กอินที่โรงแรมในกรุงโคลัมโบ
แต่ล่าสุดรอยเตอร์กล่าวว่า ครอบครัวสามารถติดต่อญาติทั้ง 2 ได้สำเร็จ และพบว่าโรงแรมที่คนทั้ง 2 เข้าพักไม่ได้รับผลกระทบจากเหตุโจมตี คนทั้งคู่ปลอดภัยดี
