รอยเตอร์ - เจ็ท แอร์เวย์ส ในวันพุธ (17 เม.ย.) ระงับปฏิบัติการทุกเที่ยวบิน หลังบรรดาผู้ปล่อยกู้ปฏิเสธคำวิงวอนขอเงินกู้ฉุกเฉิน ก่อความเป็นไปได้ของการปิดตำนานสายการบินที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นสายการบินเอกชนที่ใหญ่ที่สุดของอินเดีย
สายการบินแห่งนี้ซึ่งเป็นหนี้ธนาคารอยู่ราวๆ 1,200 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 38,000 ล้านบาท) ตกอยู่ในภาวะง่อนแง่นมานานหลายสัปดาห์ หลังล้มเหลวในการขอกู้ระยะสั้นอุดช่องว่างราว 217 ล้านดอลลาร์จากเหล่าเจ้าหนี้ ส่วนหนึ่งในข้อตกลงช่วยเหลือที่เห็นพ้องกันเมื่อช่วงปลายเดือนมีนาคม
“วันนี้สายการบินไม่เหลือทางเลือกอื่นๆ ยกเว้นแต่เดินหน้าระงับปฏิบัติการเที่ยวบินเป็นการชั่วคราว” ทางบริษัทฯ ระบุในถ้อยแถลง 2 หน้าที่เผยแพร่ในช่วงค่ำวันพุธ (17 เม.ย.)
ในช่วงพีกสุด สายการบินเจ็ทมีฝูงบินมากกว่า 120 ลำและปฏิบัติการการบินมากกว่า 600 เส้นทางในแต่ละวัน ทั้งนี้ เจ็ท แอน์เวย์ส ซึ่งมีพนักงานราวๆ 16,000 คน ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมาจำเป็นต้องยกเลิกเที่ยวบินหลายร้อยเที่ยวและระงับเที่ยวบินที่มีจุดหมายปลายทางในต่างแดนทั้งหมดเนื่องจากขาดสภาพคล่องอย่างหนัก
แรงกดดันถาโถมเล่นงานเจ็ท แอร์เวย์ส อย่างหนักในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา หลังต้องเผชิญการแข่งขันอันดุเดือดกับเหล่าสายการบินต้นทุนต่ำ อย่างเช่นอินเตอร์โกลบ ซึ่งมีอินดิโก เป็นเจ้าของและสไปซ์เจ็ท เช่นเดียวกับราคาน้ำมันทึ่พุ่งขึ้น, ภาษีเชื้อเพลิงระดับสูงและค่าเงินรูปีอ่อนค่า
ในถ้อยแถลงที่เผยแพร่วันพุธ (17 เม.ย.) ทางสายการบินกล่าวขอบคุณลูกค้าผู้ภักดีที่ให้การสนับสนุนมาตลอด 25 ปี พร้อมกล่าวขอโทษอย่างใจจริงต่อกรณีก่อความวุ่นวายแก่แผนการเดินทางของลูกค้าผู้มีอุปการคุณทุกท่าน
สายการบินระบุว่าจะเดินหน้าทำงานร่วมกับเหล่าผู้ปล่อยกู้ ซึ่งกำลังพยายามหานักลงทุนมาเข้าซื้อหุ้นใหญในเจ็ท แอร์เวย์ส และพยายามพลิกฟื้นสายการบินให้คืนชีพอีกครั้ง
เจ็ท แอร์เวย์ส บอกว่าพวกเขาจะเดินหน้าสนับสนุนกระบวนการเสนอราคาที่ริเริ่มโดยเหล่าธนาคารเจ้าหนี้และหวังว่าจะสามารถกลับมาให้บริการได้อีกครั้งเร็วๆนี้
การขาดแคลนสภาพคล่องดังกล่าวทำให้นักบินไม่ได้รับเงินเดือนเป็นเวลานานหลายเดือน ขณะที่บริษัทที่ให้เช่าเครื่องบินแก่เจ็ท แอร์เวย์ส ก็ไม่ได้รับเงินค่าเช่า นอกจากนี้ เจ็ท แอร์เวย์สยังได้ผิดนัดชำระหนี้จำนวนมากต่อองค์กรต่างๆ ซึ่งรวมถึงธนาคารกลางอินเดีย
สายการบินเอทิฮัด ซึ่งถือหุ้น 12% ในเจ็ท แอร์เวย์ส มีความสนใจที่จะเพิ่มการถือครองหุ้น ในขณะที่มีกฎหมายระบุว่าบริษัทต่างชาติสามารถถือครองหุ้นในสายการบินอินเดียได้ไม่เกิน 49%
เจ็ท แอร์เวย์ส ระบุในถ้อยแถลงว่าได้รับแจ้งจากเหล่าเจ้าหนี้เมื่อช่วงค่ำวันอังคาร(16เม.ย.) ว่าพวกเขาไม่อาจพิจารณาคำร้องของเงินกู้ระยะสั้นได้ "เนื่องด้วยไม่มีเงินทุนฉุกเฉิจากเหล่าผู้ปล่อยกู้หรือจากแหล่งอื่นๆเข้ามา ทางสายการบินจึงไม่สามารถจ่ายค่าน้ำมันหรือค่าบริการสำคัญๆอื่นๆเพื่อให้ปฏิบติการเดินหน้าต่อไปได้"
แหล่งข่าว 2 แห่งจากสเตทแบงค์ออฟอินเดีย ธนาคารแห่งรัฐ เจ้าหนี้รายใหญ่ของ เจ็ท แอร์เวย์ส เปิดเผยกับรอยเตอร์ว่าทางธนาคารปฏิเสธคำร้องขอกู้เงิน 4,000 ล้านรูปี (58 ล้านดอลลาร์) จากเจ็ท เพื่อให้ยังคงปฏิบัติการได้ชั่วคราว
“ธนาคารต่างๆ ไม่ต้องการใช้แนวทางที่ไม่ปะติดปะต่อซึ่งอาจช่วยใหสายการบินกลับมาบินได้ไม่กี่วัน จากนั้นก็เสี่ยงที่ทาง เจ็ท จะกลับมาขอเงินกู้ฉุกเฉินเพิ่มเติมอีก” แหล่งข่าวระบุ