รอยเตอร์ - รัฐบาลอิหร่านจะเรียกร้องให้ประชาคมโลกแสดงจุดยืนกรณีสหรัฐฯ ประกาศขึ้นบัญชีดำกองกำลังพิทักษ์ปฏิวัติอิสลามอิหร่าน (IRGC) เป็นองค์กรก่อการร้าย รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศอิหร่านแถลงวันนี้ (14 เม.ย.)
เตหะรานชี้ว่า สิ่งที่ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ทำเมื่อสัปดาห์ที่แล้วนั้นเป็นเรื่อง “ผิดกฎหมาย” โดยกองกำลัง IRGC ถือเป็นหน่วยความมั่นคงที่มีอิทธิพลอย่างสูงทั้งในด้านการเมืองและเศรษฐกิจของอิหร่าน
ทรัมป์ ประกาศเมื่อวันที่ 8 เม.ย. ให้กองกำลัง IRGC อิหร่านมีสถานะเป็นองค์กรก่อการร้าย ซึ่งเป็นความเคลื่อนไหวที่สหรัฐฯ ไม่เคยทำมาก่อนกับกองทัพรัฐบาลต่างชาติ
“เราจะส่งสาส์นไปยังรัฐมนตรีต่างประเทศของทุกๆ ประเทศ เพื่อเรียกร้องให้พวกเขาแสดงจุดยืน และเตือนให้ทราบว่านี่คือสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน และเป็นมาตรการอันตรายของสหรัฐฯ ที่จะต้องได้รับผลตอบสนอง” สำนักข่าว IRNA ของอิหร่านอ้างถ้อยแถลงของรัฐมนตรีต่างประเทศ โมฮัมหมัด จาวัด ซารีฟ ซึ่งได้ส่งจดหมายร้องเรียนไปยัง อันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการใหญ่สหประชาชาติ และคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ เพื่อประท้วง “มาตรการที่ผิดกฎหมาย” ของวอชิงตันด้วย
เตหะรานแก้แค้นด้วยการประกาศให้สหรัฐอเมริกาเป็นรัฐที่สนับสนุนกลุ่มก่อการร้าย และให้กองบัญชาการกลางสหรัฐฯ (CENTCOM) เป็นองค์กรก่อการร้ายเช่นกัน
ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ กับอิหร่านย่ำแย่ลงหลังจากที่ ทรัมป์ ได้นำอเมริกาถอนตัวออกจากข้อตกลงควบคุมนิวเคลียร์ปี 2015 ที่อิหร่านทำร่วมกับกลุ่มมหาอำนาจ P5+1 และสั่งรื้อฟื้นมาตการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจต่อเตหะรานอีกครั้ง
ก่อนหน้านี้ สหรัฐฯ ได้มีการขึ้นบัญชีดำหน่วยงานและบุคคลที่มีส่วนเชื่อมโยงกับ IRGC ไปแล้วหลายราย ทว่ายังไม่เคยสั่งขึ้นบัญชีดำ IRGC ทั้งหน่วยงานมาก่อน
ผู้บัญชาการ IRGC เคยออกมาเตือนหลายครั้งว่า ฐานทัพสหรัฐฯ ในตะวันออกกลางและเรือบรรทุกเครื่องบินอเมริกาในอ่าวเปอร์เซียล้วนอยู่ในพิสัยโจมตีของขีปนาวุธอิหร่านทั้งสิ้น
อิหร่านยังเคยขู่ว่าจะไม่ยอมให้น้ำมันแม้แต่หยดเดียวถูกลำเลียงออกจากอ่าวเปอร์เซียผ่านช่องแคบฮอร์มุซ (Strait of Hormuz) หากสหรัฐฯ พยายามปิดกั้นการส่งออกน้ำมันของอิหร่าน
รัฐมนตรีกระทรวงน้ำมันของอิหร่านระบุวันนี้ (14) ว่า ดุลยภาพของอุปสงค์และอุปทานน้ำมันในตลาดโลกกลายเป็นสิ่งเปราะบาง เนื่องจากสหรัฐฯ ลงโทษคว่ำบาตรอิหร่าน, เวเนซุเอลา รวมถึงวิกฤตการเมืองในลิเบียที่กลับมาร้อนระอุขึ้นในช่วงนี้ พร้อมเตือนถึงผลลัพธ์รุนแรงที่จะตามมาจากการบีบคั้นอิหร่าน