เอเอฟพี - ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ระบุวานนี้ (12 เม.ย.) ว่ากำลังพิจารณาอย่างจริงจังว่าส่งพวกผู้อพยพผิดกฎหมายไปยังบรรดาเมืองซึ่งฝ่าฝืนนโยบายของรัฐและให้ที่พักพิงแก่คนเหล่านี้ (sanctuary cities)
คำขู่ทางทวิตเตอร์ของ ทรัมป์ ถือเป็นการหักล้างคำยืนยันของทำเนียบขาวที่ว่าแนวคิดดังกล่าวถูกยกเลิกไปแล้ว หลังเกิดกระแสวิจารณ์ว่ารัฐบาลจ้องจะแก้แค้นเมืองที่เป็นฐานเสียงของพรรคเดโมแครต
“เนื่องจากพรรคเดโมแครตไม่ให้ความร่วมมือในการแก้ไขกฎหมายคนเข้าเมืองซึ่งเป็นอันตรายร้ายแรง ดังนั้น เราจึงพิจารณาอย่างจริงจังว่าจะส่งผู้อพยพผิดกฎหมายไปยังเมืองซึ่งให้ที่พักพิงแก่พวกเขา” ทรัมป์ ทวีตข้อความ
“พวกซ้ายจัดมักจะเรียกร้องนโยบายเปิดพรมแดน-อ้าแขนรับ ฉะนั้นมันคงจะทำให้พวกเขามีความสุขมาก!”
หนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์เป็นสื่อเจ้าแรกที่ออกมาเผยแนวคิดนี้ของ ทรัมป์ ซึ่งคาดว่าจะยิ่งกระพือความขัดแย้งเรื่องปัญหาผู้อพยพ
ทรัมป์ ยืนยันว่าสหรัฐฯ กำลังถูกรุกรานโดยพวกผู้อพยพและผู้ลี้ภัย แต่ฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยโดยเฉพาะคนในพรรคเดโมแครตแย้งว่า นโยบายสร้างกำแพงกั้นพรมแดนเม็กซิโกและคำปรามาสด่าทอผู้อพยพที่ ทรัมป์ ออกมากล่าวแทบทุกวันนั้นเป็นการยั่วยุให้เกิดความเกลียดชังทางเชื้อชาติ
ผู้นำสหรัฐฯ ให้สัมภาษณ์ในเวลาต่อมาว่า สภาคองเกรสควรผ่านกฎหมายเพิ่มความเข้มงวดในการออกวีซ่า และเร่งกระบวนการเนรเทศผู้อพยพให้เร็วขึ้น ไม่เช่นนั้นตนอาจจะสั่งให้นำผู้อพยพไปทิ้งไว้ตามเมืองซึ่งประกาศให้ความคุ้มครองแก่พวกเขา
“ถ้าพวกเขาไม่เห็นด้วย เราก็อาจจะทำในสิ่งที่พวกเขาต้องการ นั่นคือส่งผู้อพยพไปยังเมืองซึ่งให้ที่พักพิง เพื่อให้พวกเขาดูแลกันเอง” ทรัมป์ ระบุ “เรายินดีจะส่งให้แบบไม่จำกัดจำนวนเลยล่ะ”
ในช่วงค่ำวันศุกร์ (12) ทรัมป์ ก็ออกมาย้ำข้อเรียกร้องให้สหรัฐฯ ใช้ระบบคัดกรองผู้อพยพที่เน้น “คุณสมบัติ” เป็นหลัก
“ถ้าจู่ๆ พวกเดโมแครตหัวซ้ายจัดก็เกิดไม่อยากจะรับผู้อพยพผิดกฎหมายเข้าไปยังเมืองซึ่งให้ที่พักพิง แล้วทำไมถึงคิดว่าชุมชนอื่นๆ จะต้องยอมรับคนเหล่านั้นด้วย” ทรัมป์ ทวีตคำถาม
sanctuary cities หมายถึงเมืองที่ฝ่ายบริหารท้องถิ่น ซึ่งส่วนใหญ่มักจะเป็นคนของพรรคเดโมแครต ปฏิเสธส่งตัวผู้อพยพผิดกฎหมายเพื่อเข้าสู่กระบวนการเนรเทศ
วอชิงตันโพสต์อ้างข้อมูลจากแหล่งข่าวในกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิและอีเมลที่รั่วไหลออกมา ซึ่งระบุว่า ทำเนียบขาวเริ่มพิจารณาแผนนี้ตั้งแต่เดือน พ.ย. โดยสอบถามไปยังหลายหน่วยงานว่าสหรัฐฯ จะ สามารถสกัดคาราวานผู้อพยพที่ชายแดน และลำเลียงพวกเขาไปยัง “เมืองขนาดเล็กและกลางซึ่งยอมให้ที่พักพิง” ได้หรือไม่
ทำเนียบขาวชี้แจงต่อสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากรสหรัฐฯ (ICE) ว่า แผนดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อบรรเทาปัญหาขาดแคลนสถานที่กักกัน และยังเป็นการขู่พรรคเดโมแครตด้วยกลายๆ
อย่างไรก็ตาม ข้อเสนอนี้ถูก ICE ปฏิเสธว่าเป็นแผนที่ “ไม่เหมาะสม” และต่อมาเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวและโฆษกกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิก็ออกมายืนยันว่า แผนดังกล่าวไม่ได้อยู่ในการพิจารณาอีกต่อไป
หนึ่งในพื้นที่ที่ ทรัมป์ จ้องเล่นงานก็คือเขตเลือกตั้งที่ 12 ของรัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งมี แนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรจากพรรคเดโมแครตเป็นผู้แทน
“การใช้ชีวิตมนุษย์โดยเฉพาะเด็กเล็กๆ มาเป็นเหยื่อในเกมสร้างความหวาดกลัวและความเกลียดชังผู้อพยพ ถือเป็นเรื่องเลวทราม” แอชลีย์ เอเตียนน์ โฆษกของเพโลซี แถลง
หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์สรายงานวานนี้ (12) ว่า ทรัมป์ ได้บอกกับ เควิน แมคคาลีนัน (Kevin McAleenan) ซึ่งได้รับการเสนอชื่อเป็นรักษาการรัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า อยากจะให้สั่งปิดพรมแดนทางใต้เสีย พร้อมรับปากจะใช้อำนาจประธานาธิบดีอภัยโทษให้แก่เขาหากมีการฟ้องร้องเกิดขึ้น