xs
xsm
sm
md
lg

บรูไนส่งหนังสือโต้UN แจงปาหินประหารชีวิตเกย์เซ็กซ์-คบชู้เป็นแค่มาตรการป้องกัน

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


รอยเตอร์ - บรูไนชี้แจงอีกรอบในวันศุกร์(12เม.ย.) ว่ากฎหมายใหม่ที่กำหนดบทลงโทษประหารชีวิตพวกคบชู้และเกย์เซ็กซ์ด้วยการปาหินจนตาย ถูกออกแบบมาในฐานะมาตรการป้องกันมากกว่าที่จะเป็นการลงโทษ ตอบโต้สหประชาชาติที่ออกมาประณามกฎหมายดังกล่าว

สหประชาชาติระบุว่าอดีตอาณานิคมของอังกฤษซึ่งมีชาวมุสลิมเป็นชนกลุ่มใหญ่ได้ละเมิดสิทธิมนุษยชนเมื่อวันที่ เมษายน ด้วยการบังคับใช้กฎหมายอิสลามซึ่งกำหนดบทลงโทษประหารชีวิตพวกเสพสังวาสที่ผิดธรรมชาติหรือเกย์เซ็กซ์, การคบชู้และข่มขืน ในนั้นรวมถึงปาหินจนตาย และตัดมือเท้าพวกหัวขโมย

อย่างรก็ตาม เอรีวาน ยูโซฟ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศบรูไน ปกป้องกฎหมายใหม่ในหนังสือที่ส่งถึงสหประชาชาติ โดยระบุว่าความเคลื่อนไหวดังกล่าวมุ่งเน้นไปที่การป้องกันมากกว่าการลงโทษ "มันมีเป้าหมายคือมอบการศึกษา, ยับยั้ง, บำบัดฟื้นฟูและอบรม มากกว่าที่จะเป็นการลงโทษ"

ในหนังสือ ยูโซฟ บอกด้วยว่ากฎหมายดังกล่าวจะไม่บังคับใช้กับพลเมืองที่ไม่ใช่ชาวมุสลิมในบรูไน ประเทศที่ตกอยู่ในใจกลางมรสุมของสื่อมวลชน นับตั้งแต่แถลงยกระดับความเข้มข้นของกฎหมายชารีอะฮ์เมื่อเดือนมีนาคม

บรูไน ประเทศเล็กๆในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งมีประชากร 400,000 คน ยืนกรานปกป้องสิทธิในการบังคับใช้กฎหมายของตนเองมาตลอด ซึ่งเริ่มบังคับใช้เป็นครั้งแรกในปี 2014 และยกระดับอย่างเป็นขั้นเป็นตอนมานับตั้งแต่นั้น

เนื้อหาในหนังสือที่ส่งถึงสหประชาชาติ ระบุด้วยว่า "การจัดให้การคบชู้และเสพสังวาสผิดธรรมชาติเป็นความผิดทางอาญา เป็นการปกป้องความศักดิ์สิทธิ์ของวงศ์ตระกูลและชีวิตสมรสของชาวมุสลิม โดยเฉพาะผู้หญิง"

อันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติระบุผ่านโฆษกเมื่อวันที่ 3 เมษายน ว่า"สิทธิมนุษยชนควรได้รับการยึดถือในทุกๆ บุคคลและทุกหนทุกแห่งโดยปราศจากลักษณะของการเลือกปฏิบัติใดๆ กฎหมายที่ผ่านความเห็นชอบนี้เป็นการละเมิดอย่างโจ่งแจ้งต่อหลักการสิทธิการแสดงออก"

สหประชาชาติเน้นว่าการบังคับใช้กฎหมายใหม่นี้เป็นการฝ่าฝืนมาตรฐานสิทธิมนุษยชนสากลที่ระบุไว้ในปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชนปี 1948 ซึ่งบรูไนได้ลงสัตยาบันไปเมื่อปี 2006

จอร์จ คลูนีย์ นักแสดงฮอลลีวูดชื่อดังเขียนบทความซึ่งเผยแพร่โดย Deadline เพื่อประณามการเพิ่มโทษอาญาของบรูไน พร้อมเรียกร้องให้ผู้คนบอยคอตโรงแรม 9 แห่งของสมเด็จพระราชาธิบดีสุลต่านฮัสซานัล โบลเกียห์ ประมุขของบรูไน

เสียงเรียกร้องดังกล่าวกระตุ้นให้ผู้คนร่วมกันบอยคอตโรงแรมเหล่านี้กันทั่วโลก รวมถึง เอเลน ดีเจเนอเรส พิธีกรเลสเบี้ยนชื่อดังของสหรัฐฯ นอกจากนี้ ยังมีคนเข้าไปประณามการบังคับใช้กฎหมายชารีอะฮ์ในโซเชียลมีเดียของโรงแรมเหล่านี้ จนต้องปิดบัญชีไป

ขณะที่องค์การนิโทษกรรมสากล ได้เรียกร้องให้บรูไนยุติการเพิ่มโทษใหม่ทั้งหมด โดยเรเชล โช-ฮาเวิร์ด นักวิจัยบรูไนกล่าวในถ้อยแถลงว่า การบังคับใช้บทลงโทษที่ทารุณและไร้มนุษยชนเป็นเรื่องน่ารังเกียจด้วยตัวของมันเองอยู่แล้ว แต่บางข้อหาไม่ควรเป็นอาชญากรรมด้วยซ้ำ เช่น การร่วมเพศกันโดยสมัครใจระหว่างคนเพศเดียวกัน

ฮิวแมนไรท์วอทช์ องค์กรด้านสิทธิมนุษยชนสากลกล่าวว่า การเพิ่มโทษครั้งนี้เป็นการลงโทษที่ป่าเถื่อนโดยแก่นแท้ พร้อมเรียกร้องให้สุลต่านบรูไนระงับการตัดอวัยวะ ปาหิน และการลงโทษอื่นๆ ที่ละเมิดสิทธิทันที
กำลังโหลดความคิดเห็น