อินเดียเริ่มศึกเลือกตั้งใหญ่ที่สุดในโลก โพลชี้ ‘โมดี’ มีลุ้นนายกฯ สมัยสอง

เอเอฟพี - ศึกเลือกตั้งทั่วไปในอินเดียซึ่งเป็นการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยที่ใหญ่ที่สุดในโลกเปิดฉากขึ้นแล้วในวันนี้ (11 เม.ย.) ขณะที่ผลสำรวจบ่งชี้ไปในทางเดียวกันว่า นายกรัฐมนตรี นเรนทรา โมดี จากพรรคชาตินิยมฮินดูภารติยะชนตะ (BJP) มีหวังโกยคะแนนเสียงจากผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง 900 ล้านคนทั่วประเทศกลับมาครองเก้าอี้นายกฯ ได้เป็นสมัยที่สอง

แม้โพลส่วนใหญ่ยังคงยกให้ โมดี วัย 68 ปี เป็นตัวเก็งนายกรัฐมนตรี แต่เขาก็ต้องเผชิญการท้าทายจากกลุ่มฝ่ายค้านตระกูล เนห์รู-คานธี ซึ่งหวังช่วงชิงคะแนนเสียงจากผลงานที่ย่ำแย่ของรัฐบาลในด้านการสร้างงานและการแก้ไขปัญหาความยากจนในชนบท

เนื่องจากอินเดียเป็นประเทศขนาดใหญ่ ศึกเลือกตั้งทั่วไปครั้งนี้จึงต้องทยอยจัดเป็น 7 รอบ โดยเริ่มตั้งแต่หุบเขาดาร์จีลิงในรัฐอัสสัมซึ่งเป็นแหล่งปลูกชาชั้นดีเรื่อยมาจนถึงมหานครมุมไบ หมู่เกาะในทะเลอันดามัน และภูมิภาคอื่นๆ ซึ่งตั้งอยู่ระหว่างนั้น

กองกำลังความมั่นคงอินเดียได้เพิ่มมาตรการรักษาความสงบเรียบร้อยเพื่อป้องกันเหตุรุนแรงที่มักจะเกิดในช่วงเลือกตั้ง โดยในสัปดาห์นี้มีประชาชนและนักการเมืองท้องถิ่นถูกสังหารไปแล้ว 5 คน ซึ่งคาดว่าเป็นฝีมือพวกกบฏเหมาอิสต์

สงครามในสื่อออนไลน์ก็ดุเดือดเลือดพล่านไม่แพ้กัน โดยมีความพยายามเผยแพร่ข้อมูลเท็จและข่าวลวงต่างๆ เพื่อเข้าถึงชาวอินเดียซึ่งได้ชื่อว่าเป็นกลุ่มผู้ใช้อันดับ 1 ของเฟซบุ๊กและวอทส์แอปป์

พรรคการเมืองและผู้สมัครหลายพันคนจะต่อสู้ช่วงชิงเก้าอี้ใน ‘โลกสภา’ หรือสภาผู้แทนราษฎรรวม 543 ที่นั่งกันตั้งแต่วันนี้จนถึง 19 พ.ค. และคาดว่าจะประกาศผลเลือกตั้งอย่างเป็นทางการได้ในช่วงวันที่ 23 พ.ค.

เครื่องลงคะแนนอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Voting Machine -EVM) ราว 1.1 ล้านเครื่องจะถูกส่งไปยังหน่วยเลือกตั้งทั่วประเทศ ตั้งแต่ในเมืองใหญ่ๆ เรื่อยไปจนถึงเขตภูเขาห่างไกล รวมถึงหมู่บ้านแห่งหนึ่งที่อยู่ติดชายแดนจีนและมีผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งอยู่เพียงคนเดียว

สำหรับการเลือกตั้งรอบแรกในวันนี้ (11) จะครอบคลุมผู้มีสิทธิ์ลงคะแนนประมาณ 142 ล้านคน โดยกลุ่มรัฐทางตะวันออกเฉียงเหนือ เช่น อรุณาจัลประเทศที่อยู่ติดพรมแดนจีนจะเปิดให้มีการลงคะแนนเป็นที่แรกๆ ตามมาด้วยบางส่วนของรัฐอุตตรประเทศ, รัฐจัมมูและแคชเมียร์ และรัฐเตลันกานาทางภาคใต้

ที่รัฐอัสสัมมีประชาชนต่อคิวตามหน่วยเลือกตั้งต่างๆ ก่อนเปิดให้ลงคะแนนถึง 45 นาที โดยเฉพาะกลุ่มคนหนุ่มสาวซึ่งมีท่าทีกระตือรือร้นในการออกมาใช้สิทธิ์

“มันเป็นความรู้สึกยอดเยี่ยมมากๆ ที่ได้มาลงคะแนน ซึ่งทำให้ผมได้เป็นส่วนหนึ่งของระบอบประชาธิปไตย และมีส่วนในการคัดเลือกผู้นำที่ดีมาปกครองประเทศ” อนุรัก บารูอาห์ วัย 23 ปี ให้สัมภาษณ์กับเอเอฟพี

โมดี และพรรค BJP คว้าชัยชนะอย่างถล่มทลายในศึกเลือกตั้งเมื่อปี 2014 ด้วยคำมั่นสัญญาว่าจะทำให้ชาวอินเดียได้มี “วันดีๆ” และยังเป็นพรรคการเมืองแรกที่ครองเสียงข้างมากอย่างเด็ดขาดในรอบ 30 ปี

อย่างไรก็ตาม พรรค BJP ถูกวิจารณ์ว่าพยายามยกผลประโยชน์ของชาวฮินดูมาเป็นวาระของชาติ และยุยงส่งเสริมให้เกิดการโจมตีชาวมุสลิมและคนวรรณะจัณฑาลที่บริโภคและค้าเนื้อวัวซึ่งเป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ของชาวฮินดู

แม้ โมดี จะแก้กฎหมายภาษีเพื่อส่งเสริมภาคธุรกิจ แต่คำสัญญาบางอย่างก็ยังทำได้ไม่สำเร็จ โดยเฉพาะในเขตชนบทซึ่งมีเกษตรกรเป็นหนี้จนฆ่าตัวตายไปแล้วหลายพันคนในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา

อินเดียซึ่งมีเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลกยังมีอัตราการเติบโตเชื่องช้าเกินกว่าจะสร้างงานรองรับชาวอินเดียซึ่งเข้าสู่ตลาดแรงงานเพิ่มขึ้นราวๆ 1 ล้านคนต่อเดือน ทำให้จำนวนคนตกงานในขณะนี้พุ่งสูงเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่ทศวรรษ 1970 เป็นต้นมา

ราหุล คานธี วัย 48 ปี ซึ่งหวังจะทวงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีกลับคืนสู่สายตระกูลคานธี-เนห์รู กล่าวหานายกฯ โมดี ว่าสร้าง “หายนะต่อประเทศชาติ”

กระแสความไม่พอใจรัฐบาลช่วยให้พรรคคองเกรสของ คานธี ชนะศึกเลือกตั้งท้องถิ่นใน 3 รัฐสำคัญของอินเดียเมื่อเดือน ธ.ค. และเริ่มทำคะแนนนิยมตีตื้นขึ้นในภาคเหนือซึ่งคนส่วนใหญ่พูดภาษาฮินดีและเป็นฐานเสียงหลักของ โมดี