เอเอฟพี – ในดินแดนศูนย์กลางน้ำมันของสหรัฐฯ ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ประกาศการลงนามสองคำสั่งบริหารเพื่อเร่งการก่อสร้างท่อส่งน้ำมันและก๊าซ สร้างความผิดหวังให้กับนักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
มาตรการล่าสุดนี้สอดคล้องกับมาตรการอื่นๆ ที่คณะบริหารของเขาใช้เพื่อผ่อนคลายการควบคุมภาคพลังงาน ผู้ว่าจ้างรายใหญ่ และแหล่งที่มาของการเจริญเติบโตในเท็กซัส ซึ่งเขาแจ้งประกาศนี้ต่อวิศวกรเดินเครื่องในสหภาพแรงงาน
“โครงการสร้างพื้นฐานด้านพลังงานที่มีความจำเป็นอย่างมากถูกหน่วงเหนี่ยวโดยกลุ่มผลประโยชน์พิเศษ ระบบราชการคร่ำครึ และนักเคลื่อนไหวสุดโต่ง” ประธานาธิบดีทรัมป์ กล่าวในเมืองครอสบี ใกล้เมืองฮิวส์ตัน
“ผมจะลงนามคำสั่งบริหารเพื่อฟื้นฟูอุตสาหกรรมด้านพลังงานของอเมริกาและตำแหน่งงาน” ทรัมป์ ซึ่งสนับสนุนมาตรการนี้อย่างเป็นทางการ กล่าว
“การกระทำของผมในวันนี้จะทะลวงผ่านความล่าช้าและการปฏิเสธใบอนุญาตต่างๆ”
มาตรการนี้มีเป้าหมายเพื่อยับยั้งความล่าช้าในการได้รับใบอนุญาตเพื่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานบางส่วน รวมถึงท่อส่ง และทำให้ประธานาธิบดีเป็นมี “อำนาจเด็ดขาดในการตัดสินใจ เมื่อเราประสบปัญหา” เขาบอกกับผู้สนับสนุน
มาตรการนี้ยังพยายามจำกัดอำนาจของรัฐต่างๆ ในกระบวนการนี้ด้วย วอชิงตันโพสต์ ซึ่งอ้างหนึ่งในสองคำสั่งบริหาร รายงาน
สหรัฐฯ ผลิตน้ำมันดิบเฉลี่ย 12.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน นับเป็นปริมาณมากที่สุดในโลก อ้างจากข้อมูลของสำนักงานข้อมูลพลังงานสหรัฐฯ (US Energy Information Administration : EIA) ที่เผยแพร่เมื่อวานนี้ (10)
ประกาศของทรัมป์นำมาซึ่งแรงต่อต้านถาโถมจากกลุ่มนักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและนักการเมืองฝ่ายค้านบางคน
“ผมมีความคิดที่ดีกว่านั้น ลงทุนในโครงการสร้างพื้นฐานพลังงานสะอาดที่สร้างตำแหน่งงานและไม่ทำลายโลกของเราสิ” เจย์ อินส์ลี ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์ก ที่กำลังขอให้พรรคเดโมแครตเสนอชื่อลงสมัครประธานาธิบดี กล่าว
อินส์ลี กล่าวว่า เขาจะทำให้การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศเป็นหัวข้อหลักในการหาเสียงของเขา แตกต่างกับทรัมป์ที่ถอดสหรัฐฯ ออกจากข้อตกลงปารีสว่าด้วยการควบคุมโลกร้อนปี 2015
คำสั่งบริหารของทรัมป์ออกมากหลังจากเมื่อเดือนที่แล้วเขาออกใบอนุญาตใหม่สำหรับการก่อสร้างท่อส่ง Keystone XL เพื่อนำน้ำมันจากแคนาดามาสหรัฐฯ
รัฐบาลชุดที่แล้วของ บารัก โอบามา ขัดขวางโครงการนี้ในปี 2015 โดยอ้างความเสี่ยงด้านสิ่งแวดล้อม
