xs
xsm
sm
md
lg

ศึกชิง‘เมืองหลวงลิเบีย’ทวีความดุเดือดรุนแรง อเมริกันอพยพทหารส่วนหนึ่งออกไปแล้ว

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

<i>สมาชิกกองกำลังอาวุธ “กองทัพแห่งชาติลิเบีย” (LNA) ที่นำโดย คอลิฟา ฮัฟตาร์ เคลื่อนขบวนออกจากเมืองเบงกาซี ทางภาคตะวันออกของประเทศ เมื่อวันอาทิตย์ (7 เม.ย.)  โดยมุ่งหน้าไปเสริมกำลังทหารฝ่ายตนซึ่งกำลังรุกคืบหน้าสู่กรุงตริโปลี </i>
รอยเตอร์/เอเจนซีส์ – กองกำลังอาวุธจากภาคตะวันออกของลิเบีย เปิดการโจมตีทางอากาศใส่บริเวณตอนใต้ของกรุงตริโปลี ในวันอาทิตย์ (7 เม.ย.) อีกทั้งสามารถเคลื่อนกำลังรุกคืบหน้ามุ่งสู่บริเวณศูนย์กลางของเมืองหลวง ชาวเมืองหลายรายระบุ สถานการณ์เช่นนี้ชี้ให้เห็นว่าการปฏิบัติยึดเมืองหลวงของฝ่ายนี้กำลังทวีความดุเดือดรุนแรง ขณะที่สหประชาชาติล้มเหลวไม่สามารถผลักดันให้เกิดการตกลงหยุดยิงขึ้นมาได้

กองกำลังอาวุธที่ใช้ชื่อว่า กองทัพแห่งชาติลิเบีย (Libyan National Army ใช้อักษรย่อว่า LNA) ของ คอลิฟา ฮัฟตาร์ (Khalifa Haftar) ขุนศึกวัย 75 ปีซึ่งสนับสนุนคณะบริหารอีกชุดหนึ่งที่ตั้งฐานอยู่ทางภาคตะวันออกของประเทศ ได้สร้างเซอร์ไพรซ์ตั้งแต่วันพฤหัสบดี (4) ที่แล้ว ด้วยการยกกำลังรุกโจมตีตริโปลี ซึ่งตั้งอยู่ทางภาคตะวันตกของลิเบีย และเป็นฐานของรัฐบาลที่ได้รับการหนุนหลังจากสหประชาชาติ ซึ่งมีชื่อเรียกกันว่า “รัฐบาลของข้อตกลงแห่งชาติ (Government of National Accord ใช้อักษรย่อว่า GNA)

การรุกโจมตีคราวนี้กำลังเพิ่มความดุเดือดรุนแรงให้แก่การต่อสู้ช่วงชิงอำนาจซึ่งขัดขวางการผลิตน้ำมันและก๊าซของประเทศ นับตั้งแต่ที่กองกำลังชาวลิเบียฝ่ายต่างๆ ซึ่งได้แรงหนุนหลังจากการโจมตีทางอากาศขององค์การนาโต้ ได้เข้าโค่นล้มและสังหาร พันเอกมูอัมมาร์ กัดดาฟี ผู้เผด็จการที่ปกครองประเทศในแอฟริกาเหนือแห่งนี้มายาวนาน เมื่อปี 2011

ตามคำบอกเล่าของชาวเมือง กองกำลังของ LNA ได้บุกไปถึงชานเมืองด้านใต้ของเมืองหลวงตั้งแต่วันศุกร์ (5) และเวลานี้ประกาศว่าสามารถยึดครองท่าอากาศยานนานาชาติแห่งเก่าที่ถูกทิ้งร้างมาหลายปีแล้วเอาไว้ได้ ถึงแม้พวกเจ้าหน้าที่ทหารของฝ่ายตริโปลีปฏิเสธเรื่องนี้ก็ตามที

ชาวเมืองรายหนึ่งเล่าว่า เครื่องบินรบอย่างน้อยที่สุด 1 ลำได้เข้าโจมตีทางอากาศในพื้นที่ดังกล่าว ขณะที่ อาเหม็ด มิสมารี โฆษกของ LNA สำทับว่า กองทัพอากาศของฝ่ายตนเข้าร่วมในการปฏิบัติการทางทหารเป็นครั้งแรก และประสบความสำเร็จมากในการรักษาถนนจากท่าอากาศยานไปยังศูนย์กลางของเมืองหลวง

ขณะที่ชาวบ้านอีกผู้หนึ่งบอกว่า LNA ได้เคลื่อนกำลังบุกคืบหน้าไปทางเหนือ ตามถนนจากท่าอากาศยานเก่าไปยังอำเภอคอลัต เฟอร์กัน และกำลังอยู่ห่างจากศูนย์กลางของตริโปลีราว 11 ก.ม. พร้อมกับบอกด้วยว่า เห็นกองทหารที่ภักดีกับรัฐบาลตริโปลีล่าถอยไป
<i>ยานยนต์ทหารของกองกำลังอาวุธมิสราตา ซึ่งมุ่งปกป้องคุ้มครองเมืองหลวงตริโปลี ปรากฏตัวอยู่ในย่านตาจูรา ทางด้านตะวันออกของตริโปลีเมื่อวันเสาร์ (6 เม.ย.) </i>
ทางด้านสำนักงานของสหประชาชาติประจำลิเบีย (UNSMIL) ได้ออกคำแถลงเรียกร้องในวันอาทิตย์ให้มีการหยุดยิงเป็นเวลา 2 ช.ม. ในบริเวณตอนใต้ของตริโปลี เพื่อจะได้อพยพพลเรือนและผู้บาดเจ็บออกจากพื้นที่สู้รบ แต่เจ้าหน้าที่ยูเอ็นผู้หนึ่งยอมรับว่า เมื่อถึงช่วงเย็น ก็ไม่สามารถรักษาการหยุดยิงเอาไว้ได้

ทั้งสองฝ่ายต่างรายงานว่า ตั้งแต่วันพฤหัสบดี (4) มีผู้ถูกสังหารจากการสู้รบไปอย่างน้อย 35 คนแล้ว ในจำนวนนี้หลายรายเป็นพลเรือน

ขณะที่กระทรวงสาธารณสุขของรัฐบาลตริโปลีแถลงว่า มีผู้ถูกสังหารไปอย่างน้อย 21 คนในจำนวนนี้เป็นแพทย์ 1 คน นอกจากนั้นยังมีผู้บาดเจ็บอย่างน้อย 27 ราย ส่วนโฆษกของกองกำลังของฮัฟตาร์กล่าวในวันเสาร์ (6) ว่า ทหารของฝ่ายเขาถูกสังหารไป 14 คนนับตั้งแต่การรุกคราวนี้เริ่มต้นขึ้น

สัญญาณอีกอย่างหนึ่งซึ่งส่อแสดงให้เห็นว่าสถานการณ์ในบริเวณเมืองหลวงลิเบียกำลังเลวร้ายลง ได้แก่การที่ กองบัญชาการทหารสหรัฐฯด้านแอฟริกา แถลงวันอาทิตย์ (7) ว่า ได้อพยพบางส่วนของกองทหารอเมริกันหน่วยเล็กๆ ซึ่งประจำอยู่ในลิเบียมาสองสามปีแล้ว ออกไปเป็นการชั่วคราว ด้วยเหตุผลด้านความมั่นคงปลอดภัย

ขณะเดียวกัน กองกำลังอาวุธหลายหน่วยซึ่งเป็นพันธมิตรกับรัฐบาล GNA ที่ตริโปลี ประกาศว่า พวกเขากำลังเปิดการปฏิบัติการตอบโต้ที่ใช้ชื่อว่า “ภูเขาไฟแห่งความโกรธเกรี้ยว” เพื่อปกป้องพิทักษ์เมืองหลวง โฆษกผู้หนึ่งกล่าวโดยไม่ได้ให้รายละเอียดอะไร

สำหรับการรุกโจมตีของ LNA คราวนี้ สร้างความเซอร์ไพรซ์ให้แก่สหประชาชาติ อีกทั้งกำลังบ่อนทำลายแผนการของยูเอ็นที่จะหาทางทำข้อตกลงเกี่ยวกับโรดแมปเพื่อจัดการเลือกตั้ง ซึ่งจะคลี่คลายแก้ไขความไร้เสถียรภาพที่ยืดเยื้อมานานในลิเบีย
<i>ยานโฮเวอร์คราฟต์สะเทินน้ำสะเทินบกลำหนึ่งของสหรัฐฯ อพยพกำลังทหารอเมริกัน ออกจากย่านจันซูร์ ทางด้านตะวันตกของกรุงตริโปลี เมื่อวันอาทิตย์ (7 เม.ย.) </i>
ลิเบียที่ตกอยู่ในสภาพไม่มีขื่อไม่มีแปนับตั้งแต่ที่กัดดาฟีถูกโค่นล้ม ได้ทำให้มีผู้อพยพจำนวนหลายแสนคนเดินทางข้ามทะเลทรายซาฮารา ด้วยจุดประสงค์ที่จะข้ามทะเลเมดิเตอร์เรเนียนไปพำนักลี้ภัยในยุโรป

ขณะที่ฮัฟตาร์ ซึ่งเรียกตัวเองว่าเป็นศัตรูของลัทธิสุดโต่งอิสลามิสต์ ทว่าถูกพวกที่คัดค้านเขามองว่าเป็นผู้เผด็จการคนใหม่ชนิดเดียวกันกับกัดดาฟีนั้น เป็นผู้ที่ได้รับการหนุนหลังจากอียิปต์ และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) ซึ่งมองว่าเขาสามารถเป็นป้อมปราการต่อต้านพวกอิสลามิสต์ได้ และดังนั้นจึงให้ความสนับสนุนทางทหาร ทั้งนี้ตามรายงานหลายชิ้นของยูเอ็น

อย่างไรก็ดี ยูเออี เพิ่งเข้าร่วมกับพวกประเทศตะวันตกในการแสดงความกังวลอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับการสู้รบที่กำลังบานปลายออกไปเรื่อยๆ คราวนี้

ในอดีตที่ผ่านมา ฮัฟตาร์สามารถทำข้อตกลงกับพวกกองกำลังติดอาวุธหลายๆ กลุ่มนอกตริโปลี เพื่อแผ้วถางทางให้แก่การบุกของกองกำลังของเขา ทว่าการที่จะเข้าควบคุมตริโปลี ซึ่งเป็นยอดปรารถนาของรัฐบาลในภาคตะวันออกที่เขาหนุนหลังอยู่ เห็นกันว่าจะเป็นเรื่องที่ยุ่งยากซับซ้อนกว่ากันมาก

เวลานี้มีรายงานว่ากลุ่มติดอาวุธซึ่งเป็นพันธมิตรกับรัฐบาลตริโปลี ได้เคลื่อนย้ายรถปิกอัพติดปืนกลหนักจำนวนเพิ่มมากขึ้น จากเมืองมิสราตา ทางด้านตะวันตกของลิเบีย มาปกป้องพิทักษ์กรุงตริโปลี มิสราตานั้นขึ้นชื่อเรื่องการมีจิตใจต่อต้านตัวบุคคลของ “ระบอบเก่า” ซึ่งพัฒนาขึ้นมาในระหว่างช่วงปี 2011 เมื่อกองกำลังฝ่ายนิยมกัดดาฟีเข้าปิดล้อมเมืองมิสราตาเป็นเวลา 3 เดือน


กำลังโหลดความคิดเห็น