รอยเตอร์ - ครอบครัวของผู้หญิงชาวอเมริกันรายหนึ่งซึ่งเสียชีวิตในอุบัติเหตุเครื่องบินโบอิ้ง737แม็กซ์ของเอธิโอเปียน แอร์ไลน์ส โหม่งโลกเมื่อเดือนที่แล้ว ในวันพฤหัสบดี(4เม.ย.) ได้ยื่นฟ้องร้องเอาผิดกับสายการบิน, โบอิ้ง โค และโรสเมาต์ แอโรสเปซ อิงค์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิ้นส่วนเครื่องบิน ในความเกี่ยวข้องกับโศกนาฏกรรมดังกล่าว
คำฟ้องดังกล่าวเป็นการยื่นต่อศาลรัฐบาลกลางสหรัฐฯในชิคาโก โดยครอบครัวของแซมยา สตูโม บุคคลที่ทีมทนายความฝ่ายโจทก์ระบุว่ากำลังเดินทางไปทำงานตอนที่เที่ยวบิน 302 ของสายการบินเอธิโอเปียน แอร์ไลน์ส ประสบอุบัติเหตุเมื่อวันที่ 10 มีนาคม ไม่นานหลังจากเทคออฟขึ้นจากกรุงแอดดิสอาบาบา ค่าชีวิตยกลำ 157 ศพ
ความเคลื่อนไหวนี้ถือเป็นการยื่นฟ้องร้องดำเนินคดีในนามเหยื่อชาวสหรัฐฯเป็นรายแรกในโศกนาฏกรรมดังกล่าว และเป็นครั้งแรกที่เล็งเอาผิดกับสายการบินและโรสเมาต์ บริษัทผู้ผลิตชิ้นส่วน นอกเหนือจากโบอิ้ง
ในรายงานเบื้องต้นที่เผยแพร่ในวันพฤหัสบดี(4เม.ย.) บ่งชี้ว่านักบินเอธิโอเปียทำตามกระบวนการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินที่โบอิ้งแนะนำซ้ำแล้วซ้ำอีกหลายครั้ง แต่ไม่สามารถเข้าควบคุมเครื่องบินได้ จนนำไปสู่โศกนาฎกรรมเลวร้าย
ผลการสอบสวนเบื้องต้นนี้ ดูเหมือนจะย้ำยืนยันความวิตกกังวลเกี่ยวกับประสิทธิภาพของระบบควบคุมการบินอัตโนมัติของเครื่องบินโบอิ้ง 737 แม็กซ์ 8 เนื่องจากเป็นข้อมูลคล้ายๆ กับสิ่งซึ่งเกิดขึ้นตอนที่เครื่องบินโมเดลเดียวกันนี้ของสายการบินไลอ้อนแอร์ ของอินโดนีเซีย ตกเมื่อปีที่แล้ว ทำให้ผู้โดยสารและลูกเรือเสียชีวิตยกลำ 189 คน
รายงานเบื้องต้นฉบับเต็มยังไม่ได้มีการเผยแพร่ต่อสาธารณชน แต่จากฉบับร่างซึ่งสำนักข่าวต่างๆได้เห็นมา ระบุว่าหลังจากเครื่องบินโดยสารของเอธิโอเปียนแอร์ไลน์ทะยานขึ้นฟ้าไม่นาน อุปกรณ์เซนเซอร์ที่คอยตรวจบันทึกระดับของเครื่องบินก็เริ่มส่งข้อมูลที่ผิดพลาด ทำให้ระบบซอฟต์แวร์อัตโนมัติเริ่มทำการแก้ไข ด้วยการดึงให้จมูกเครื่องบินลงต่ำ
ในการแถลงรายงานเบื้องต้นนี้ของ แด็กมาวิต โมเกส รัฐมนตรีคมนาคมเอธิโอเปีย เมื่อวันพฤหัสบดี(4เม.ย.) ก็ระบุว่า นักบินของสายการบินเอธิโอเปียน แอร์ไลน์ส ดำเนินการตามกระบวนการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินทั้งหมดที่โบอิ้งแนะนำหลายครั้ง หลังจากเครื่องบินปักหัวลงซ้ำๆ แต่ไม่สามารถควบคุมเครื่องได้ ซึ่งเท่ากับเป็นการชี้ชัดว่า นักบินไม่ได้ใช้กระบวนการที่ไม่ถูกต้อง
เครื่องบินรุ่นขายที่ดีที่สุดของโบอิ้งถูกระงับใช้ทั่วโลกตามหลังโศกนาฏกรรมดังกล่าว ซึ่งเกิดขึ้นเพียง 5 เดือนหลังจากเครื่องบิน 3737 แม็กซ์ของสายการบินไลออนแลนด์ ประสบอุบัติเหตุในอินโดนีเซีย
ในคำฟ้องที่ยื่นวันพฤหัสบดี(4เม.ย.) ได้กล่าวหาโบอิ้งวางผลกำไรอยู่เหนือความปลอดภัยและสำนักงานบริหารการบินแห่งชาติสหรัฐฯ(เอฟเอเอ) ต้องรับผิดชอบด้วยเช่นกัน โทษฐานที่ให้การรับรอง 737 แม็กซ์ "พวกที่มีหน้าที่รับผิดชอบด้านการคิดและการขายเครื่องบินนี้ไม่ได้ปฏิบัติกับแซมยา เหมือนเป็นลูกสาวของตนเอง" นาเดีย มิลเลรอน แม่ของเหยื่อระบุในถ้อยแถลง
มิลเลรอนกล่าวทั้งน้ำตาด้วยว่าโศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นในเอธิโอเปียสามารถป้องกันได้ หลังเพิ่งกิดอุบัติเหตุกับสายการบินไลออนแอร์ "สำหรับผู้เสียชีวิตในอินโดนีเซีย การตายของพวกเขาไม่ควรสูญเปล่า"
โบอื้ง บริษัทด้านการบินซึ่งมีสำนักงานใหญ่ในชิคาโก ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ถูกฟ้องร้องดำเนินคดีในอุบัติเหตุที่อินโดนีเซียเมื่อวันที่ 29 ตุลาคมเช่นกัน เผยว่ากำลังเร่งดำเนินการซ่อมแซมซอฟต์แวร์และจัดทำคู่มือด้านการฝึกฝนใหม่สำหรับเครื่องบินแม็กซ์ของพวกเขา