บีบีซี - ชายคนหนึ่งซึ่งกำลังทำงานในโปรเจ็คหนึ่งของสำนักงานอวกาศญี่ปุ่น(JAXA) ลงมือปลิดชีพตนเองเมื่อปี 2016 เพราะทำงานมากเกินไป ตามข้อสรุปของเจ้าหน้าที่แดนปลาดิบในวันพฤหัสบดี(4เม.ย.) นับเป็นเหยื่ออีกรายของปัญหาฆ่าตัวตายจากการทำงานหนักในประเทศแห่งนี้
ยูกิโนบุ ซาโตะ อายุ 31 ปี ณ ขณะนั้น เป็นพนักงานสัญญาจ้างในโครงการดาวเทียมหนึ่งของ JAXA และเกิดความเครียดอย่างหนัก รายงานการสืบสวนใหม่ของเจ้าหน้าที่ระบุ
รายงานระบุว่าเขาทำหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายไม่ประสบความสำเร็จตามเป้าหมายและต้องทำงานล่วงเวลากว่า 70 ชั่วโมงต่อเดือนโดยไม่ได้รับค่าตอบแทนใดๆ
คดีนี้เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ญี่ปุ่นต้องเปิดตัวกฎหมายใหม่ฉบับหนึ่งในความพยายามยุติวัฒนธรรมแห่งชั่วโมงการทำงานที่ยาวนานเกินไป
กฎหมายดังกล่าวซึ่งมีผลบังคับใช้ในสัปดาห์นี้ จำกัดการทำงานล่วงเวลาในหลักการไว้ที่ 45 ชั่วโมงต่อเดือน และ 360 ชั่วโมงต่อปี โดยหากบริษัทใดละเมิดข้อบังคับดังกล่าวก็มีสิทธิ์โดนปรับสูงสุด 300,000 เยน(ประมาณ 85,000บาท) ตามรายงานของสำนักข่าวเกียวโดนิวส์
ประมาณการกันว่ามีผู้เสียชีวิตที่เกี่ยวข้องกับการทำงานหนักเกินไปในญี่ปุ่นราวๆ 200 รายในปี 2017
ทนายความซึ่งเป็นตัวแทนครอบครัวของซาโตะ เผยว่า ซาโตะ ทำงานหลายกะเป็นเวลา 16 ชั่วโมง พร้อมยืนยันว่าทางเจ้าหน้าที่แรงงานได้ยอมรับว่าสาเหตุการเสียชีวิตของ ซาโตะ นั้นมาจากการทำงานมากเกินไป
ด้าน ซอฟต์แวร์ คอนซันแทนท์ นายจ้างของซาโตะ ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่าทางบริษัทจะใช้มาตรการต่างๆเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุลักษณะนี้อีกในอนาคต ส่วน JAXA เผยว่าพวกเขากำลังประเมินสถานการณ์เพื่อดูว่าจะปรับปรุงนโยบายต่างๆขององค์กรได้อย่างไรบ้าง