เอเอฟพี – คนร้ายที่ลงมือกราดยิงมัสยิด 2 แห่งในเมืองไครสต์เชิร์ชของนิวซีแลนด์จะถูกตั้งข้อหาฆาตกรรม 50 กระทงระหว่างขึ้นศาลในวันศุกร์นี้ (5 เม.ย.) ตำรวจนิวซีแลนด์เผย
เบรนตัน ทาร์เรนต์ มือปืนผิวขาววัย 28 ปี ถูกตั้งข้อหาฆาตกรรมในเบื้องต้นเพียง 1 กระทง แต่ตำรวจยืนยันว่าจะมีการเพิ่มข้อหาตามจำนวนผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บทุกรายในเหตุการณ์เมื่อวันที่ 15 มี.ค.
“ชายซึ่งถูกจับในคดีก่อการร้ายที่ไครสต์เชิร์ชจะถูกตั้งข้อหาฆาตกรรม 50 กระทง และข้อหาพยายามฆ่าอีก 39 กระทง ระหว่างการไต่สวนของศาลสูงเมืองไครสต์เชิร์ชในวันศุกร์นี้ (5)” ตำรวจระบุในถ้อยแถลง
มือปืนชาวออสเตรเลียรายนี้ถูกคุมขังอยู่ที่เรือนจำความมั่นคงสูงในเมืองอ็อคแลนด์ และจะขึ้นศาลผ่านระบบวิดีโอลิงค์ในเวลา 10.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น
ผู้พิพากษาศาลสูงระบุในสัปดาห์นี้ว่า การไต่สวนในวันศุกร์ (5) จะเปิดโอกาสให้ผู้ต้องหาได้ชี้แจงจุดยืนเกี่ยวกับตัวแทนทางกฎหมาย และรับทราบกระบวนการพิจารณาคดี ซึ่งคงจะใช้เวลาไม่นาน
ทาร์แรนต์ ได้ขอเพิกถอนทนายที่ศาลแต่งตั้งให้เมื่อวันที่ 16 มี.ค. ซึ่งทำให้หลายฝ่ายเกรงว่าเขาคิดจะต่อสู้คดีด้วยตัวเอง และอาจพยายามใช้การไต่สวนเป็นเวทีเผยแพร่แนวคิดสุดโต่ง
ทั้งนี้ ทาร์แรนต์ ยังไม่จำเป็นต้องยื่นคำให้การในวันศุกร์ (5) และศาลได้มีคำสั่งห้ามสื่อมวลชนบันทึกวิดีโอหรือถ่ายภาพผู้ต้องหาด้วย
ตำรวจระบุว่าอาจจะมีตั้งข้อหาอื่นๆ เพิ่มเติมกับ ทาร์แรนต์ ซึ่งประกาศตัวเป็นพวกฝักใฝ่ขบวนการผิวขาวเป็นใหญ่ (white supremacist) แต่ไม่ได้ระบุชัดเจนว่าจะเป็นข้อหาใดบ้าง
กรมราชทัณฑ์นิวซีแลนด์แถลงเมื่อเดือนที่แล้วว่า ทาร์แรนต์ ถูกขังแยกจากนักโทษคนอื่นๆ โดยไม่มีสิทธิ์เข้าถึงทั้งโทรทัศน์ วิทยุ หรือหนังสือพิมพ์ นอกจากนี้ยังมีการติดตั้งกล้องวงจรปิดเอาไว้ในห้องขังเพื่อให้เจ้าหน้าที่จับตาความเคลื่อนไหวของเขาได้ตลอดเวลา
หากศาลตัดสินว่ามีความผิดจริง ทาร์แรนต์ อาจถูกแยกขังเดี่ยวนานเป็นสิบๆ ปี เนื่องจากแนวคิดคลั่งผิวของเขาอาจจะทำให้ถูกเพื่อนนักโทษที่ส่วนใหญ่เป็นชาวเมารีและคนจากหมู่เกาะแปซิฟิกรุมทำร้ายเอาได้
เหตุสังหารหมู่ครั้งนี้กระตุ้นให้รัฐบาลนิวซีแลนด์ต้องเร่งแก้ไขกฎหมายควบคุมอาวุธปืน รวมถึงทบทวนกฎหมายป้องกันวาทกรรมสร้างความเกลียดชัง (hate speech) ด้วย