รอยเตอร์ - เทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษระบุในวันอังคาร(2เม.ย.) ว่าจะร้องขอสหภาพยุโรป(อียู) สำหรับขยายเวลาเบร็กซิตเพิ่มเติม จากเดิมที่มีเส้นตายในวันที่ 12 เมษายน เพื่อให้เธอได้มีเวลาเจรจากับพรรคเลเบอร์ พรรคฝ่ายค้าน ในความพยายามฝ่าทางตันเกี่ยวกับการถอนตัวของอังกฤษ
เกือบ 3 ปีนับตั้งแต่สหราชอาณาจักรโหวตแยกตัวออกจากอียูในประชามติอันน่าตกตะลึง จนถึงตอนนี้การเมืองของอังกฤษต้องตกอยู่ท่ามกลางวิกฤต และยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่าสหราชอาณาจักรจะถอนตัวอย่างไร, เมื่อไหร่และหรือไม่ ในการออกจากกลุ่มที่พวกเขาเข้าร่วมเมื่อปี 1973
ในถ้อยแถลงที่เตรียมการอย่างรีบเร่งจากทำเนียบนายกรัฐมตรี หลังจากใช้เวลานานกว่า 7 ชั่วโมง ในการนั่งเป็นประธานการประชุมฉุกเฉินคณะรัฐมนตรีเพื่อหาแนวทางออกจากความยุ่งเหยิงของเบร็กซิต เมย์เผยว่าเธอจะร้องขออียูสำหรับขยายเส้นตายเบร็กซิตออกไปจากเดิม
"เราจำเป็นต้องขยายเวลาการบังคับใช้มาตรา 50 ออกไปอีก เป็นไปได้ที่จะเป็นแค่ระยะเวลาสั้นๆ ซึ่งจะสิ้นสุดลงเมื่อเราผ่านข้อตกลง และเราต้องการแสดงความชัดเจนว่า การขยายกรอบเวลานั้นก็เพื่อรับประกันว่าเราจะสามารถถอนตัวได้ทันเวลาและในแนวทางที่เป็นระเบียบแบบแผน" เธอกล่าว
"ดิฉันกำลังเสนอเจรจากับผู้นำฝ่ายค้านและพยายามเห็นพ้องต้องกันต่อแผนๆหนึ่งที่เราต่างจะยึดมั่นเพื่อรับประกันว่าเราจะออกจากสหภาพยุโรป และเราจะออกแบบมีข้อตกลง" นายกรัฐมนตรีอังกฤษระบุ
ทั้งนี้ต่อมา คอร์บีน เผยว่าเขารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะพูดคุยกับเมย์ เพื่อหารือหานโยบายร่วมกันด้านเบร็กซิต ที่อาจสามารถคลี่คลายทางตันในปัจจุบันได้
เมย์เผยว่าหากเธอไม่อาจเห็นห้องในแนวทางที่เป็นอันหนึ่งเดียวกันกับ เจเรมี คอร์บีน ผู้นำพรรคเลเบอร์ เมื่อนั้นทางรัฐบาลจะเห็นชอบทางเลือกจำนวนหนึ่งเกี่ยวกับความสัมพันธ์ในอนาคตระหว่างอังกฤษกับอียู และนำเสนอทางเลือกเหล่านั้นต่อสภาสามัญชน(สภาผู้แทนราษฏร) เพื่อลงมติต่อไป และทางรัฐบาลพร้อมยึดตามการตัดสินใจของรัฐสภา
ข้อตกลงถอนตัวที่เมย์บรรลุกับอียู ประสบความพ่ายแพ้ในสภาผู้แทนราษฎรอังกฤษไปแล้ว 3 ครั้ง ในขณะที่เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา สภาแห่งนี้ได้เรียกประชุมเพื่อลงมติทางเลือกอื่นๆ เกี่ยวกับเบร็กซิตรวมทั้งหมด 8 ทาง อาทิ การถอนตัวจากอียูทันทีโดยไม่มีข้อตกลง หรือยกเลิกเบร็กซิต ซึ่งผลปรากฏว่า ไม่มีทางเลือกใดได้รับฉันทามติเลย
ด้วยรัฐสภายังคงล้มเหลวในการขอความเห็นชอบจากเสียงส่วนใหญ่สำหรับทางอื่นของการเบร็กซิต แทนข้อตกลงของเมย์ที่ถูกตีตกไปแล้ว 3 ครั้ง ดังนั้นการออกจากอียูโดยปราศจากข้อตกลงในวันที่ 12 เมษายน จะกลายเป็นทางเลือกตามกฎหมายผิดสัญญาทันที หากว่าอังกฤษไม่สามารถนำเสนอทางเลือกอื่นแก่พวกผู้นำอียูที่จะประชุมฉุกเฉินเกี่ยวกับเบร็กซิตในวันที่ 10 เมษายน