xs
xsm
sm
md
lg

เผย ‘ซาอุฯ’ แฮกโทรศัพท์เจ้าพ่อแอมะซอน ต้นตอภาพ-ข้อความ ‘เบซอสกับชู้รัก’ ถูกแฉ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

<i>เจฟฟ์ เบซอส ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของแอมะซอน (ภาพจากแฟ้มถ่ายเมื่อ 13 ก.ย. 2018) </i>
เอเจนซีส์ - นักสืบเอกชนผู้ได้รับการว่าจ้างจาก เจฟฟ์ เบซอส บิ๊กบอสของแอมะซอน ให้สืบเรื่องราวที่ตัวเขาถูกสื่อนิตยสารแทบลอยด์จอมเล่นข่าวฉาวโฉ่แฉเรื่องแอบมี “ชู้รัก” ได้ออกมาระบุเมื่อวันเสาร์ (30 มี.ค.) ว่า ได้ข้อสรุปแล้วว่าพวกเจ้าหน้าที่รับผิดชอบของทางการซาอุดีอาระเบีย ได้แฮกโทรศัพท์เพื่อเข้าไปดูข้อมูลส่วนตัวของอภิมหาเศรษฐีร่ำรวยที่สุดในโลกผู้นี้

แกวิน เดอ เบกเคอร์ ซึ่งทำงานเป็นที่ปรึกษาด้านความมั่นคงยายาวนาน โยงเรื่องที่โทรศัพท์ของเจ้าพ่อแอมะซอนถูกซาอุดีอาระเบียแฮก เข้ากับการที่หนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์ซึ่งเบซอสเป็นเจ้าของ ได้เสนอข่าวแบบเจาะลึกกัดไม่ปล่อยเกี่ยวกับคดีฆาตกรรม จามาล คาช็อกกี นักหนังสือพิมพ์ชาวซาอุดีฯ ในสถานกงสุลซาอุดีอาระเบียประจำเมืองอิสตันบุล เมื่อปลายปีที่แล้ว

“พวกนักสืบของเราและผู้เชี่ยวชาญหลายคน มีข้อสรุปด้วยความมั่นใจในระดับสูงว่า ฝ่ายซาอุดีฯ ได้ลักลอบเข้าถึงโทรศัพท์ของเบซอส และล้วงเอาข้อมูลข่าวสารส่วนตัวไป” เดอ เบกเคอร์ เขียนเอาไว้เช่นนี้ใน “เดอะ เดลี บีสต์” สื่อหนังสือพิมพ์ออนไลน์ในวันเสาร์

เดอ เบกเคอร์ระบุว่า เขาได้ข้อสรุปเช่นนี้จากการที่สำนักงานนับสืบแกวินเดอเบกเคอร์แอนด์แอสโซซิเอตส์ ของเขา ได้รับการว่าจ้างจากเบซอสให้ทำการสืบสวน ภายหลังจากที่เนชันแนลเอนไควเรอร์ นิตยสารแทบลอยด์ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องเสนอข่าวอื้อฉาวของคนดังๆ ฉบับเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา ได้เสนอข่าวว่าเบซอสกำลังแอบนอกใจภรรยา โดยหญิงสาวที่เขามีความสัมพันธ์ด้วย คือ ลอเรน ซานเชส อดีตผู้ประกาศข่าวทางทีวี

ทั้งนี้ นิตยสารนี้ยังได้เผยแพร่ภาพและข้อความรับส่งกันทางโทรศัพท์ที่เบซอสกับ “ชู้รัก” ส่งให้กันและกันด้วย เห็นกันว่าการถูกเปิดโปงนี้เองได้ทำให้เบซอสหย่าร้างกับภรรยาที่อยู่ด้วยกันมาหลายสิบปีในที่สุด

ต่อมาในเดือนกุมภาพันธ์ เบซอสได้กล่าวหาว่า เดวิด เพกเกอร์ ประธานและซีอีโอของอเมริกัน มีเดีย อิงก์ (เอเอ็มไอ) ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของเนชันแนลเอนไควเรอร์ กำลังพยายามแบล็กเมล์เขา ด้วยการข่มขู่จะเผยแพร่ “ภาพอันสนิทชิดเชื้อ” ที่เขาถูกกล่าวหาว่าได้ส่งไปให้ซานเชส หากว่าเขาไม่ยอมแถลงต่อสาธารณชนว่า การที่เนชั่นแนลเอนไควเรอร์รายงานข่าวเกี่ยวกับตัวเขานั้น ไม่ได้มีแรงจูงใจใดๆ ทางการเมือง ทั้งนี้ เพกเกอร์เป็นเพื่อนและพันธมิตรคนสำคัญของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์
<i>บริเวณโถงด้านหน้าของสำนักงานบริษัทแอมะซอน ในนครนิวยอร์ก (ภาพจากแฟ้มถ่ายเมื่อ 14 ก.พ. 2019) </i>
ในข้อความทาง เดอะ เดลี บีสต์ เดอเบคเคอร์กล่าวว่า เอเอ็มไอยังได้เรียกร้องต่อตัวเขาอย่างลับๆ ด้วยว่า เขาจะต้องปฏิเสธว่าไม่ได้พบหลักฐานว่านิตยสารฉบับนี้ได้แอบดักฟังทางอิเล็กทรอนิกส์หรือทำการแฮกใดๆ ในระหว่างการรวบรวมข้อมูลเพื่อนำมาเสนอเป็นข่าวฉาวเกี่ยวกับเบซอส

เขากล่าวว่า ขณะที่มีการเผยแพร่ข้อมูลกันว่า พี่ชายของซานเชส เป็นผู้ที่เปิดเผยข้อมูลข่าวสารความสนิทสนมระหว่างน้องสาวของเขากับเบซอส เพื่อแลกเปลี่ยนกับค่าตอบแทนที่เนชั่นแนลเอนไควเรอร์จ่ายให้ ทว่าบทบาทของบุคคลผู้นี้ก็น่าจะเป็นแค่กลลวงเพื่อทำให้เกิดความเข้าใจผิด โดยแผนอุบายในเรื่องนี้ทั้งหมดนั้นมีขอบเขตกว้างไกลเกินกว่าแค่เรื่องที่บุคคลผู้หนึ่งต้องการหาเงินใช้

“เป็นที่ชัดเจนว่า เอ็มบีเอสนั้นมองเห็นวอชิงตันโพสต์เป็นศัตรูที่สำคัญมากรายหนึ่ง” เดอ เบกเคอร์เขียนเอาไว้เช่นนี้ โดยที่เอ็มบีเอสคือชื่อย่อของเจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน มกุฎราชกุมารแห่งซาอุดีอาระเบีย ผู้ซึ่งวุฒิสภาสหรัฐฯ ได้ระบุว่าว่าเป็นผู้ “รับผิดชอบ” การสังหารคาช็อกกี ภายหลังที่ซีไอเอไปบรรยายสรุปแบบปิดลับให้สภาสูงอเมริกันแห่งนั้นรับฟัง

แต่ เดอ เบกเคอร์ไม่ได้กล่าวระบุเจาะจงว่าส่วนใดของรัฐบาลซาอุดีที่เขาประณามว่าเป็นผู้รับผิดชอบการแฮ็กข้อมูลของเบซอส รวมทั้งแทบไม่ได้ให้รายละเอียดใดๆ เกี่ยวกับการสืบสวนซึ่งนำไปสู่ข้อสรูปที่ว่าราชอาณาจักรแห่งนั้นคือผู้รับผิดชอบ

เขาบอกเพียงว่า ผลสรุปเหล่านี้ เขาได้ “ส่งต่อไปให้แก่พวกเจ้าหน้าที่ของสหรัฐฯ แล้ว”

ทางด้านโฆษกผู้หนึ่งของสถานเอกอัครราชทูตซาอุดีอาระเบียในกรุงวอชิงตัน ไม่ได้ตอบกลับใดๆ เมื่อถูกสื่อมวลชนสอบถามขอความเห็นเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องนี้ ในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา รัฐมนตรีต่างประเทศของราชอาณาจักรแห่งนี้เคยแถลงว่า ซาอุดีอาระเบีย “ไม่ได้เกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น” กับเรื่องนี้เนชันแนลเอนไควเรอร์รายงานข่าวฉาวของเบซอส

ขณะที่ตัวแทนของบริษัท เอเอ็มไอ ก็ไม่ได้ตอบอะไรกลับมาในทันทีเมื่อถูกสื่อสอบถามความเห็นเกี่ยวกับข้อเขียนของเดอ เบกเคอร์


กำลังโหลดความคิดเห็น