กลุ่มสังเกตการณ์นานาชาติชี้การนับคะแนนเลือกตั้งไทย'มีข้อบกพร่อง' แต่ไม่กล่าวหาว่ามีการโกง

เอเอฟพี - กลุ่มนักสังเกตการณ์นานาชาติวิพากษ์วิจารณ์การนับคะแนนในศึกเลือกตั้งครั้งแรกของไทยนับตั้งแต่รัฐประหารปี 2014 ระบุว่าการจัดระเบียบและรวบรวมบัตรเลือกตั้งมีข้อบกพร่องอย่างมาก แต่ไม่มีเหตุผลที่จะเชื่อว่าประเด็นปัญหาต่างๆนี้จะส่งผลกระทบต่อผลลัพธ์โดยรวม

เครือข่ายเอเชียเพื่อการเลือกตั้งเสรี(Asian Network for Free Election) ระบุว่าคำแถลงผลเลือกตั้งเบื้องต้นบางส่วนนั้นออกมาคลาดเคลื่อน ก่อความเสียหายแก่ความซื่อตรงของศึกเลือกตั้งครั้งนี้ ทั้งนี้ทางกลุ่ม ซึ่งมีชื่อย่อว่า Anfrel เป็นหนึ่งในกลุ่มสังเกตการณ์หลายคณะที่แสดงความกังวลต่อการเลือกตั้งเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา

เอพีรายงานว่าคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ได้ออกมาปกป้องการนับคะแนน ซึ่งยังอยู่ในขั้นต้น พร้อมกล่าวโทษประเด็นปัญหาต่างๆไปที่ความล้มเหลวของสื่อมวลชนในการติดตามข้อมูล ด้วยอ้างว่ากกต.เพียงใส่ข้อมูลดิบเท่านั้น

หลังจากเลื่อนการเผยแพร่ผลการนับคะแนนอย่างครบถ้วนในคืนวันเลือกตั้งและอีกครั้งในวันจันทร์(25มี.ค.) ตอนนี้ทางคณะกรรมการบอกว่าจะเผยแพร่ผลการนับคะแนนเบื้องต้นอย่างไม่เป็นทางการในวันศุกร์(29มี.ค.) ขณะที่คะแนนอย่างเป็นทางการ คาดหมายว่าคงต้องรอไปจนถึงเดือนพฤษภาคม

คำกล่าวหาเหล่านี้เช่นเดียวกับความกังวลเกี่ยวกับสิ่งผิดปกติต่างๆได้ตอกย้ำว่าความแตกแยกรุนแรงยังคงเกาะกุมประเทศไทยและบ่งชี้ว่าชาติเศรษฐกิจหมายเลข 2 ของอาเซียนแห่งนี้ไม่เฉียดใกล้หนทางที่จะหลุดพ้นจากความไม่เสถียรทางการเมือง ซึ่งยืดเยื้อมานานเกือบ 15 ปีแล้ว

มีคำกล่าวหาโกงการเลือกตั้งแพร่สะพัดบนสื่อสังคมออนไลน์ หลังการโหวต โดยแฮชแท็ก ECBusted และ CheatingElection19 กลายเป็นกระแสนิยมบนทวิตเตอร์

อย่างไรก็ตาม อามาเอล เวียร์ เจ้าหน้าที่โปรแกรมของ Anfrel ด้านการเลือกตั้งระหว่างประเทศ ระบุในถ้อยแถลงว่าการปราศจากการเข้าถึงการนับคะแนนจากภายนอก คือเหตุผลหลักของข้อบกพร่องของการนับคะแนน

"เนื่องจากเราไม่ได้เข้าถึง เราจึงไม่เข้าใจกระบวนการต่างๆอย่างแท้จริง และในกระบวนการประชาธิปไตยก็มีข้อบกพร่องในตัวมันเอง" เวียร์กล่าว "คุณอาจบริหารจัดการการเลือกตั้งได้ดีที่สุดในโลก แต่ถ้าผู้คนไม่เห็นมัน หรือไม่เชื่อถือมัน มันก็จะเป็นการเลือกตั้งที่ไม่สมบูรณ์แบบ" เวียร์กล่าว

ในรายงาน 12 หน้าของ Anfrel ไม่พาดพิงอย่างเจาะจงต่อคำกล่าวหาต่างๆบนสื่อสังคมออนไลน์ อย่างเช่นมีจำนวนบัตรเลือกตั้งเกินกว่าผู้ออกมาใช้สิทธิ์ในบางพื้นที่

สหภาพยุโรปแถลงว่าพวกเขาตั้งตาคอยช่วงเวลาแห่งการแถลงผลการเลือกตั้ง และเรียกร้องให้จัดการกับรายงานความผิดปกติใดๆอย่างรวดเร็วและอย่างโปร่งใส

ภายใต้กฎหมายใหม่ วุฒิสภาที่มาจากการแต่งตั้งของคณะรัฐหระหาร 250 คนจะเข้าร่วมกับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่มาจากการเลือกตั้ง 500 คน ในการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี นั่นหมายความว่าพรรคหนึ่งที่ไม่มีเสียงสนับสนุนจากวุฒิสภา จำเป็นต้องรวบรวมเสียงในสภาผู้แทนฯให้ได้ 376 เสียง

Anfrel ระบุว่าด้วยกฎเกณฑ์ดังกล่าวนั่นหมายความว่าไทยจะเป็นรูปแบบของประชาธิปไตยแบบชี้นำมากกว่าจะเป็นประชาธิปไตยเต็มใบ แต่อีกด้านหนึ่งก็ยอมรับการศึกเลือกตั้งครั้งนี้คือก้าวย่างหนึ่งของการมุ่งหน้าสู่การมีตัวแทนของประชาชนอย่างแท้จริงในกิจการต่างๆของรัฐบาล