เอเอฟพี - รัฐบาลญี่ปุ่นจะยกเลิกคำสั่งอพยพประชาชนในเมืองโอคุมะ (Okuma) 1 ใน 2 เมืองที่ตั้งโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกูชิมะไดอิจิในเดือน เม.ย.นี้ นับเป็นครั้งแรกที่ชาวบ้านใกล้โรงไฟฟ้าจะได้รับอนุญาตให้กลับไปยังบ้านเรือนของตน หลังเกิดวิกฤตการณ์นิวเคลียร์ขึ้นเมื่อ 8 ปีก่อน
โยเฮอิ โองิโนะ เจ้าหน้าที่จากสำนักงานคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่น ให้สัมภาษณ์กับเอเอฟพีวันนี้ (26 มี.ค.) ว่า รัฐบาลมีแผนเพิกถอนคำสั่งอพยพในพื้นที่บางส่วนของเมืองโอคุมะในวันที่ 10 เม.ย. ซึ่งจะถือเป็นครั้งแรกสำหรับ 2 เมืองที่ตั้งโรงไฟฟ้า ซึ่งได้แก่ โอคุมะ และ ฟุตะบะ (Futaba)
เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นอ้างคำพูดของโทชิทสึนะ วาตานาเบะ นายกเทศมนตรีเมืองโอคุมะ ซึ่งระบุว่าการตัดสินใจของรัฐบาลครั้งนี้ “น่ายินดีอย่างยิ่ง”
“เราจะได้เริ่มต้นก้าวไปข้างหน้าอีกครั้งหลังผ่านมาแล้ว 8 ปี”
เมื่อเดือน มี.ค.ปี 2011 แผ่นดินไหวใต้ทะเลได้ก่อให้เกิดคลื่นสึนามิขนาดใหญ่ซัดถล่มชายฝั่งตะวันออกของญี่ปุ่น มีผู้เสียชีวิตไปกว่า 18,000 คน และทำให้ระบบหล่อเย็นเตาปฏิกรณ์ของโรงไฟฟ้าฟูกูชิมะพังเสียหาย จุดชนวนอุบัติภัยนิวเคลียร์ครั้งเลวร้ายที่สุดของโลกในรอบหลายสิบปี
รัฐบาลญี่ปุ่นได้มีมาตรการกำจัดรังสีด้วยการขนย้ายหน้าดินและทำความสะอาดพื้นที่รอบๆ โรงไฟฟ้า ซึ่งเวลานี้หลายพื้นที่มีการยกเลิกคำสั่งอพยพเพื่อให้ประชาชนกลับบ้านได้แล้ว
อย่างไรก็ตาม ผลสำรวจเมื่อเดือน ก.พ. โดยหนังสือพิมพ์อาซาฮีชิมบุนและสถานีโทรทัศน์ KFB ซึ่งเป็นสื่อท้องถิ่นของฟูกูชิมะ พบว่าประชากร 60% ในภูมิภาคนี้ยังรู้สึกหวั่นเกรงอันตรายจากรังสีปนเปื้อน
จนถึงขณะนี้ยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตจากการสัมผัสรังสีรั่วไหล แต่รัฐบาลญี่ปุ่นยอมรับเป็นครั้งแรกเมื่อปีที่แล้วว่า มีชายคนหนึ่งที่อยู่ในทีมทำความสะอาดโรงไฟฟ้าฟูกูชิมะป่วยเป็นมะเร็งตาย
สถิติของรัฐบาลญี่ปุ่นระบุว่า มีพลเมืองกว่า 3,700 คนที่ล้มป่วยเสียชีวิตหรือฆ่าตัวตาย โดยเป็นผลเชื่อมโยงมาจากภัยพิบัติเมื่อปี 2011
สำนักงานฟื้นฟูของญี่ปุ่นเผยตัวเลขล่าสุดว่า มีประชากรราว 52,000 คนที่ยังไม่ได้กลับบ้านในช่วงสิ้นเดือน ก.พ. โดยมีทั้งผู้ที่ติดคำสั่งอพยพ และผู้ที่ไม่ประสงค์จะกลับเอง
.
