รอยเตอร์ – ประชาชนหลายแสนคนที่คัดค้านการออกจากสหภาพยุโรปของอังกฤษออกมาเดินขบวนผ่านใจกลางกรุงลอนดอนในวันนี้ (23) เพื่อเรียกร้องการลงประชามติครั้งใหม่ ในขณะที่วิกฤตเบร็กซิตทำให้ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของ เทเรสซา เมย์ ตกอยู่ในความเสี่ยง
ผู้เดินขบวนเริ่มต้นในใจกลางกรุงลอนดอนพร้อมกับป้ายเขียนว่า “ข้อตกลงที่ดีที่สุดคือไม่เบร็กซิต” และ “เราเรียกร้องประชามติ” ในสิ่งที่คณะผู้จัดระบุว่า อาจเป็นการประท้วงต่อต้านเบร็กซิตที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา
หลังจากสามปีของการถกเถียงกันไปมา มันยังคงไม่มีความชัดเจนว่าเบร็กซิตจะเกิดขึ้นอย่างไร เมื่อไหร่ ในขณะที่เมย์พยายามหาทางออกจากวิกฤตการเมืองครั้งใหญ่ที่สุดในยุคสมัย
เมื่อวานนี้ (23) เมย์บอกไบ้ว่า เธออาจไม่นำข้อตกลงตัดขาดอียูที่ล้มเหลวถึงสองครั้งกลับเข้ารัฐสภาอีกในสัปดาห์หน้า และปล่อยให้กลยุทธ์เบร็กซิตของเธอเป็นหมันไป เดอะ ไทม์ และ เดอะ เดลีย์ เทเลกราฟ รายงานว่า เมย์กำลังถูกกดดันให้ลาออกมากขึ้นเรื่อยๆ
“ผมคงจะรู้สึกต่างออกไปหากนี่เป็นกระบวนการที่มีการจัดการอย่างดีและรัฐบาลกำลังทำการตัดสินใจอย่างมีเหตุมีผล แต่นี่คือความโกลาหลอย่างแท้จริง” กาเรธ เร วัย 59 ปี ที่เดินทางจากบริสตอลมาเข้าร่วมการชุมนุม บอกกับรอยเตอร์
“ประเทศนี้จะเกิดความแตกแยกไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นและมันแย่กว่าถ้าจะแตกแยกด้วยคำโกหก”
ถึงแม้ว่าประเทศนี้และนักการเมืองจะแตกแยกกันในเรื่องเบร็กซิต แต่ส่วนใหญ่เห็นพ้องว่ามันเป็นการตัดสินใจเชิงยุทธศาสตร์ที่สำคัญที่สุดเท่าที่อังกฤษเคยเผชิญนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2
ผู้ประท้วงโปรอียูหลายคนรวมตัวเพื่อร่วมการเดินขบวน “Put it to the people march” ที่ประตูมาร์เบิลอาร์ครอบนอกสวนไฮด์พาร์คเมื่อช่วงกลางวัน ก่อนที่จะเดินขบวนผ่านสำนักงานนายกรัฐมนตรีในดาวนิงสตรีทและจบลงนอกรัฐสภา
ถึงแม้ว่าจะไม่มีการประเมินตัวเลขอย่างเป็นทางการ แต่คณะผู้จัด ระบุว่า ประชาชนเข้าร่วมหลายแสนคนในช่วงเริ่มต้นการเดินขบวน
คณะผู้จัดมั่นใจว่า ขนาดของฝูงชนจะมากกว่าการชุมนุมครั้งก่อนที่จัดเมื่อเดือนตุลาคมที่ตอนนั้นผู้สนับสนุนหลายคนกล่าวว่า มีผู้เข้าร่วมราว 700,000 คน