เอเจนซีส์ - นายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ จาซินดา อาร์เดิร์น (Jacinda Ardern) ยืนยันตัวเลขผู้เสียชีวิตในเหตุโจมตีมัสยิดไครสต์เชิร์ช 2 จุดจำนวน 49 คน บาดเจ็บ 48 คน ถือเป็นการก่อการร้ายที่มีการวางแผนมาเป็นอย่างดี พบใช้ระเบิดผูกติดกับรถใช้เป็นคาร์บอมบ์ และเปิดเผยว่า 1 ใน 2 ของมือปืนก่อเหตุเป็นพลเมืองออสเตรเลีย ล่าสุดมีเสียงระเบิดไม่ต่ำกว่า 2 ครั้งเกิดขึ้นใกล้กับสถานีรถไฟออกแลนด์ เชื่อว่าเป็นฝีมือของเจ้าหน้าที่เก็บกู้หลังมีรายงานพบเป้ 2 ใบถูกวางทิ้งไว้
หนังสือพิมพ์นิวซีแลนด์เฮอรัลด์รายงานวันนี้ (15 มี.ค.) ว่า มีเสียงระเบิดเกิดขึ้นอย่างน้อย 2 ครั้งใกล้สถานีรถไฟเมืองออกแลนด์ (Auckland) โดยอ้างอิงจากนิวส์ลิงก์ (Newslink) เจ้าหน้าที่เก็บกู้ระเบิดได้ทำการระเบิดภายใต้การควบคุมเป้จำนวน 2 ใบที่ถูกวางทิ้งไว้ที่สถานีรถไฟ
ก่อนหน้านั้น สื่อท้องถิ่นรายงานว่า บางส่วนของสถานีรถไฟบริโตมาร์ต (Britomart) ได้ถูกปิดกั้นไว้หลังมีรายงานการพบสิ่งของต้องสงสัย CNN สื่อสหรัฐฯ รายงานว่า ล่าสุดทางเจ้าหน้าที่ชี้ว่า เหตุระเบิดควบคุมที่สถานีรถไฟออกแลนด์ไม่มีความเชื่อมโยงกับเหตุโจมตีกราดยิงมัสยิดไครสต์เชิร์ช โดยเป้ที่ถูกพบนั้นไม่มีสิ่งของต้องสงสัย แต่จำเป็นต้องระเบิดทำลายเพื่อป้องกันเหตุร้าย
ทั้งนี้ ในงานแถลงข่าว ผู้นำหญิงนิวซีแลนด์ จาซินดา อาร์เดิร์น (Jacinda Ardern) วันนี้ (15) ได้ยืนยันตัวเลขผู้เสียชีวิตทั้งหมดมีราว 40 คน
ผู้เสียชีวิต 30 คนถูกพบภายในมัสยิดแรก คือ มัสยิด มาสยิด อัล นัวร์ (Masjid Al Noor Mosque) ตั้งอยู่บนถนนดีนส์ อเวนิว (Deans Ave) ใกล้สวนสาธารณะฮักลีย์ (Hagley Park) ส่วนอีก 10 รายเกิดขึ้นที่มัสยิดลินวูด (Linwood) ย่านชานเมืองซึ่งเป็นจุดที่ 2 ของการโจมตี
แต่ทว่าล่าสุด CNN สื่อสหรัฐฯรายงานว่า ผู้บัญชาการตำรวจไครสต์เชิร์ช ไมค์ บุช ออกแถลงล่าสุดว่า ตัวเลขผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 49 รายแล้วหลังจากมีผู้บาดเจ็บได้เสียชีวิตลงที่โรงพยาบาล โดยในการโจมตีที่จุดแรก พบมีผู้เสียชีวิตถึง 41 ราย
ส่วนตัวเลขผู้บาดเจ็บมีทั้งหมด 48 คน มีอาการตั้งแต่บาดเจ็บเล็กน้อยไปจนถึงขั้นสาหัสจากการถูกยิง
อาร์เดิร์นกล่าวว่า เหตุที่เกิดขึ้นนั้นไม่คาดฝัน และถือเป็นการก่อการร้าย พร้อมชี้ว่า ตำรวจควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยในเวลานี้ 4 คน และคนทั้งหมดไม่ได้อยู่ในรายชื่อการจับตาของตำรวจนิวซีแลนด์
ผู้นำนิวซีแลนด์เปิดเผยว่า เชื่อว่าการโจมตีนั้นถูกวางแผนมาได้ระยะหนึ่งถือเป็นการนเตรียมการมาอย่างดีดูได้จากการใช้คาร์บอมบ์
หนังสือพิมพ์นิวซีแลนด์รายงานว่า ระดับการเตือนภัยของนิวซีแลนด์อยู่ในขั้นสูงแล้วในเวลานี้ มีการส่งกองกำลังตำรวจเพิ่มเติมไปยังเมืองไครสต์เชิร์ช
อาร์เดนย้ำว่า นิวซีแลนด์ถือเป็นสถานที่ปลอดภัยสำหรับครอบครัว “คุณค่าเหล่านี้จะไม่มีวันและจะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้” และเสริมต่อว่า “สถานที่นี้ถือเป็นสถานที่คนจะต้องมีความรู้สึกปลอดภัย”
หนังสือพิมพ์แดนกีวีรายงานว่า เหตุโจมตี 2 จุดเกิดในวันนี้(15)เมื่อเวลา 13.40 น. และทางตำรวจสามารถจับกุมผู้ต้องสงสัยทั้งหมดได้ 4 คนเป็นผู้ชาย 3 คน และผู้หญิงอีก 1 คน
และพบว่าได้มีการเก็บกู้ระเบิด IEDจำนวนหนึ่งที่ถูกติดกับรถจำนวนมากกว่า 1 คันในเมืองไครสต์เชิร์ช ซึ่งรถเหล่านี้เป็นรถของคนร้าย
ด้านนายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย สกอตต์ มอร์ริสัน (Scott Morrison) ยืนยันว่า หนึ่งในคนร้ายก่อเหตุเป็นพลเมืองออสเตรเลียจริง โดยคนร้ายรายนี้อาศัยอยู่ในนิวซีแลนด์ เขากล่าวว่ารู้สึกตกใจและโกรธแค้นต่อเหตุที่เกิดขึ้น
คนร้ายรายนี้ได้เขียนประกาศเจตนารมณ์ขึ้น อ้างอิงจาก CNN มีความยาวถึง 87 หน้า ในเนื้อหาชายผู้นี้ซึ่งเป็นพลเมืองออสเตรเลียยืนยันว่า “ทำการก่อการร้าย”
มอร์ริสันย้ำว่า “เราอยู่ที่นี่เพื่อประณามอย่างรุนแรงต่อการโจมตีวันนี้ที่เกิดจากฝีมือพวกสุดโต่งขวาจัด ผู้ก่อการร้ายที่มีความรุนแรง”
มอร์ริสัน ผู้นำออสเตรเลียยังกล่าวว่า การโจมตีได้เตือนให้เราให้เห็นถึงปิศาจที่ยังคงปรากฎและมีความต้องการที่จะทำร้ายพวกเราเมื่อไหร่ก็ตาม
สำหรับคำสั่งปิดตายโรงเรียนในเมืองไครสต์เชิร์ชได้ถูกสั่งยกเลิกในเวลา 17.50 น.ของวัน
นิวซีแลนด์เฮอรัลด์รายงานว่า ผู้บัญชาการตำรวจ ไครสต์เชิร์ช บุช ตอบคำถามถึงประเด็นที่ว่า หนึ่งในกลุ่มของผู้ที่ถูกจับกุมนั้นมีระเบิดผูกติดกับตัว โดยทางบุชกล่าวว่า “ผู้ต้องสงสัยรายนั้นถูกทำให้ปลอดภัยแล้ว”
ภายในมัสยิดมาสยิด อัล นัวร์ ตั้งอยู่ในใจกลางเมือง มีร่างผู้เสียชีวิตหนึ่งรายนอนอยู่บนพื้น และ “มือปืนคนที่ 2” ปรากฏตัวขึ้นใกล้กับมัสยิดลินวูด มาสยิด (Linwood Masjid) ซึ่งเป็นจุดก่อเหตุที่ 2
1 ใน 2 ของมือปืนได้ทำการถ่ายทอดสดการกราดยิงของตัวเอง โดยทางบุชชี้ว่าในเวลานี้ทางตำรวจกำลังพยายามหาทางที่นำวิดีโอคลิปเหตุการณ์กราดยิงนี้ไม่ให้ถูกเผยแพร่ทางโซเชียลมีเดีย