รอยเตอร์ - สภาสามัญ (สภาผู้แทนราษฎร) แห่งสหราชอาณาจักร ลงมติท่วมท้นในวันพฤหัสบดี(14มี.ค.) จะขอเลื่อนถอนตัวจากสหภาพยุโรป(เบร็กซิต) เปิดโอกาสให้นายกรัฐมนตรีเทเรซา เมย์ ใช้ความพยายามครั้งใหม่สำหรับผลักกันข้อตกลงแยกตัวของเธอผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภาในสัปดาห์หน้า
สมาชิกสภาสามัญลงมติ 412 ต่อ 202 เสียง เลือกหนทางที่จะร้องขอเลื่อนกำหนดการถอนตัวออกไปในระยะสั้นๆ หากว่าสามารถเห็นพ้องในข้อตกลงเบร็กซิตในวันที่ 20 มีนาคมนี้ หรืออาจเลื่อนออกไปนานกว่านั้น หากไม่สามารถตกลงกันได้ทันเวลา
ด้วยเหลือเวลาเพียง 15 วันก่อนถึงกำหนดที่อังกฤษจะแยกตัวออกจากสหภาพยุโรปในวันที่ 29 มีนาคม เมย์ต้องพยายามโน้มน้าวให้ ส.ส.ส่วนใหญ่ในพวกที่สนับสนุนการถอนตัวจากสหภาพยุโรป เลิกต่อต้านดีลของเธอ โดยขู่ว่าหากสภาโหวตคว่ำเป็นคำรบสาม อาจทำให้ต้องเลื่อนเส้นตายการออกจากอียูเนิ่นช้าออกไปอีก และบีบคั้นให้สหราชอาณาจักรยังคงต้องเข้าร่วมจัดการเลือกตั้งรัฐสภายุโรปครั้งใหม่ในเดือนพฤษภาคมที่จะถึงนี้
คาดหมายว่าการลงมติครั้งใหม่ในดีลของเมย์จะมีขึ้นในสัปดาห์หน้า โดยคราวนี้พวกสมาชิกรัฐสภาจะต้องตัดสินใจว่าจะสนับสนุนข้อตกลงที่พวกเขารู้สึกว่าไม่ได้เสนอตัดขาดโดยสิ้นเชิงกับอียู หรือยอมรับการต้องเลื่อนการถอนตัวจากอียูออกไปยาวๆ ทั้งนี้การชะลอออกไปนานๆ ทำให้พวกเรียกร้องเบร็กซิตเห็นว่ามีความเสี่ยงที่สถานการณ์อาจเกิดความเปลี่ยนแปลงจนกระทั่งไม่มีการถอนตัวออกจากอียูเลยก็เป็นได้
ก่อนหน้านี้ในวันเดียวกัน สภาสามัญลงมติ 334 ต่อ 85 เสียงคัดค้านการทำประชามติรอบ 2 ต่อความเป็นสมาชิกภาพอียู ด้วยสมาชิกส่วนใหญ่ของพรรคเลเบอร์ พรรคฝ่ายค้าน ไม่สนับสนุนมาตรการดังกล่าว และแม้แต่ฝ่ายรณรงค์ที่ใช้ชื่อว่า People's Vote(เสียงของประชาชน) ก็ระบุว่ามันไม่ใช่เวลาที่เหมาะสมที่รัฐสภาจะมาโหวตในประเด็นนี้
อำนาจความชอบธรรรมของเมย์ ดำดิ่งแตะระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ในสัปดาห์ หลังเจอก่อขบถและประสบความพ่ายแพ้อย่างน่าอับอายหลายต่อหลายครั้งในรัฐสภา อย่างไรก็ตามเธอแสดงจุดยืนอย่างชัดเจนว่าแผนของเธอยังอยู่ในวานะ แม้ถูกปฏิเสธอย่างท่วมท้นในรัฐสภามาแล้วถึง 2 ครั้ง โดยหนแรกเมื่อเดือนมกราคมและอีกครั้งเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา
ในวันอังคาร (12) สภาสามัญลงคะแนนเสียงท่วมท้นคว่ำข้อตกลงเบร็กซิตของเมย์ แล้วในวันพุธ (13) ซึ่งมีการจัดโหวตในประเด็นที่ว่ายินยอมให้สหราชอาณาจักรออกจากอียูแบบไม่มีข้อตกลงใดๆ (โน-ดีล) หรือไม่ ปรากฏว่าเป็นไปตามความคาดหมายคือเสียงส่วนใหญ่คัดค้านทางเลือกนี้ ดังนั้นจึงต้องจัดลงคะแนนอีกในวันพฤหัสบดี(14มี.ค.) ในประเด็นว่าจะเลื่อนเบร็กซิตออกไปจากกำหนดเดิมคือวันที่ 29 มี.ค.นี้หรือไม่
เป็นไปตามคาดที่สภารับรองให้เลื่อนเส้นตายออกไป ทว่าเรื่องนี้ยังจะต้องได้รับความเห็นชอบจากพวกผู้นำอื่นๆ 27 ชาติของอียูด้วย โดยที่เมย์กล่าวในวันพุธว่า ส.ส.สหราชอาณาจักรจำเป็นต้องตกลงกันให้ได้เกี่ยวกับขั้นตอนวิธีการต่อไป ก่อนที่จะขอขยายเส้นตายกับอียู
โฆษกของเมย์ บอกในวันพฤหัสบดี(14มี.ค.) ว่านายกรัฐมนตรีจะเดินหน้านำข้อตกลงเบร็กซิตของเธอ ซึ่งใช้เวลาเจรจากับอียูยาวนานกว่า 2 ปีครึ่งถึงบรรลุ เข้าสู่การลงมติอีกครั้ง "หากรู้สึกว่ามันคุ้มค่า"