เอเอฟพี - สมาชิกกลุ่มติดอาวุธ “รัฐอิสลาม” (ไอเอส) ประมาณ 3,000 คนยอมจำนน ขณะพวกที่ยังเหลือก็อยู่กำลังใช้ชีวิตของพวกเขา“ในชั่วขณะสุดท้าย” ภายหลังการเปิดปฏิบัติการถล่มโจมตีทางอากาศและด้วยปืนใหญ่ ใส่เศษเสี้ยวดินแดนผืนสุดท้ายของเขาในภาคตะวันออกของซีเรีย กองกำลังฝ่ายค้านที่นำโดยชาวเคิร์ดในซีเรียและมีสหรัฐฯ หนุนหลังระบุในวันพุธ (13 มี.ค.)
กองกำลังที่สหรัฐฯสนับสนุนและมีชื่ออย่างเป็นทางการว่า กองกำลังประชาธิปไตยซีเรีย (เอสดีเอฟ) บอกด้วยว่า พวกนักรบเดนตายของไอเอสซึ่งยังคงอยู่ป้องกันเศษเดินที่ยังหลงเหลืออยู่ของ “รัฐคอลีฟะห์” ของพวกเขา ได้พยายามตอบโต้ด้วยระลอกการโจมตีโดยมือระเบิดฆ่าตัวตาย
รัฐคอลีฟะห์ หรือ “รัฐกาหลิบ” ที่ไอเอสได้ประกาศสถาปนาขึ้นเมื่อปี 2014บนพื้นที่กว้างขวางของอิรักและซีเรีย และมีประชากรรวมหลายล้านคน เวลานี้ถูกทวงคืน จนเหลือเพียงพื้นที่ริมแม่น้ำซึ่งเต็มไปด้วยโคลนตมในหมู่บ้านบากูซ ทางภาคตะวันออกของซีเรีย ใกล้ๆ ชายแดนอิรักเท่านั้น
กองกำลังเอสดีเอฟซึ่งมีนักรบเคิร์ดเป็นแกนหลัก พยายามจะเผด็จศึกที่มั่นสุดท้ายของไอเอสมาเป็นเวลาหลายสัปดาห์ ทว่าพลเรือนทั้งชาย หญิง และเด็กๆ ที่แห่อพยพออกจากหมู่บ้านแห่งนี้ทำให้การจู่โจมเป็นไปได้ยาก
อย่างไรก็ตาม เอสดีเอฟ ซึ่งได้รับการสนับสนุนด้วยการโจมตีทางอากาศจากกลุ่มพันธมิตรนำโดยสหรัฐฯ ได้เปิดฉากโจมตีด้วยการระดมถล่มยิงปืนใหญ่อีกครั้งตั้งแต่วันอาทิตย์ (10) หลังประกาศเตือนพวกสมุนไอเอสที่ยังหลงเหลืออยู่ว่าเวลาของพวกเขา “หมดลงแล้ว”
การโจมตีที่ดำเนินต่อเนื่อง 3 คืนติด ณ หมู่บ้านบากูซ ทำให้ที่มั่นต่างๆ ของพวกนักรบไอเอสเกิดไฟไหม้ และลุกท่วมสถานที่พักแรมซึ่งสร้างขึ้นอย่างหยาบๆ ง่ายๆ ของพวกเขา
“ช่วงขณะสุดท้ายของไอเอสได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว” เจียเกอร์ อาเหม็ด นายทหารคนหนึ่งของเอสดีเอฟบอกกับสำนักข่าวเอเอฟพี และกล่าวต่อไปว่า การปะทะได้ดำเนินต่อเนื่องมาจนถึงตอนเช้าวันพุธ (13) โดยที่เอสดีเอฟกำลังพยายามเอาชนะการโจมตีตอบโต้ที่พวกไอเอสเปิดฉากขึ้นมาในตอนรุ่งสาง
นายทหารเอสดีเอฟผู้นี้เผยว่า กองกำลังของพวกเขากำลังใช้ปืนใหญ่ยิงถลมใส่พวกไอเอสอย่างหนักเพื่อหยุดยั้งการรุกกลับของพวกไอเอสซึ่งเปิดฉากกระทำจากหลายๆ แนวรบ ภายหลังได้มีการปะทะกันอย่างดุเดือดมาหลายรอบแล้วในคืนวันอังคาร (12)
“เรายังกำลังตอบโต้การโจมตี (ของไอเอส) จนกระทั่งถึงขณะนี้ทีเดียว” เขากล่าว “นี่น่าจะเป็นการโจมตีครั้งสุดท้ายของพวกเขา”
ทางด้านนักรบเอสดีเอฟผู้หนึ่งในบากูซเล่าวว่า ไอเอสกำลังใช้ “มือระเบิดฆ่าตัวตายจำนวนมาก” ในการรุกกลับของพวกเขาคราวนี้ ซึ่งเปิดฉากขึ้นภายหลังฟ้าสางโดยอาศัยพายุทรายเป็นเครื่องกำบัง
ก่อนหน้านี้ เมื่อค่ำวันอังคาร (12) มุสเตฟา บาลี โฆษก เอสดีเอฟ ทวิตข้อความเป็นภาษาอังกฤษว่า “สมาชิกดาเอช (ไอเอส) ที่ยอมจำนนต่อเราตั้งแต่ค่ำวันจันทร์ (11) จนถึงขณะนี้อยู่ที่ราวๆ 3,000 คน” พร้อมระบุว่ามีหญิงชนกลุ่มน้อยยาซิดี 3 คนกับเด็กๆ อีก 4 คนได้รับการช่วยเหลือด้วย
โฆษก เอสดีเอฟ เผยว่า เครื่องบินรบของกลุ่มพันธมิตรนำโดยสหรัฐฯ ได้โจมตีหมู่บ้านบากูซถึง 20 ระลอกในวันจันทร์ (11) โดยพุ่งเป้าไปที่รถหุ้มเกราะและโกดังเก็บอาวุธของพวกนักรบญิฮาด ขณะที่นักรบ เอสดีเอฟ ก็ปะทะกับไอเอสในหลายพื้นที่ และสังหารพวกเขาไปได้เกือบ 40 คน
ตั้งแต่เดือน ธ.ค. เป็นต้นมามีคนอพยพออกจากฐานที่มั่นสุดท้ายของไอเอสแล้วประมาณ 60,000 คน โดย 1 ใน 10 เป็นนักรบญิฮาด ตามข้อมูลจากศูนย์สังเกตการณ์สิทธิมนุษยชนซีเรียซึ่งมีฐานในกรุงลอนดอน
แม้การยึดหมู่บ้านบากูซได้อย่างสมบูรณ์จะถือเป็นจุดจบของรัฐคอลีฟะห์ที่ไอเอสจัดตั้งขึ้นเมื่อ 4 ปีก่อน ทว่าในความเป็นจริงยังคงมีสมุนไอเอสหลงเหลืออยู่ตามทะเลทรายบาเดีย ไม่รวมพวกที่ฝังตัวอยู่เงียบๆ เพื่อรอโอกาสต่อไปในอนาคต ในบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือของซีเรีย