เอเอฟพี – สหรัฐฯ ระบุว่าไม่มีเหตุผลที่จะต้องระงับการใช้เครื่องบินโบอิ้ง 737 แม็กซ์ หลังจากเหตุตกครั้งที่สองของเครื่องบินรุ่นนี้ในช่วงเวลาไม่ถึง5 เดือนทำให้รัฐบาลทั่วโลกออกคำสั่งแบนเครื่องบินรุ่นนี้
ถึงแม้ว่ายักษ์ใหญ่ด้านการบินจะยืนยันว่าเครื่องบินรุ่นนี้ปลอดภัยและวางใจได้ แต่สหภาพยุโรป อังกฤษ และอินเดีย ก็ร่วมกับจีนและประเทศอื่นๆ สั่งระงับการใช้เครื่องบินรุ่นดังกล่าวหรือห้ามไม่ให้มันบินเหนือน่านฟ้าในขณะที่พวกเขากำลังรอผลการสืบสวนเหตุตกล่าสุด
อย่างไรก็ตาม จนถึงตอนนี้ สหรัฐฯยังคงปฏิเสธที่จะใช้มาตรการเดียวกันนี้กับเครื่องบินรุ่นขายดีของบริษัทยักษ์ใหญ่การบินสัญชาติอเมริกัน
“จนถึงตอนนี้การตรวจสอบของเรายังไม่พบปัญหาสมรรถนะด้านระบบใดๆ และไม่มีมูลเหตุที่จะต้องสั่งเก็บเครื่องบินรุ่นนี้”แดเนียลเอลเวล หัวหน้าหน่วยงานการบินส่วนกลาง (Federal Aviation Administration : FAA)ระบุในถ้อยแถลงวานนี้(12)
เครื่องบิน 737 แม็กซ์ 8 ลำใหม่ของเอธิโอเปียแอร์ไลน์ตกไม่กี่นาทีหลังขึ้นบินจากกรุงแอดดิสอบาบาไปกรุงไนโรบีเมื่อวันอาทิตย์(10) ส่งผลให้ 157 ชีวิตบนเครื่องเสียชีวิตทั้งหมด
มันเกิดขึ้นหลังการตกของเครื่องบินลำใหม่รุ่นเดียวกันนี้ของไลออนแอร์ในอินโดนีเซีย ซึ่งคร่า 189 ชีวิต ไม่นานหลังขึ้นบินจากกรุงจาการ์ตา
การมีคำสั่งเก็บเครื่องบินรุ่นนี้อย่างกว้างขวางสร้างแรงกดดันให้กับโบอิ้ง ผู้ผลิตเครื่องบินรายใหญ่ที่สุดของโลก ให้ต้องพิสูจน์ความปลอดภัยของเครื่อง 737 แม็กซ์ และโบอิ้ง ระบุว่า พวกเขากำลังปล่อยตัวอัพเดทซอฟแวร์การบินในเดือนเมษายน ซึ่งอาจจัดการกับปัญหาเซนเซอร์บกพร่อง
ขอบเขตผลกระทบจากการแบนเส้นทางการบินระหว่างประเทศทั้งหมดนั้นยังคงไม่แน่ชัด ปัจจุบันทั่วโลกมีเครื่อง 737 แม็กซ์ 8 อยู่ราว 350 ลำ
แอร์ แคนาดา ประกาศว่า พวกเขากำลังยกเลิกเที่ยวบินสู่กรุงลอนดอนภายหลังอังกฤษตัดสินใจแบนเครื่องบินรุ่นนี้
หน่วยงานความปลอดภัยการบินของอียูก็ปิดน่านฟ้ายุโรปไม่ให้เครื่อง 737 แม็กซ์ผ่านเช่นกัน
“ในระหว่างการสืบสวนเบื้องต้น มันยังไม่อาจตัดความเป็นไปได้ที่ว่าทั้งสองเหตุการณ์อาจเกิดจากสาเหตุเดียวกัน” หน่วยงานการบินของอียู ระบุ โดยอ้างจากเหตุตกของเอธิโอเปียแอร์ไลน์และไลออนแอร์
