เอเอฟพี – สมาชิกกลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลาม (ไอเอส) ประมาณ 3,000 คนยอมจำนนและละทิ้งฐานที่มั่นแห่งสุดท้ายในซีเรีย หลังปฏิบัติการโจมตีทางอากาศเริ่มขึ้นอีกครั้ง กองกำลังเคิร์ดในซีเรียที่มีสหรัฐฯ หนุนหลังยืนยันวานนี้ (12 มี.ค.)
รัฐคอลีฟะห์ที่ไอเอสได้ประกาศสถาปนาขึ้นบนพื้นที่กว้างขวางของอิรักและซีเรียเมื่อปี 2014 เวลานี้ถูกทวงคืนจนเหลือเพียงหมู่บ้านบากูซ (Baghouz) ในภาคตะวันออกของซีเรียเท่านั้น
กองกำลังประชาธิปไตยซีเรีย (SDF) ซึ่งมีนักรบเคิร์ดเป็นแกนหลักพยายามจะเผด็จศึกที่มั่นสุดท้ายของไอเอสมาเป็นเวลาหลายสัปดาห์ ทว่าพลเรือนทั้งชาย หญิง และเด็กๆ ที่แห่อพยพออกจากหมู่บ้านริมแม่น้ำแห่งนี้ทำให้การจู่โจมเป็นไปได้ยาก
อย่างไรก็ตาม SDF ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มพันธมิตรสหรัฐฯ ได้เปิดฉากโจมตีอีกครั้งเมื่อวันอาทิตย์ (10) หลังประกาศเตือนพวกสมุนไอเอสที่ยังหลงเหลืออยู่ว่าเวลาของพวกเขา “หมดลงแล้ว”
การโจมตีทางอากาศต่อเนื่อง 3 คืนติดที่หมู่บ้านบากูซทำให้นักรบไอเอสถูกปลิดชีพไปเป็นจำนวนมาก ส่วนพวกที่เหลืออยู่และญาติมิตรก็ตัดสินใจยกธงขาว
“สมาชิกดาเอช (ไอเอส) ที่ยอมจำนนต่อเราตั้งแต่ค่ำวันจันทร์ (11) จนถึงขณะนี้อยู่ที่ราวๆ 3,000 คน” มุสเตฟา บาลี โฆษก SDF ทวีตข้อความเป็นภาษาอังกฤษเมื่อค่ำวานนี้ (12) พร้อมระบุว่ามีหญิงชนกลุ่มน้อยยาซิดี 3 คนกับเด็กๆ อีก 4 คนได้รับการช่วยเหลือด้วย
นักรบ SDF หลายสิบคนได้ไปรวมตัวที่ทางเข้าหมู่บ้านบากูซเมื่อช่วงค่ำวานนี้ (12) โดยผู้บัญชาการหน่วยที่ชื่อ เชรีฟ ยืนยันว่า นักรบของเขาพร้อมที่จะบุกเข้าทลายที่มั่นสุดท้ายของไอเอส
โฆษก SDF เผยว่า เครื่องบินรบของกลุ่มพันธมิตรสหรัฐฯ ได้โจมตีหมู่บ้านบากูซถึง 20 ระลอกในวันจันทร์ (11) โดยพุ่งเป้าไปที่รถหุ้มเกราะและโกดังเก็บอาวุธของพวกนักรบญิฮาด ขณะที่นักรบ SDF ก็ปะทะกับไอเอสในหลายพื้นที่ และสังหารพวกเขาไปได้เกือบ 40 คน
ตั้งแต่เดือน ธ.ค. เป็นต้นมามีคนอพยพออกจากฐานที่มั่นสุดท้ายของไอเอสแล้วประมาณ 60,000 คน โดย 1 ใน 10 เป็นนักรบญิฮาด ตามข้อมูลจากศูนย์สังเกตการณ์สิทธิมนุษยชนซีเรียซึ่งมีฐานในกรุงลอนดอน
แม้การยึดหมู่บ้านบากูซได้อย่างสมบูรณ์จะถือเป็นจุดจบของรัฐคอลีฟะห์ที่ไอเอสจัดตั้งขึ้นเมื่อ 4 ปีก่อน ทว่าในความเป็นจริงยังคงมีสมุนไอเอสหลงเหลืออยู่ตามทะเลทรายบาเดีย ไม่รวมพวกที่แฝงตัวอยู่เงียบๆ ในรูปแบบ ‘เซลล์ที่หลับใหล’ (sleeper cells) ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของซีเรีย
