เอเอฟพี - พระราชาคณะ จอร์จ เพลล์ หนึ่งในที่ปรึกษาใกล้ชิดของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ถูกศาลออสเตรเลียตัดสินจำคุก 6 ปีในข้อหาตุ๋ยเด็กวันนี้ (13 มี.ค.) ซึ่งผู้พิพากษาชี้ว่าเป็นการกระทำที่ไร้ยางอาย และใช้อำนาจโดยมิชอบอย่างร้ายแรง
เพลล์ ถูกนำตัวไปขึ้นศาลเคาน์ตีคอร์ทออฟวิฟตอเรียในนครเมลเบิร์นวันนี้ (13) หลังคณะลูกขุนตัดสินว่ามีความผิดรวม 5 กระทง ซึ่งรวมถึงการข่มขืนด้วยปากและลวนลามทางเพศเด็กชาย 2 คนในวงประสานเสียงของโบสถ์เมื่อช่วงปี 1996-1997 ขณะที่เจ้าตัวยังยืนยันในความบริสุทธิ์ และมีแผนจะยื่นอุทธรณ์
เพลล์ วัย 77 ปี นิ่งฟังอย่างสงบ ขณะที่ผู้พิพากษา ปีเตอร์ คิดด์ สาธยายพฤติกรรมการตุ๋ยเด็กของเขาว่าร้ายแรงเพียงใด
“คุณอาจไม่มีชีวิตอยู่จนถึงวันพ้นโทษ” คิดด์ กล่าว พร้อมทั้งประณามเจ้าหน้าที่ระดับ 3 ของวาติกันผู้นี้ว่า “ล่วงละเมิดอย่างร้ายกาจ” และ “บังคับขืนใจเหยื่อทั้งสองโดยไร้ยางอาย”
พระคาร์ดินัลชราผู้นี้ถูกสั่งให้ลงชื่อในทะเบียนผู้กระทำความผิดทางเพศ (sex offender) ในขณะที่ผู้พิพากษาตัดสินให้ เพลล์ ต้องรับโทษจำคุกอย่างต่ำ 3 ปี 8 เดือนก่อนจะมีสิทธิ์ขอทำทัณฑ์บน โดยเห็นแก่ที่เขา “ดำเนินชีวิตในด้านอื่นๆ อย่างไร้ที่ติ”
สำหรับความผิด 5 กระทงรวมกันนั้นมีโทษจำคุกสูงสุดถึง 50 ปี
เพลล์ ซึ่งเวลานั้นเป็นอาร์คบิชอปแห่งเมลเบิร์นได้บังคับขืนใจเด็กชาย 2 คนภายในห้องเก็บเครื่องพิธีที่โบสถ์เซนต์แพทริก หลังพิธีสวดมนต์วันอาทิตย์เมื่อเดือน ธ.ค. ปี 1996 โดยเด็กทั้งสองอายุ 13 ปี และได้ทุนการศึกษาเข้าเรียนที่วิทยาลัยเซนต์เควินคอลเลจ ซึ่งเป็นสถาบันการศึกษาที่มีชื่อเสียง
หลังจากนั้นอีกเพียง 2 เดือน เพลล์ ก็ได้ขืนใจเหยื่อ 1 ใน 2 คนอีกครั้งที่ระเบียงทางเดินของโบสถ์
เหยื่อ 1 ใน 2 เพิ่งจะเสียชีวิตไปเมื่อปี 2014 จากการเสพเฮโรอีนเกินขนาด และไม่เคยเปิดเผยเรื่องที่ตนเองเคยถูก เพลล์ ล่วงละเมิด
เหยื่ออีกรายที่ยังมีชีวิตอยู่ยอมรับว่า คำตัดสินของศาลในวันนี้ไม่อาจลบเลือนความทุกข์ทรมานที่ตนต้องประสบได้
“มันเป็นเรื่องยากสำหรับผมที่จะรู้สึกตื้นตันกับช่วงเวลานี้” เหยื่อซึ่งไม่เปิดเผยชื่อออกคำแถลงผ่านทนาย วิเวียน วอลเลอร์
“ผมซาบซึ้งที่ศาลยอมรับในสิ่งที่เคยเกิดขึ้นกับผมในวัยเด็ก แต่ผมก็ยังไม่สบายใจอยู่ดี การอุทธรณ์ซึ่งกำลังจะมีขึ้นทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างไม่แน่นอน”
เพลล์ ถือเป็นพระราชาคณะชั้นสูงสุดในประวัติศาสตร์ของวาติกันที่ถูกศาลตัดสินลงโทษฐานตุ๋ยเด็ก เขาเคยเป็นผู้คุมการเงินของวาติกัน และมีสิทธิ์ร่วมคัดเลือกพระสันตะปาปาด้วย