เอเจนซีส์ – สายการบินของจีน, เอธิโอเปีย, อินโดนีเซีย, และหมู่เกาะเคย์แมน ระงับการใช้เครื่องบิน โบอิ้ง 737 แม็กซ์ 8 เป็นการชั่วคราวในวันจันทร์ (11 มี.ค.) เพื่อดำเนินการสอบสวนหรือจนกว่าจะได้รับการยืนยันรับรองความปลอดภัยจากผู้ผลิตและหน่วยงานการบินสหรัฐฯ ขณะที่ความสงสัยข้องใจเกี่ยวกับเครื่องบินโดยสารรุ่นที่เป็นความหวังใหม่ของบริษัทโบอิ้งรุ่นนี้ กำลังแผ่ลามขึ้นมาอีกครั้ง หลังจากเมื่อวันอาทิตย์ (10) 737 แม็กซ์ 8 ของ เอธิโอเปียนแอร์ไลนส์ ตกและทำให้ผู้โดยสารเสียชีวิตยกลำ ซึ่งถือเป็นโศกนาฏกรรมครั้งที่ 2 ในเวลา 4 เดือนของเครื่องบินรุ่นนี้
โบอิ้ง 737 แม็กซ์ 8 ของสายการบินเอธิโอเปียนแอร์ไลนส์ ดิ่งโหม่งโลกหลังจากทะยานขึ้นฟ้าจากกรุงแอดดิสอาบาบาได้แค่ 6 นาทีในวันอาทิตย์ ทำให้ผู้อยู่บนเครื่องทั้ง 157 คนเสียชีวิตยกลำ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นหลังจากเมื่อวันที่ 29 ตุลาคมที่ผ่านมา เครื่องบินโดยสารรุ่นเดียวกันนี้ของสายการบินไลอ้อนแอร์ของอินโดนีเซียก็ได้ตกลงในทะเลชวา ภายหลังบินขึ้นจากสนามบินกรุงจาการ์ตาได้ไม่นาน โดยผู้โดยสารและลูกเรือทั้ง 187 คนสิ้นชีพหมดเช่นเดียวกัน
สำนักงานการบินพลเรือนจีนแถลงว่า ออกคำสั่งให้สายการบินของแดนมังกรทุกรายระงับการใช้เครื่องบินรุ่นนี้ตั้งแต่เวลา 9.00 น. วันจันทร์ (ตรงกับ 8.00 น. ตามเวลาไทย) โดยเป็นการปฏิบัติที่สอดคล้องกับหลักการการบริหารจัดการที่ไม่ยอมรับความเสี่ยงด้านความปลอดภัยอย่างเด็ดขาด พร้อมกับระบุว่าจะแถลงเพิ่มเติมภายหลังหารือกับสำนักงานบริหารการบินพลเรือนของสหรัฐฯและบริษัทโบอิ้งแล้ว
ตามตัวเลขของรัฐบาลจีน บริษัทสายการบินและบริษัทให้เช่าเครื่องบินของจีน มีเครื่องบินโบอิ้ง 737 แม็กซ์ 8 ใช้อยู่รวมทั้งสิ้น 96 ลำ แล้วยังเชื่อกันว่ามีการสั่งซื้อเพิ่มอีกหลายสิบลำ
ในอุบัติเหตุล่าสุดที่เอธิโอเปียนั้น มีชาวจีนเสียชีวิตด้วย 8 คน
ทางด้าน อัสรัต เบกาชอว์ ผู้ทำหน้าที่โฆษกให้สายการบินเอธิโอเปียนแอร์ไลนส์ แถลงในวันจันทร์เช่นเดียวกันว่า สายการบินแห่งนี้ได้สั่งห้ามบินเครื่องบินโบอิ้งรุ่นนี้ที่ยังเหลืออยู่ 4 ลำแล้วจนกว่าจะมีการแจ้งเปลี่ยนแปลง เพื่อเป็น “มาตรการระมัดระวังด้านความปลอดภัยเป็นพิเศษ”
สายการบินใหญ่ที่สุดของแอฟริการายนี้กำลังใช้ 737 แม็กซ์ 8 จำนวน 5 ลำรวมทั้งลำที่ตกด้วย และอยู่ระหว่างรอการส่งมอบอีก 25 ลำ
ส่วนที่อินโดนีเซียก็ได้สั่ง “กราวด์” เครื่องบินรุ่นนี้จำนวน 11 ลำเพื่อการตรวจสอบให้แน่ใจในเรื่องความปลอดภัยทางการบิน และในเรื่องความสามารถที่จะใช้บินได้ของเครื่องบินรุ่นนี้ โปลานา บี. ปราเมสตี อธิบดีกรมการขนส่งทางอากาศแถลง
ขณะที่ สายการบินเคย์แมนแอร์เวยส์ ของหมู่เกาะเคย์แมน ก็แจ้งว่าได้สั่งระงับการบินของ โบอิ้ง 737 แม็กซ์ 8 ที่มีอยู่ 2 ลำเอาไว้เป็นการชั่วคราวเช่นเดียวกัน
การที่เครื่องบินของเอธิโอเปียนแอร์ไลนส์และของไลอ้อนแอร์ ต่างตกในสภาพที่มีปัญหาอัตราความเร็วผิดพลาดผันผวน ระหว่างไม่กี่นาทีแรกๆ ที่ทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า ทำให้เกิดความสงสัยข้องใจขึ้นมาว่ามีปัญหาที่ตัวเครื่องบินหรือไม่ ถึงแม้พวกผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยทางการบินกล่าวเตือนว่า ยังไม่ควรด่วนสรุปว่าภัยพิบัติ 2 ครั้งนี้มีความละม้ายคล้ายคลึงกัน จนกว่าจะมีผลสรุปของการสอบสวนอย่างรอบคอบ
“ผมหวังจริงๆ ว่าเราจะรอคอยผลของการสอบสวนกันก่อน แทนที่จะเร่งรีบมีข้อสรุปซึ่งอิงอยู่บนข้อเท็จจริงอันน้อยนิดอย่างยิ่งๆ ที่เรารู้กันอยู่ในตอนนี้” เป็นคำกล่าวของ แฮร์โร แรนเตอร์ ผู้ก่อตั้งเอวิเอชัน เซฟตี เน็ตเวิร์ก ที่รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับอุบัติเหตุด้านการบินทั่วโลก
แต่ วิลเลียม วอลด็อก ศาสตราจารย์ด้านความปลอดภัยทางการบินของมหาวิทยาลัยเอมบรี-ริดเดิล แอโรนอติคัลในฟลอริดา ระบุว่า การที่เครื่องบินรุ่นเดียวกันตกในลักษณะคล้ายกันคือ ดิ่งหัวลงทำให้เครื่องแตกเป็นเสี่ยง ไม่น่าจะใช่เรื่องบังเอิญ และมีเหตุผลเพียงพอที่จะทำให้เกิดข้อสงสัย
วอลด็อกเสริมว่า โบอิ้งจะพิจารณาโดยละเอียดเกี่ยวกับระบบจัดการการบินและระบบอัตโนมัติของ 737 แม็กซ์ และสำทับว่า อาจต้องรอให้เจ้าหน้าที่สอบสวนพบและวิเคราะห์กล่องดำของเครื่องบินแล้วเสร็จเสียก่อนจึงจะได้ข้อมูลเพิ่มเติมมากกว่านี้ ซึ่งล่าสุดเจ้าหน้าที่พบกล่องดำทั้งสองกล่องและดำเนินการเก็บกู้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
อลัน ดีล อดีตเจ้าหน้าที่สอบสวนของคณะกรรมการความปลอดภัยด้านการขนส่งแห่งชาติของสหรัฐฯ (เอ็นทีเอสบี) แสดงความเห็นว่า ลักษณะที่คล้ายกันที่รวมถึงนักบินของเครื่องบินทั้งสองลำประสบปัญหาหลังจากนำเครื่องขึ้นไม่นาน และรายงานอัตราการไต่ขึ้นแปรปรวนรุนแรงบ่งชี้ว่า เครื่องน่าจะมีปัญหาในการควบคุม
อย่างไรก็ตาม ดีลเสริมว่า มีคำอธิบายที่เป็นไปได้อีกหลายอย่าง ซึ่งรวมถึงปัญหาจากเครื่องยนต์ ความผิดพลาดของนักบิน น้ำหนักสัมภาระ การวินาศกรรม หรือบินชนนก และว่า เจ้าหน้าที่สอบสวนจะตรวจสอบการบำรุงรักษาเครื่องบิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเนื่องจากประเด็นนี้อาจเป็นประเด็นหลักในการสอบสวนอุบัติเหตุของไลอ้อน แอร์
ทว่า แรนเตอร์ แห่งเอวิเอชัน เซฟตี เน็ตเวิร์ก มองว่า การที่ซีอีโอของเอธิโอเปียนแอร์ไลนส์เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า การตรวจสอบเพื่อซ่อมบำรุงไม่พบว่า เครื่องบินมีปัญหาใดๆ ก่อนขึ้นบินเมื่อวันอาทิตย์ ทำให้ยังไม่สามารถฟันธงว่า อุบัติเหตุครั้งนี้คล้ายกับกรณีไลอ้อน แอร์
ทางด้านโบอิ้งทวิตว่า เสียใจอย่างลึกซึ้งกับการเสียชีวิตของผู้โดยสารและลูกเรือของเอธิโอเปียนแอร์ไลนส์ และจะส่งทีมเทคนิคไปยังสถานที่เกิดเหตุเพื่อช่วยเหลือเจ้าหน้าที่สอบสวนเอธิโอเปีย ตลอดจนเจ้าหน้าที่ของเอ็นทีเอสบี ทั้งนี้ โบอิ้งและเอ็นทีเอสบีมีส่วนร่วมในการสอบสวนกรณีการตกของไลอ้อนแอร์เช่นเดียวกัน
สำหรับกรณีไลอ้อนแอร์นั้น เจ้าหน้าที่สอบสวนอินโดนีเซียยังไม่ระบุสาเหตุการตก แต่กำลังตรวจสอบว่า เป็นไปได้หรือไม่ที่การอ่านค่าผิดของอุปกรณ์เซ็นเซอร์ซึ่งเพิ่งเปลี่ยนใหม่ อาจกระตุ้นคำสั่งให้เครื่องปักหัวลงอัตโนมัติ และแม้นักบินพยายามยกเลิกคำสั่งและเข้าบังคับเครื่องเองแต่ก็ไม่สำเร็จ
เครื่องบันทึกข้อมูลการบินของไลอ้อนแอร์แสดงให้เห็นว่า เกิดปัญหาจากดัชนีความเร็วของเครื่องบินลำดังกล่าวใน 4 เที่ยวบินก่อนหน้า แม้เมื่อแรกนั้นสายการบินระบุว่า ปัญหาดังกล่าวได้รับการแก้ไขแล้วก็ตาม
หลังอุบัติเหตุของไลอ้อนแอร์ไม่กี่วัน โบอิ้งได้ประกาศแจ้งสายการบินต่างๆ เกี่ยวกับความบกพร่องของข้อมูลจากเซ็นเซอร์ที่อาจทำให้เครื่องบินปักหัวลงอัตโนมัติ พร้อมกระบวนการจัดการสำหรับสถานการณ์ดังกล่าวคือปิดใช้งานระบบที่ทำให้เครื่องปักหัวลง
อย่างไรก็ตาม นักบินของสายการบินบางแห่ง ซึ่งรวมถึงอเมริกันและเซาท์เวสต์ ประท้วงว่าพวกเขาไม่ได้รับแจ้งอย่างสมบูรณ์เกี่ยวกับระบบใหม่ ต่อมา เดนนิส มิวเลนเบิร์ก ซีอีโอโบอิ้ง แถลงในเดือนธันวาคมว่า แม็กซ์เป็นเครื่องบินที่ปลอดภัย และบริษัทไม่ได้ปิดบังรายละเอียดการดำเนินการใดๆ ต่อสายการบินและนักบิน
ทั้งนี้ โบอิ้ง 737 ถือเป็นเครื่องบินที่ขายดีที่สุดในประวัติศาสตร์ และแม็กซ์ เป็นเวอร์ชันล่าสุดของรุ่นนี้ซึ่งติดตั้งเครื่องยนต์ที่ใช้เชื้อเพลิงอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และเป็นหัวใจสำคัญของยุทธศาสตร์ของโบอิ้งในการต่อกรกับแอร์บัสจากยุโรป
จนถึงขณะนี้โบอิ้งส่งมอบ 737 แม็กซ์แล้วประมาณ 350 ลำ และยังมีคำสั่งซื้อค้างอยู่อีกกว่า 5,000 ลำ โดยอุบัติเหตุของไลอ้อนแอร์ดูเหมือนไม่ส่งผลต่อยอดขายเครื่องบินรุ่นนี้แต่อย่างใด