รอยเตอร์ – พลเมืองเวเนซุเอลาที่หนังสือเดินทางหมดอายุจะได้รับอนุญาตให้ข้ามพรมแดนเข้าสู่โคลอมเบียได้ เนื่องจากรัฐบาลโบโกตาเล็งเห็นถึงความยากลำบากในการขอต่ออายุหนังสือเดินทาง ขณะที่ประเทศเพื่อนบ้านกำลังเผชิญวิกฤตเศรษฐกิจขั้นรุนแรง สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองโคลอมเบียแถลงวานนี้ (8 มี.ค.)
ชาวเวเนซุเอลากว่า 1.2 ล้านคนได้อพยพหนีภาวะข้าวยากหมากแพงและวิกฤตการเมืองมายังโคลอมเบียในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ซึ่งทำให้รัฐบาลโบโกตาต้องรับภาระหนักในการดูแลเรื่องสุขภาพ ที่พักอาศัย และสาธารณูปโภคต่างๆ ให้แก่คนเหล่านี้
ชาวเวเนฯ จำนวนมากข้ามพรมแดนมาโดยไม่มีวีซ่า เนื่องจากไม่สามารถต่ออายุหนังสือเดินทางได้
คริสเตียน ครูเกอร์ ผู้อำนวยการสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองโคลอมเบีย ระบุว่า การต่ออายุหนังสือเดินทางในเวเนซุเอลานั้น “แทบจะเป็นไปไม่ได้เลย เนื่องจากค่าธรรมเนียมแพง ไม่มีวัตถุดิบที่จะผลิต อีกทั้งรัฐบาลก็ต้องการสกัดไม่ให้พลเมืองไหลออกไปมากกว่านี้”
ด้วยสาเหตุที่กล่าวมา ทางการโคลอมเบียจึงจะอนุญาตให้ชาวเวเนฯ ที่ถือหนังสือเดินทางหมดอายุไม่เกิน 2 ปีเข้าประเทศได้
มาตรการที่ว่านี้เป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงในกลุ่มประเทศ ‘ลิมากรุ๊ป’ เพื่อให้ความช่วยเหลือผู้อพยพชาวเวเนฯ และปกป้องคนเหล่านี้ไม่ให้ตกเป็นเหยื่อแก๊งค้ามนุษย์
สหรัฐฯ และอีกกว่า 50 ประเทศทั่วโลกได้ประกาศรับรองให้นาย ฮวน กวยโด ผู้นำฝ่ายค้านเวเนซุเอลา เป็นประธานาธิบดีรักษาการที่มีอำนาจชอบธรรม ขณะที่รัฐบาลประธานาธิบดี นิโคลัส มาดูโร ก็ยังมีมหาอำนาจอย่างจีนและรัสเซียให้การหนุนหลังอยู่
ความพยายามของ กวยโด ที่จะขนสิ่งของบรรเทาทุกข์จากโคลอมเบียเข้าไปยังเวเนซุเอลาถูกขัดขวางโดยกองทัพเวเนฯ ที่ยังคงภักดีต่อมาดูโร และปิดกั้นไม่ให้ขบวนรถบรรทุกขนความช่วยเหลือข้ามพรมแดนเข้าไปได้ จนนำไปสู่เหตุชุลมุนซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 6 คนเมื่อเดือนที่แล้ว
“ไม่มีสิ่งใดจะอันตรายต่อประเทศชาติมากไปกว่าการที่เราไม่รู้ว่ามีใครบ้างเข้ามาในเขตแดนของเรา การปิดพรมแดนและขอตรวจเอกสารจากประชาชนที่หนีระบอบเผด็จการซึ่งทำให้พวกเขาต้องหิวโหยและขาดแคลนมีแต่จะเร่งให้เกิดการปฏิบัติที่ไม่ถูกต้องตามระเบียบ (irregularities) มากขึ้น” ครูเกอร์ กล่าว
