xs
xsm
sm
md
lg

Weekend Focus: เดโมแครตเริ่มเดินเกมรุก คุ้ยหลักฐานปูทางปลด ‘ทรัมป์’

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


การเมืองในสหรัฐฯ เริ่มทวีความร้อนระอุ เมื่อพรรคเดโมแครตที่เข้ากุมเสียงข้างมากในสภาล่างเริ่มต้นขุดคุ้ยข้อมูลเพื่อตรวจสอบประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ หวังพบหลักฐานที่อาจเข้าข่ายขัดขวางกระบวนการยุติธรรมและใช้อำนาจโดยมิชอบ โดยมีการสาวลึกลงไปถึงสมาชิกในครอบครัว บุคคลใกล้ชิด และธุรกิจของตระกูลทรัมป์ทั้งหมด

การตรวจสอบซึ่งกินขอบเขตกว้างขวางนี้คาดว่าจะส่งผลกระทบต่อศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่จะมีขึ้นในปีหน้า และอาจถึงขั้นนำไปสู่การถอดถอน (impeachment) ทรัมป์ ออกจากเก้าอี้ผู้นำทำเนียบขาว

เจอร์รี แนดเลอร์ ประธานคณะกรรมาธิการตุลาการแห่งสภาผู้แทนราษฎร ได้ส่งจดหมายร้องขอเอกสารจากบุคคลและนิติบุคคล 81 รายที่มีความเกี่ยวข้องกับทรัมป์ ในจำนวนนี้ยังรวมถึงบุตรชาย โดนัลด์ ทรัมป์ จูเนียร์ และ อีริค ทรัมป์, เจเร็ด คุชเนอร์ ลูกเขย และ แอลเลน ไวส์เซลเบิร์ก ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของบริษัท ทรัมป์ ออร์แกไนเซชัน

รายชื่อองค์กรและบุคคลที่ถูกขอเอกสารยังรวมถึง สตีฟ แบนนอน และ โฮป ฮิกส์ อดีตผู้ช่วยทำเนียบขาว, เจฟฟ์ เซสชันส์ อดีตรัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรม, ฌอน สไปเซอร์ อดีตเลขานุการฝ่ายสื่อ, ดอน แม็กกาห์น อดีตที่ปรึกษาทำเนียบขาว, สมาคมไรเฟิลแห่งชาติ (National Rifle Association) และ จูเลียน แอสซานจ์ ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์วิกิลีกส์

กระสอบสวนระลอกใหม่นี้นับว่าเข้มข้นที่สุดตั้งแต่พรรคเดโมแครตเริ่มกลับมาครองอำนาจในสภาผู้แทนราษฎรเมื่อต้นเดือน ม.ค. โดยมุ่งเปิดโปงพฤติกรรมของ ทรัมป์ และเจ้าหน้าที่ในรัฐบาลที่อาจเข้าข่ายขัดขวางกระบวนการยุติธรรม ทุจริตต่อสาธารณะ หรือความผิดอื่นๆ ร้ายแรงพอจะนำไปสู่การปลดประธานาธิบดี

“นี่คือช่วงเวลาสำคัญของประเทศชาติ เรามีหน้าที่ต้องตรวจสอบเรื่องราวเหล่านี้ และเปิดการไต่สวนเพื่อให้สาธารณชนได้ทราบความจริง” แนดเลอร์ ระบุ

ทรัมป์ ออกมาทวีตตอบโต้อย่างเผ็ดร้อนเมื่อเช้าตรู่วันอังคาร (5) โดยระบุว่าการสอบสวนของคณะกรรมาธิการตุลาการแห่งสภาผู้แทนราษฎรครั้งนี้เป็นการ “ใช้อำนาจเกินขอบเขตอย่างร้ายแรงที่สุดเท่าที่เคยมีมาในประวัติศาสตร์ของชาติเรา”

“อาชญากรรมที่แท้จริงก็คือสิ่งที่พวกเดโมแครตกำลังทำอยู่ และได้ทำไปแล้วด้วย!” ทรัมป์ กล่าว พร้อมตราหน้าแกนนำพรรคเดโมแครตว่า “สติฟั่นเฟือนสุดๆ” และกำลัง “ข่มขู่ประธานาธิบดี”

ซาราห์ แซนเดอร์ส โฆษกทำเนียบขาว ก็ออกมาวิจารณ์การกระทำของเดโมแครตว่า “ไม่สง่างาม” และเป็นการดูหมิ่นเหยียดหยามประธานาธิบดี ซึ่งตนเชื่อว่าที่เดโมแครตทำเช่นนี้ก็เพราะกลัวว่าเรื่อง “สมคบคิดรัสเซีย” ที่พยายามประโคมมาตลอด 2 ปีกำลังจะหมดความน่าเชื่อถือ

แซนเดอร์ส ยังปรามาสสิ่งที่พรรคเดโมแครตทำว่า “ไม่ใช่การตามหาความจริง หากแต่เป็นการไล่ล่าประธานาธิบดี”

เป็นที่น่าสังเกตว่า รายชื่อบุคคลและนิติบุคคลที่พรรคเดโมแครตร้องขอเอกสารนั้นกลับไม่มีชื่อของ อิวองกา ทรัมป์ บุตรสาวคนโปรดของผู้นำสหรัฐฯ ทั้งที่ ไมเคิล โคเฮน อดีตทนายของทรัมป์ ได้ให้การพาดพิงต่อคณะกรรมาธิการคองเกรสเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า อิวองกา เป็นอีกคนที่ตนรายงานความคืบหน้าเกี่ยวกับโครงการ ‘ทรัมป์ทาวเวอร์’ ในกรุงมอสโกให้ทราบอย่างสม่ำเสมอ

แนดเลอร์ ได้ออกมาชี้แจงประเด็นนี้ผ่านซีเอ็นเอ็น พร้อมเรียกร้องให้สาธารณชนอย่าเพิ่งด่วนสรุป

“เธอ (อิวองกา ทรัมป์) ไม่ได้อยู่ในลิสต์เบื้องต้น เราอธิบายได้เท่านี้” แนดเลอร์ กล่าว พร้อมระบุว่าทางคณะกรรมาธิการยังจะต้องร้องขอเอกสารเพิ่มเติมอีก ซึ่งอาจครอบคลุมไปถึงบุคคลอื่นๆ ด้วย

ด้านคณะกรรมาธิการสภาล่างอีก 3 ชุดที่มี ส.ส.เดโมแครตเป็นประธานก็ได้ทำเรื่องขอข้อมูลการหารือส่วนตัวระหว่าง ทรัมป์ กับประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซีย ทั้งทางโทรศัพท์และการพบกันตัวต่อตัว

ในจดหมายที่ส่งถึงทำเนียบขาวและกระทรวงต่างประเทศ คณะกรรมาธิการข่าวกรอง คณะกรรมาธิการวิเทศสัมพันธ์ และคณะกรรมาธิการกำกับดูแลของสภาผู้แทนราษฎร ได้ร้องขอสัมภาษณ์ล่ามที่เข้าร่วมการประชุม ทรัมป์-ปูติน ที่กรุงเฮลซิงกิเมื่อปี 2018 หลังมีกระแสข่าวว่าบันทึกการหารืออาจถูกซ่อนหรือทำลายทิ้งไปแล้ว

หน่วยข่าวกรองสหรัฐฯ ยืนยันว่ารัสเซียได้พยายามแทรกแซงผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อปี 2016 โดย ปูติน ออกคำสั่งให้มีการเจาะเครือข่ายคอมพิวเตอร์ของพรรคเดโมแครต และปล่อยข่าวสกัดดาวรุ่ง ฮิลลารี คลินตัน เพื่อแกว่งคะแนนนิยมให้มาเข้าทางทรัมป์ ซึ่งทั้งหมดนี้ผู้นำสหรัฐฯ ทำทีว่าไม่เชื่อถือ และอ้างว่าทีมหาเสียงของตนไม่ได้รู้เห็นด้วย

การสอบสวนของ แนดเลอร์ จะครอบคลุมทั้งเรื่องธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของทรัมป์, การขัดขวางกระบวนการยุติธรรม, การสมคบคิดกับรัสเซีย, การฝ่าฝืนกฎหมายระดมทุนหาเสียง รวมถึงความเป็นไปได้ที่ ทรัมป์ จะละเมิดรัฐธรรมนูญที่ห้ามมิให้ประธานาธิบดีรับผลประโยชน์ทางการเงินจากต่างชาติ

โคเฮน ซึ่งเป็นอดีตทนายของ ทรัมป์ ให้การต่อคณะกรรมาธิการรัฐสภาว่า ประธานาธิบดีผู้นี้เป็น “นักตุ้มตุ๋น” ที่พัวพันกิจกรรมผิดกฎหมาย ซึ่งรวมถึงการจ่ายเงินปิดปากสองดาวโป๊ที่เคยมีสัมพันธ์ลึกซึ้งด้วยก่อนจะถึงวันเลือกตั้งปี 2016

มีรายงานว่าผู้หญิง 1 ใน 2 คนได้รับเงินปิดปากผ่านทางบริษัท อเมริกัน มีเดีย อิงค์ (AMI) ที่มี เดวิด เพคเกอร์ เพื่อนสนิททรัมป์เป็นประธานบริหาร ซึ่ง แนดเลอร์ ก็ได้ส่งหนังสือขอข้อมูลจากทั้ง เพกเกอร์ และ AMI ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่อย่างไร

แม้การสอบสวนที่ขยายวงกว้างนี้อาจจะนำไปสู่การปลด ทรัมป์ ได้ ทว่าผู้นำพรรคเดโมแครต เช่น แนดเลอร์ และ แนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎร ต่างยังคงสงวนท่าทีในประเด็นดังกล่าว

แนดเลอร์ ให้สัมภาษณ์ในรายการ This Week ทางสถานีโทรทัศน์เอบีซีว่า กระบวนการถอดถอนประธานาธิบดี “ยังอีกยาวไกล” แต่ก็เห็นได้ชัดว่า ทรัมป์ นั้น “พยายามขัดขวางกระบวนการยุติธรรมจริง”

การเปิดแนวรบใหม่ของฝ่ายเดโมแครตมีขึ้นในขณะที่ ทรัมป์ กำลังเตรียมเผชิญหน้ากับผลการสอบสวนของอัยการพิเศษ โรเบิร์ต มุลเลอร์ ซึ่งได้รับมอบหมายจากกระทรวงยุติธรรมให้เข้ามาคุมสอบคดีรัสเซีย

มีรายงานว่า มุลเลอร์ นั้นใกล้ที่จะสรุปรายงานการสอบสวนหลังใช้เวลาทำงานนานถึง 2 ปี ขณะเดียวกันก็เกิดข้อถกเถียงว่าผลสอบของอัยการพิเศษจำเป็นต้องเผยแพร่ต่อสาธารณชนด้วยหรือไม่ ซึ่งพรรคเดโมแครตได้ออกมาขู่แล้วว่าจะออกหมายเรียก มุลเลอร์ เข้าให้การต่อรัฐสภาหากทำเนียบขาวมีความพยายามปกปิดเรื่องนี้
กำลังโหลดความคิดเห็น