เอเอฟพี - โตโยต้า มอเตอร์ส ค่ายรถรายใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น ประกาศแผนยุติการผลิตรถยนต์ในอังกฤษภายในปี 2023 หากสุดท้ายแล้วลอนดอนต้องถอนตัวออกจากสหภาพยุโรป (อียู) แบบไร้ข้อตกลง
หนังสือพิมพ์นิกเกอิฉบับวันนี้ (7 มี.ค.) อ้างคำแถลงจาก โยฮาน ฟาน ซีล (Johan Van Zyl) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารโตโยต้าประจำภูมิภาคยุโรป ซึ่งให้สัมภาษณ์ในงาน เจนีวา มอเตอร์โชว์ ว่า “หากสภาพแวดล้อมในการทำธุรกิจยากลำบากขึ้น การถอนตัวก็เป็นสิ่งที่ต้องพิจารณาเช่นกัน”
อย่างไรก็ดี ซีอีโอผู้นี้ยังเอ่ยถึงความเป็นไปได้อื่นๆ ที่ไม่ร้ายแรงเท่า เช่น การลดกำลังผลิต หรือชะลอการลงทุน เป็นต้น
โฆษกโตโยต้าได้ออกมายืนยันคำแถลงของ ฟาน ซีล
“ระหว่างที่เปิดโอกาสให้สื่อมวลชนญี่ปุ่นซักถาม ท่านได้ให้คำตอบในประเด็นที่ว่ามีความเป็นไปได้หรือไม่ที่เราจะถอนธุรกิจออกจากสหราชอาณาจักร โดยกล่าวว่ามันเป็นทางเลือกหนึ่ง” โฆษกโตโยต้าให้สัมภาษณ์กับเอเอฟพี “แน่นอนว่าเราจำเป็นต้องแข่งขัน และบรรยากาศในการทำธุรกิจก็เป็นสิ่งสำคัญ”
โฆษกผู้นี้ยืนยันว่า โตโยต้าไม่เห็นด้วยหากอังกฤษจะถอนตัวออกจากอียู (เบร็กซิต) โดยปราศจากข้อตกลงรองรับ
“แต่เราก็ยังไม่ทราบว่าจะเกิดอะไรขึ้น และยังไม่มีการตัดสินใจ” เขากล่าว
อังกฤษจะถึงกำหนดต้องถอนตัวออกจากสหภาพยุโรปในวันที่ 29 มี.ค. นี้ ทว่าการเจรจาเพื่อกำหนดรูปแบบความสัมพันธ์กับอียูภายหลังเบร็กซิตในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมายังไม่ประสบความสำเร็จ
รัฐสภาอังกฤษจะโหวตร่างข้อตกลงเบร็กซิตฉบับไฟนอลในสัปดาห์หน้า ซึ่งหากสมาชิกรัฐสภายังไม่ให้ความเห็นชอบอีก ก็จะต้องมีการโหวตว่าจะเลือกถอนตัวแบบ 'ไร้ข้อตกลง' หรือจะ 'ชะลอ' เบร็กซิตออกไปก่อน
โตโยต้ามีการจ้างพนักงานในอังกฤษมากกว่า 3,000 คน และมีโรงงานประกอบรถยนต์ 2 แห่ง โดย 1 แห่งอยู่ในแคว้นเวลส์
เดือนที่แล้ว ค่ายรถยนต์ฮอนด้าก็ประกาศจะปิดโรงงานใหญ่แห่งหนึ่งในอังกฤษ ซึ่งทำให้คนงาน 3,500 คนต้องตกอยู่ในความเสี่ยง นับเป็นบริษัทญี่ปุ่นรายล่าสุดที่ตัดสินใจลดขนาดกิจการในอังกฤษลงก่อนถึงวันชี้ชะตาเบร็กซิต
เซจิ ซูกิอูระ นักวิเคราะห์จากสถาบันวิจัย โตไค โตเกียว ระบุว่า ดูเหมือนฮอนด้าจะตระเตรียมเรื่องนี้มานานพอสมควรแล้ว แต่เบร็กซิตก็อาจมีส่วนผลักดันให้บริษัทตัดสินใจเร็วขึ้น
บริษัทชั้นนำอื่นๆ จากแดนอาทิตย์อุทัย เช่น โซนี่, พานาโซนิค และฮิตาชิ ต่างก็เริ่มถอนกิจการบางส่วนออกจากเมืองผู้ดีแล้วเช่นกัน