xs
xsm
sm
md
lg

สหรัฐฯลูบปากรอ!!เล็งยกระดับขายอาวุธให้ไทยหลังได้รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


บลูมเบิร์ก - เจ้าหน้าที่ระดับสูงสหรัฐฯเชื่อว่าวอชิงตันจะมีโอกาสมากขึ้นสำหรับตีโต้กลับจีนที่กำลังสานสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดกับไทยในด้านกลาโหม เนื่องจากไทยกำลังจะมีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง โดยเฉพาะประเด็นการขายอาวุธ ซึ่งปัจจุบันถูกจำกัดภายใต้กฎหมายของอเมริกาเอง

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานโดยอ้างคำสัมภาษณ์กับเจ้าหน้าที่ระดับสูงสหรัฐฯรายหนึ่ง ซึ่งให้ความเห็นว่ารัฐบาลพลเรือนที่จะได้รับการแต่งตั้งหลังศึกเลือกตั้งวันที่ 24 มีนาคม จะไม่เจอข้อจำกัดต่างๆด้านความสัมพันธ์ทางกลาโหมจากสหรัฐฯ เหมือนกับรัฐบาลทหารของไทยที่ยึดอำนาจมาเมื่อปี 2014 เนื่องจากตามกฎหมายของอเมริกานั้นได้จำกัดการมอบเงินกู้แก่คณะรัฐประหาร การอนุมัติขายอาวุธ และการพัฒนาทรัพยกรด้านการทหาร ภายใต้โครงการการศึกษาและการฝึกอบรมทางการทหารระหว่างประเทศ

"ตอนนี้เรากำลังกระตือรือร้นอย่างที่สุด เตรียมพร้อมคืนสถานะเหล่านั้น" ปีเตอร์ เฮย์มอนด์ อุปทูตแห่งสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำประเทศไทย ให้สัมภาษณ์กับบลูมเบิร์ก อ้างถึงโครงการสำหรับฝึกฝนและสนับสนุนเงินทุนกองทัพต่างชาติ "คาดหมายกันว่าการเลือกตั้งจะเป็นไปตามกำหนดและคลอดรัฐบาลที่ได้รับการสนับสนุนจากประชาชนคนไทย"

กองทัพเข้ายึดอำนาจโค่นรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งเมื่อ 5 ปีก่อน กระพือความสัมพันธ์อันตึงเครียดกับเหล่ารัฐบาลประชาธิปไตยในตะวันตก และทำให้เป็นเรื่องยากขึ้นที่ไทยจะซื้ออาวุธจากประเทศเหล่านั้น ซึ่งต่อมาคณะรัฐประหารของไทยได้อนุมัติซื้อรถหุ้มเกราะลำเลียงพล, รถถังและเรือดำน้ำของจีน พร้อมกับแสดงความสนใจร่วมลงทุนกับชาติเศรษฐกิจหมายเลข 1 ของเอเชีย

แม้เร็วๆนี้ ไทยได้มุ่งหน้าเข้าหาจีนและกฎหมายของสหรัฐฯกลายเป็นโซ่ตรวนขัดขวางบางโครงการ แต่อเมริกายังคงเป็นผู้จัดหาอาวุธหลักแก่พันธมิตรตามสนธิสัญญาอย่างไทย ยกตัวอย่างเช่น กองทัพอาาศไทยก็ยังคงใช้ฝูงบินเอฟ-16 และฝูงบินเฮลิคอปเตอร์แบล็คฮอว์คของล็อคฮีด มาร์ติน

เฮย์มอนด์ เผยว่ารัฐบาลสหรัฐฯขายอาวุธยุทโธปกรณ์หลักๆแก่ไทย โดยวิธีขายให้แก่ฝ่ายทหารของต่างประเทศ(foreign military sales) มาตั้งแต่ปี 2014 มูลค่าราว 437 ล้านดอลลาร์ แต่ตัวเลขดังกล่าวยังไม่นับรวมการทำธุรกรรมของภาคเอกชน

ไทยเป็นพันธมิตรนอกนาโต้ของสหรัฐฯ ซึ่งเคยทำหน้าที่เป็นสนามเตรียมปฏิบัติการสำหรับกองกำลังอเมริการะหว่างสงครามเวียดนาม และเพนตากอนยังคงเล็งเห็นความสำคัญของไทยในเชิงยุทธศาสตร์ของพวกเขา โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเข้าถึงสนามบินและท่าเรือต่างๆของประเทศ "รัฐบาลสหรัฐฯคาดหวังว่าจะขายอาวุธและมอบการฝึกฝนแก่ไทยมากขึ้น และมองไทยในฐานะส่วนสำคัญของยุทธศาสตร์อินโด-แปซิฟิก" เฮย์มอนด์กล่าว

ความสัมพันธ์ทวิภาคีระหว่างสองชาติมีมาอย่างยาวนาน ย้อนกลับไปเกือบ 2 ศตวรรษ ในนั้นรวมถึงการซ้อมรบนานาชาติคอบร้าโกลด์ และ เฮย์มอยด์ ปฏิเสธเสียงโต้แย้งที่มองว่า ไทย เริ่มมีความใกล้ชิดกับจีนมากขึ้น ชดเชยความสัมพันธ์ที่ตึงเครียดของไทยกับสหรัฐฯ "ผมคาดว่าตอนนี้ทุกประเทศในภูมิภาคกีร่วมมือกับจีนอย่างกระตือรือร้นมากกว่าที่พวกเขาทำเมื่อ 5 ปีก่อน หรือบางทีอาจ 10 ปีก่อน เพราะว่าจีนเปลี่ยนไป" เขากล่าว

ไทย เคยมีประวัติของสถานการณ์ความไม่สงบและรัฐประหารเกิดขึ้นตามหลังศึกเลือกตั้ง และความแตกแยกที่เคยรุนแรงกลับมาปะทุขึ้นก่อนถึงศึกเลือกตั้งในเดือนนี้ อย่างไรก็ตาม เฮย์มอนด์ หวังว่ากระบวนการเลือกตั้งจะเป็นไปอย่างราบรื่นและก่อรัฐบาลที่เข้มแข็งและมีเสถียรภาพ
กำลังโหลดความคิดเห็น