เอเจนซีส์ - การประท้วงเกิดขึ้นทันทีในช่วงค่ำวันเสาร์(2 มี.ค.)นอกสำนักงานใหญ่สถานีตำรวจในเมืองซาคราเมนโต รัฐแคลิฟอร์เนีย หลังจากอัยการเขตซาคราเมนโตเคาน์ตี ประกาศไม่สั่งฟ้องเจ้าหน้าที่ตำรวจ 2 นายที่ลั่นไก 8 ครั้งสังหาร สตีฟอน คลาก แอฟริกันอเมริกันวัย 22 ปี ที่สนามหญ้าหลังบ้านของยายผู้ตายเมื่อปีที่แล้ว เพราะเข้าใจผิดคิดว่าโทรศัพท์มือถือในมือเป็น “ปืน”
CNN สื่อสหรัฐฯรายงานวันนี้(3 มี.ค)ว่า แอน มารีย ชูเบิร์ต ( Anne Marie Schubert) อัยการเขตซาคราเมนโตเคาน์ตี( Sacramento County District Attorney ) กล่าวก่อนหน้าว่า การสอบสวนยังคงต้องตัดสินว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง 2 นายกระทำผิดหรือไม่
เมื่อเรามองไปที่สิ่งที่เกิดขึ้นและตัวบทกฎหมาย และเราทำตามความรับผิดชอบของกฎจริยธรรมแล้ว ดังนั้นคำตอบของเราคือ...ไม่” ชูเบิร์ตกล่าวกับนักข่าว ไม่กี่ชัวโมงหลังจากพบครอบครัวผู้เสียชีวิต
การตายของหนุ่มผิวสีวัย 22 ปีไร้อาวุธภายในสนามหลังบ้านของยายตัวเองเพียงแค่ตำรวจยิงพลาดกลายเป็นเสมือนสัญลักษณ์ที่แสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ที่ย่ำแย่ระหว่างตำรวจประจำเมืองและชุมชน รวมไปถึงความตรึงเครียดระหว่างสีผิวในอเมริกา
ทั้งนี้พบว่า คล๊ากที่ไม่มีอาวุธในมือถูกยิงถึง 7 ครั้ง รวมถึง 3 ครั้งที่ข้างหลัง อ้างอิงจากผลรายงานการชันสูตรของสำนักงานนิติวิทยาศาสตร์ซาคราเมนโตเคาน์ตี แต่ทว่าในผลการชันสูตรของหน่วยงานอิสระชี้ว่า เด็กหนุ่มผู้นี้ถูกยิงถึง 8 ครั้ง รวมไปถึงบาดแผลด้านหลังจำนวน 6 บาดแผล อ้างอิงจากผลการชันสูตรจากครอบครัวของผู้ตาย
RT สื่อรัสเซียชี้ว่า การประท้วงเกิดขึ้นทันทีที่เมืองนิวยอร์ก ซิตี ที่ได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มเคลื่อนไหว แบล็ก ไลฟส์ แมทเธอร์(Black Lives Matter) หรือ “ชีวิตคนผิวดำก็คน” ในเดือนเดียวกัน
ทั้งนี้พบว่าชูเบิร์ตอ้างหลังฐานการไม่สั่งฟ้องโดยชี้ว่า "เป็นการกระทำที่ชอบธรรม"โดยใช้หลักฐานจากกล้องติดตัวตำรวจและวิดีโอจากเฮลิคอปเตอร์ของตำรวจจากที่เกิดเหตุ รวมไปถึงการให้การจากพยาน ซึ่งในบันทึกการโทรศัพท์แจ้ง 911 ถึงโจรลักรถ และรายงานการชันสูตรของคล้ากมากมาย และประวัติการใช้โทรศัพท์ของผู้ตาย
ในการแถลงของอัยการเขตซาคราเมนโตเคาน์ตี ชูเบิร์ตกล่าวว่า วิดีโอคลิปที่ได้จากกล้องติดตามตัวตำรวจชี้ได้ว่า “แขนของชูเบิร์ตอยู่ในทิศทางที่คล้ายทำท่าจะยิง และทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเห็นแสงของแฟลช ที่ทางตำรวจซาคราเมนโตเข้าใจผิดคิดว่าเป็นอาวุธปืน และในขณะที่อีกนายเข้าใจผิดว่าแสงแฟลชคือการยิง
CNN รายงานว่าคล๊ากอยู่ห่างจากโต๊ะปิคนิกออกไปเพียงแค่ 30 ฟุตเท่านั้น โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจประกาศว่า “ชูมือให้เห็น” และประกาศอีกว่า “หยุด หยุด” และยังออกคำสั่งต่อว่า “ชูมือ ให้เห็น” และกล่าวว่า “ปืน ปืน”
พบว่าได้ยินเสียงการยิงถึง 20 นัดในการบันทึกของกล้องติดตามตัวตำรวจ และมีเจ้าหน้าที่อีกนายกล่าวว่า “เขาล้ม ไม่มีการเคลื่อนไหว เราต้องการหน่วยเสริม”
และชูเบิร์ตกล่าวต่อว่า ก่อนหน้าที่จะมีการประจัญหน้ากัน มีคนเห็นคล๊ากผู้ตายกำลังทุบกระจกติดสนามหลังบ้านคนอื่น ซึ่งผล DNA ยืนยันในจุดนี้ และเธอยังชี้ว่า มีการพบยาเสพติดในระบบร่างกายของผู้เสียชีวิต
การสังหารคล๊ากเกิดขึ้นในวันที่ 18 มี.ค 2018 โดยเดอะ การ์เดียน สื่ออังกฤษ ชี้ว่า ชูเบิร์ตได้ทำการสอบสวนการยิงตำรวจไม่ต่ำกว่า 30 ครั้งนับตั้งแต่เดือนมกราคม 2015 เป็นต้นมา แต่ไม่เคยสั่งฟ้องตำรวจคนยิงเลยแม้แต่ครั้งเดียว อ้างอิงจากหนังสือพิมพ์ ซาคราเมนโต บี (Sacramento Bee)
CNN รายงานว่า เซเควตต์(SeQuette) แม่ของคล้ากออกแถลงการณ์จากหน้าบ้านที่ซ่าคราเมนโต กล่าวว่าเธอรู้สึกโกรธ “พวกเขาสังหารลูกชายของดิฉัน” โดยกล่าวไปถึงตำรวจที่ก่อเหตุ และเสริมต่อว่า “พวกเขาฆ่าลูกชายของดิฉันที่สนามหลังบ้านของแม่ และนี่มันไม่ถูกต้อง”
และเซเควตต์กล่าวว่า ตำรวจมองไปที่ประวัติที่เป็นปัญหาของลูกมากกว่าการกระทำที่ไม่ถูกต้องของเจ้าหน้าที่
“นี่ไม่ใช่การอนุญาตให้ฆ่าเขา” เซเควตต์ประกาศ และเสริมว่า “สิ่งที่สำคัญคือการที่เจ้าหน้าที่ตำรวจมาแถวนั้นหลังมีการโทรแจ้งถึงการทำรลายทรัพย์สิน และสังหารเขา”
โดยในการประท้วงด้านหน้าสำนักงานตำรวจเมืองซาคราเมนโต มีผู้ประท้วงไม่กี่สิบคนตะโกนว่า “ไม่มีความยุติธรรม ไม่มีวันสงบ” และมีบางส่วนได้เผาธง บลู ไลฟส์ แมทเธอร์ ( Blue Lives Matter ) ซึ่งเป็นสัญลักษณ์การเรียกร้องความยุติธรรมให้กับสีผิว
