เอเจนซีส์ - เกิดน้ำท่วมอย่างหนักในแคลิฟอร์เนีย ทำให้อาคารบ้านเรือนและธุรกิจต่างๆ หลายพันหลังต้องจมอยู่ใต้น้ำ ชุมชนสองแห่งในแคลิฟอร์เนียเหนือมีสภาพเหมือนเป็นเกาะ โดยคาดว่าระดับน้ำจะเริ่มลดในวันพฤหัสบดี (28 ก.พ.)
เจ้าหน้าที่ของโซโนมาเคาตี้ ระบุว่า ระดับน้ำของแมน้ำรัสซียนริเวอร์ทางเหนือของซานฟรานซิสโก ได้เพิ่มสูงขึ้นกว่า 46 ฟุต เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา อันเป็นผลมาจากฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก
แม่น้ำสายนี้มักจะเอ่อท่วมบ่อยครั้งเวลาที่มีฝนตกหนัก แต่ก็ไม่เคยมากขนาดนี้เลยในรอบ 25 ปี และคาดว่าจะยังไม่ลดระดับจนกว่าจะถึงช่วงดึกของคืนวันพฤหัสบดี ตามเวลาท้องถิ่นในสหรัฐฯ
มีการประเมินว่า อาคารบ้านเรือนประมาณ 2,000 หลังต้องจมอยู่ใต้บาดาลจากน้ำท่วมในครั้งนี้ ชุมชนสองแห่งถูกตัดขาดจนมีสภาพเหมือนติดเกาะ เพราะถนนถูกน้ำท่วม เข้า-ออกไม่ได้
ยังไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บจากเมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา แม้ว่าฝนจะเริ่มซาลงบ้างแล้ว แต่ผู้คนประมาณ 3,500 รายที่อยู่ตามชุมชนริมแม่น้ำยังคงได้รับคำสั่งให้อพยพ
แม่น้ำรัสเซียนริเวอร์ คือหนึ่งในแม่น้ำหลายสายทางตอนเหนือของแคลิฟอร์เนีย ที่เจอฝนตกหนักติดต่อกันหลายวัน จากอิทธิพลของพายุในพื้นที่ทางตะวันตกของอเมริกา ที่ทำให้เกิดหิมะตกอย่างหนักในเซียร์ราเนวาดา ไปจนถึงแปซิฟิกตะวันตกเฉียงเหนือ และในมอนทานา
รถไฟแอมแทร็คสองขบวนที่มีผู้โดยสารรวมกันเกือบ 300 คน ต้องหยุดเดินรถแล้วย้อนกลับ เพราะมีหิมะถล่มมาปิดรางรถไฟในเซียร์ราเนวาดา
หลายพื้นที่ในแคลิฟอร์เนียมีฝนตกหนักเป็นประวัติการณ์ รวมถึงบริเวณใกล้เคียงอย่าง ซานตา โรซา ที่มีปริมาณน้ำฝนเกือบ 8 นิ้วในวันเดียว ส่วนสถานีวัดสภาพอากาศในเวนาโด สามารถบันทึกระดับน้ำฝนได้มากกว่า 20 นิ้ว ในเวลา 48 ชั่วโมง