รอยเตอร์ - อังกฤษสามารถจัดการกับความเสี่ยงด้านความมั่นคงจากการใช้อุปกรณ์ของ “หัวเว่ย” ในเครือข่ายโทรคมนาคมแห่งชาติ และไม่พบหลักฐานใดๆเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวประสงค์ร้ายของบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ของจีนรายนี้ จากคำยืนยันของหัวหน้าศูนย์ความมั่นคงทางไซเบอร์แห่งชาติในวันพุธ (20 ก.พ.) ตีกลับคำกล่าวหาของสหรัฐฯ ที่บอกว่า “หัวเว่ย” สอดแนมข้อมูลให้รัฐบาลจีน
เคียแรน มาร์ติน ผู้อำนวยการหน่วยงานความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ (NCSC) ระบุว่าอังกฤษยังไม่ตัดสินใจด้านนโยบายความมั่นคงสำหรับเครือข่าย 5G แต่อุปกรณ์ของหัวเว่ยจะอยู่ภายใต้ตรวจตราอย่างละเอียดและควบคุมโดยรัฐบาลอย่างเข้มงวด หากว่าพวกเขาถูกเลือก
เมื่อถูกถามว่าวอชิงตันได้นำเสนอหลักฐานใดๆ ต่ออังกฤษหรือไม่ ในการสนับสนุนคำกล่าวหาที่ว่า หัวเว่ย ช่วยรัฐบาลจีนจารกรรมข้อมูล ทาง เคียแรน มาร์ติน ผู้อำนวยการหน่วยงานความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ (NCSC) ตอบว่ามันเป็นเรื่องของสหรัฐฯที่จะแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข้อมูลต่างๆที่พวกเขามีเกี่ยวกับบริษัทแห่งนี้
“แต่จากมุมมองของเรา ถ้าคุณดูรายละเอียดในเอกสารที่เรากำลังเผยแพร่ เราได้วางแนวทางจัดการกับความเสี่ยงต่างๆ ผมมีหน้าที่ที่จะต้องรายงานหากพบหลักฐานกิจกรรมประสงค์ร้ายของหัวเว่ย และเรายังไม่ได้ทำแบบนั้น” มาร์ตินกล่าว
หัวเว่ย ผู้ผลิตอุปกรณ์โทรคมนาคมรายใหญ่ที่สุดของโลก กำลังเผชิญการตรวจสอบอย่างเข้มข้นในเหล่าชาติตะวันตก ในด้านความสัมพันธ์ของพวกเขากับรัฐบาลจีน และคำกล่าวหาที่ว่าบริษัทแห่งนี้ช่วยรัฐจีนจารกรรมข้อมูล โดยสหรัฐฯ เรียกร้องพันธมิตรไม่ให้ใช้เทคโนโลยีของหัวเว่ย
สหรัฐฯ ยังไม่เคยนำเสนอหลักฐานใดต่อสาธารณะ และหัวเว่ยปฏิเสธคำกล่าวหาซ้ำๆ อย่างไรก็ตาม คำครหาดังกล่าวได้ทำให้เหล่าประเทศตะวันตกยกระดับความเข้มงวดต่อหัวเว่ยมากขึ้น ในการเข้าถึงตลาดเทคโนโลยีของพวกเขา
หัวเว่ยยังไม่ออกมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับคำกล่าวล่าสุดของหัวหน้าศูนย์ความมั่นคงทางไซเบอร์แห่งชาติอังกฤษ ขณะที่เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ก็ยังไม่ออกมาแสดงความคิดเห็นเช่นกัน
อังกฤษคือสมรภูมิหลักสำหรับ หัวเว่ย ในการทำศึกต่อต้านแรงกดดันของสหรัฐฯในยุโรป ด้วยการตัดสินใจใดๆ ของลอนดอนต่อการเปิดทางให้บริษัทจีนแห่งนี้เข้าร่วมสร้างเครือข่าย 5G จะเป็นที่จับตาอย่างใกล้ชิดจากรัฐบาลชาติอื่นๆ เนื่องจากอังกฤษเป็นสมาชิกของกลุ่มแชร์ข่าวกรอง Five Eyes เช่นเดียวกับสหรัฐฯ
เมื่อเดือนที่แล้ว โวดาโฟน ผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ใหญ่อันดับสองของโลก บอกว่ากำลังระงับใช้อุปกรณ์ของหัวเว่ยในเครือข่ายหลักของพวกเขาจนกว่ารัฐบาลตะวันตกจะให้การรับรองด้านความปลอดภัยอย่างสมบูรณ์
ส่วนผู้ให้บริการรายอื่นๆ ในนั้นรวมถึง บีที ของอังกฤษและ ออเรนจ์ ของฝรั่งเศส ได้ถอดอุปกรณ์ของหัวเว่ยแล้ว หรือไม่ก็ใช้มาตรการต่างๆ เพื่อจำกัดการใช้ในอนาคต
มาร์ติน ให้ความเห็นว่า “อย่างที่เราเคยพูด และขอพูดซ้ำในวันนี้ ปัญหาต่างๆ เหล่านี้เกี่ยวกับมาตรฐานความมั่นคงทางไซเบอร์ ไม่มีข้อบ่งชี้เกี่ยวกับกิจกรรมที่เป็นปรปักษ์จากจีน”
ผู้อำนวยการหน่วยงานความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ ระบุด้วยว่า หัวเว่ยได้ให้สัญญาจะจัดการกับปัญหาต่างๆ แต่ยอมรับว่ามันอาจต้องใช้เวลานานหลายปี “เราจะจับตาและรายงานความคืบหน้า และเราจะไม่ประกาศว่าปัญหาต่างเหล่านั้นอยู่บนเส้นทางของการแก้ไข จนกว่าจะมีหลักฐานชัดเจนว่ามันเป็นกรณีนั้นจริง เราจะไม่ยอมประนีประนอมต่อสิ่งที่เราต้องการเห็นการปรับปรุงจากหัวเว่ย”