xs
xsm
sm
md
lg

สภาอังกฤษเปิดรายงานใหม่เรียก “เฟซบุ๊ก” เป็นแก๊งอันธพาลดิจิทัลที่เที่ยวเผยแพร่ข่าวปลอม

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

<i>โลโก้เฟซบุ๊กพร้อมกับเมาส์และแป้นพิมพ์ ปรากฏอยู่ที่สำนักงานแห่งใหม่ของเฟซบุ๊ก ในบริเวณใจกลางกรุงลอนดอน ดังภาพจากแฟ้มถ่ายเมื่อวันที่ 4 ธ.ค. 2017 นี้  ทั้งนี้คณะกรรมาธิการของรัฐสภาอังกฤษเพิ่งเปิดเผยรายงานสอบสวนที่เรียกเฟซบุ๊กว่าเป็น “แก๊งอันธพาลดิจิตอล” </i>
เอพี/เอเอฟพี - รัฐสภาอังกฤษเผยแพร่รายงานที่ใช้ถ้อยคำภาษาวิพากษ์วิจารณ์อย่างเจ็บแสบฉบับหนึ่งในวันจันทร์ (18 ก.พ.) โดยเรียก “เฟซบุ๊ก” ว่าทำตัวเหมือน “แก๊งอันธพาลดิจิทัล” ซึ่งบกพร่องล้มเหลวในการต่อสู้ปราบปรามข่าวปลอมที่แพร่กระจายไปทั่ว รวมทั้งจงใจล่วงละเมิดความเป็นส่วนตัวของข้อมูล ตลอดจนไม่เคารพกฎหมายการแข่งขัน

รายงานฉบับนี้ซึ่งมีเนื้อหาว่าด้วยข่าวปลอมและข้อมูลข่าวสารที่ผิดๆ บนเว็บไซต์สื่อสังคม เป็นผลจากการสอบสวนที่ใช้ระยะเวลานาน 18 เดือนของคณะกรรมาธิการสื่อ ซึ่งมีอิทธิพลสูงของรัฐสภาอังกฤษ โดยที่คณะกรรมาธิการชุดนี้เสนอแนะว่าควรต้องบังคับให้พวกเว็บไซต์สื่อสังคมปฏิบัติตามหลักจรรยาบรรณ ที่มีหน่วยงานกำกับตรวจสอบที่เป็นอิสระคอยติดตามดูแล เพื่อให้สามารถควบคุมเนื้อหาที่เป็นอันตรายหรือที่ผิดกฎหมายได้ดีขึ้นกว่าในปัจจุบัน

ในรายงานนี้ ได้เรียกร้องเจาะจงเป็นพิเศษไปที่เฟซบุ๊ก โดยกล่าวหาว่าโครงสร้างของเว็บไซต์นี้ดูเหมือนถูกออกแบบมาเพื่อ “ปกปิดอำพรางไม่ให้เกิดความรู้และความรับผิดชอบเกี่ยวกับการตัดสินใจอันเฉพาะเจาะจงต่างๆ”

“มีหลักฐานว่าเฟซบุ๊กนั้นทั้งเจตนาและทั้งทราบดีที่ได้ล่วงละเมิดความเป็นส่วนตัวของข้อมูล และล่วงละเมิดกฎหมายต่างๆ เพื่อต่อต้านการแข่งขัน” รายงานกล่าวย้ำ

รายงานฉบับนี้ยังกล่าวหาว่า เฟซบุ๊กพยายามที่จะซุกซ่อนอำพรางขนาดขอบเขตของการที่รัสเซียเข้าไปแทรกแซงการเลือกตั้งในต่างประเทศครั้งต่างๆ

เฟซบุ๊กนั้นกำลังถูกเล่นงานหนัก เกี่ยวกับการตอบสนองของบริษัทต่อกรณีรัสเซียถูกกล่าวหาว่าใช้แฟลตฟอร์มของเฟซบุ๊กระดมเสนอประดาข่าวและรายงานที่มุ่งชักนำไปในทางที่ผิด ตลอดจนโฆษณาซึ่งพุ่งไปยังเป้าหมายเจาะจง เพื่อเบี่ยงเบนผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในปี 2016 และการออกเสียงในยุโรปหลายต่อหลายครั้ง นอกจากนั้นพวกผู้บริหารของสื่อสังคมยักษ์ใหญ่รายนี้ยังถูกกล่าวหาอีกว่าพยายามปิดปังหรือไม่ก็กลบเกลื่อนหลักฐานที่กำลังปรากฏออกมาเรื่อยๆ ซึ่งชี้ว่า พวกวิศวกรของเฟซบุ๊กนั้นสังเกตเห็นกิจกรรมอันไม่ชอบมาพากลของฝ่ายรัสเซียในเรื่องการแทรกแซงการเลือกตั้งในต่างแดนมาเป็นปีแล้ว ก่อนที่เรื่องนี้จะเป็นที่รับทราบของสาธารณชน

รายงานบอกว่า เฟซบุ๊กควรต้องมีพันธะที่จะต้องนำเอา “แหล่งที่มาของเนื้อหาซึ่งมีอันตราย” ลงมา

“เรายังเสนอแนะต่อไปด้วย ให้รัฐบาลเปิดการสอบสวนอย่างเป็นอิสระในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านๆ มา เป็นต้นกว่า การเลือกตั้งอังกฤษปี 2017, การลงประชามติในอังกฤษปี 2016 (เบร็กซิต) และการลงประชามติเรื่องสกอตแลนด์ปี 2014 เพื่อสำรวจว่าเกิดอะไรขึ้นจริงๆ ในแง่มุมเกี่ยวกับอิทธิพลจากต่างประเทศ” รายงานกล่าว

ประธานของคณะกรรมาธิการ ดาเมียน คอลลินส์ บอกว่า เฟซบุ๊ก “จงใจหาทางสร้างความท้อแท้ผิดหวังให้แก่การทำงานของเรา ด้วยการให้คำตอบที่ไม่สมบูรณ์, ไม่ตรงไปตรงมา และมุ่งชักจูงไปทางที่ผิดครั้งแล้วครั้งเล่าแก่คำถามของเรา”

นอกจากนั้นรายงานฉบับนี้ยังกล่าวหา มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ผู้ร่วมก่อตั้งและซีอีโอของเว็บไซต์สื่อสังคมใหญ่ที่สุดของโลกรายนี้ที่ปฏิเสธไม่รับคำเชิญให้มาปรากฏตัวต่อหน้าคณะกรรมาธิการชุดนี้ 3 ครั้ง 3 ครา

“บริษัทเฉกเช่นเฟซบุ๊กไม่ควรได้รับอนุญาตให้ประพฤติตนเหมือน “แก๊งอันธพาลดิจิทัล” ในโลกออนไลน์ ซึ่งมองพวกเขาเองว่าอยู่นำหน้าและอยู่เหนือกว่ากฎหมาย” รายงานความยาว 108 หน้าฉบับนี้กล่าว

รายงานที่คณะกรรมาธิการของรัฐสภาอังกฤษจัดทำเผยแพร่ มีเจตนาที่จะส่งอิทธิพลต่อนโยบายของรัฐบาล แต่มิได้มีข้อผูกมัดว่ารัฐบาลจะต้องกระทำตาม

อย่างไรก็ดี ทางคณะกรรมาธิการชุดนี้คาดหมายว่าจะสามารถเปิดตัว “สมุดปกขาว” ฉบับหนึ่งในเดือนหน้า ซึ่งคอลลินส์ประธานของคณะกรรมาการกล่าวว่า น่าจะใช้เป็นพ้นฐานสำหรับการออกกฎหมายใหม่เพื่อกำกับควบคุมพฤติกรรมของพวกบริษัทสื่อสังคมในระหว่างที่มีการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง

ทางด้านเฟซบุ๊กแถลงว่า บริษัทร่วมส่วนใน “ความห่วงใยของคณะกรรมาธิการชุดนี้เกี่ยวกับข่าวปลอมและความซื่อตรงของการเลือกตั้ง” และเปิดกว้างถ้าหากจะมีการออก “ระเบียบกฎหมายที่มีความหมาย”

“ขณะที่เรายังคงจะต้องทำอะไรกันอีกมากมาย แต่เราก็ไม่ได้เป็นบริษัทเดียวกันกับที่เราเคยเป็นเมื่อ 1 ปีก่อน” คาริม พาแลนต์ ผู้จัดการฝ่ายนโยบายสาธารณะในอังกฤษของเฟซบุ๊กกล่าว

“เราเพิ่มขนาดทีมงานที่ทำงานด้านการตรวจจับและปกป้องคุ้มครองยูสเซอร์จากเนื้อหาที่แย่ๆ ขึ้นมา 3 เท่าตัว หรือเพิ่มขึ้นเป็น 30,000 คน และลงทุนหนักมากในด้านเครื่องจักรเพื่อการเรียนรู้, ปัญญาประดิษฐ์, และเทคโนโลยีทัศนาของคอมพิวเตอร์ เพือช่วยป้องกันไม่ให้เกิดการล่วงละเมิดประเภทนี้”

เฟซบุ๊กและบริษัทอินเทอร์เน็ตอื่นๆ กำลังเผชิญกับการถูกจับตาตรวจสอบเพิ่มขึ้นมาก ในเรื่องวิธีการที่พวกเขาจัดการกับข้อมูลของยูสเซอร์ รวมทั้งถูกวิพากษ์วิจารณ์หนักที่ไม่ได้ทำอะไรอย่างเพียงพอเพื่อหยุดยั้งการใช้แพลตฟอร์มของพวกเขาไปในทางมิชอบโดยกลุ่มต่างๆ ซึ่งพยายามส่งอิทธิพลหันเหผลการเลือกตั้งทั้งหลาย

รายงานฉบับนี้เป็นการสะท้อนและก็เป็นการขยายรายงานฉบับชั่วคราวที่มีผลการศึกษาออกมาในทำนองเดียวกันนี้ ซึ่งคณะกรรมาธิการนำออกเผยแพร่ในเดือนกรกฎาคมปีที่แล้ว นอกจากนั้นในเดือนธันวาคม 2018 คณะกรรมาธิการยังได้เผยแพร่เอกสารจำนวนมากซึ่งเสนอหลักฐานอันยืนยันว่า เว็บไซต์สื่อสังคมได้ใช้ข้อมูลยูสเซอร์อันมีอยู่มากมายมหาศาลของตนในการเป็นอาวุธเพื่อการแข่งขัน โดยบ่อยครั้งทีเดียวใช้วิธีการซึ่งออกแบบมาชนิดที่ไม่ให้ยูสเซอร์รู้เนื้อรู้ตัว

เฟซบุ๊กนั้นถูกเปิดโปงเรื่องอื้อฉาวละเมิดความเป็นส่วนตัวของยูสเซอร์ครั้งใหญ่ที่สุดในปีที่แล้ว เมื่อมีการแฉว่า เคมบริดจ์ อะนาลิติกา บริษัทดาต้าไมนิ่งทางด้านการเมืองสัญชาติอังกฤษซึ่งปัจจุบันล้มละลายไปแล้ว ได้ทำงานให้ทีมรณรงค์หาเสียงของโดนัลด์ ทรัมป์ ในปี 2016 โดยที่สามารถเข้าถึงข้อมูลข่าวสารส่วนตัวของยูสเซอร์เฟซบุ๊กเป็นจำนวนที่อาจจะสูงถึง 87 ล้านราย

หลายชาติยุโรปออกกฎคุม “เฟซบุ๊ก”

อังกฤษกำลังถูกกดดันให้เดินตามตัวอย่างของเยอรมนี และฝรั่งเศส ด้วยการออกกฎเกณฑ์ควบคุมเฟซบุ๊ก ในเรื่องวิธีการเก็บรวบรวมข้อมูลยูสเซอร์ และในเรื่องการต่อสู้ปราบปรามข่าวปลอม

ทั้งนี้ หน่วยงานดูแลเรื่องการแข่งขันของเยอรมนีแถลงในเดือนนี้ว่าจะประกาศข้อจำกัดสำหรับการที่เฟซบุ๊กจะดึงเอาข้อมูลจากสื่อสังคมในเครือของตนอย่างวอตส์แอปป์ และอินสตาแกรม

ส่วนฝรั่งเศสเพิ่งออกกฎหมายหลายฉบับกำหนดให้พวกยักษ์ใหญ่สื่อสังคมต้องนำเอาบรรดาข่าวและรายงานที่มุ่งประสงค์ร้ายทั้งหลายลงจากเว็บไซต์ ในระหว่างที่มีการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง

คอลลินส์กล่าวในขณะให้สัมภาษณ์วิทยุบีซีซีว่า รัฐสภาจะต้องเป็นผู้วินิจฉัยว่าจะออกกฎเกณฑ์ควบคุมอะไรออกมาบ้าง และจะมีบทลงโทษเช่นใดบ้าง

“ควรที่จะต้องมีบทลงโทษตามกฎหมายที่ชัดเจนออกมาบังคับใช้ – มันอาจจะเป็นค่าปรับ มันอาจจะเป็นอะไรที่รุนแรงจริงจังยิ่งกว่านั้น” เขาบอก


กำลังโหลดความคิดเห็น