เอเจนซีส์/รอยเตอร์ - หนังสือพิมพ์อาซาฮี ชิมบุนเปิดเผยโดยอ้างแหล่งข่าวหลายปากจากรัฐบาลอาเบะจนพบว่า สหรัฐฯได้ร้องขอรัฐบาลญี่ปุ่นอย่างเป็นทางการให้เสนอชื่อประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ขึ้นชิงรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ เทียบชั้นอดีตผู้นำคนก่อนหน้าที่ได้ไปตั้งแต่ปีแรกของการรับตำแหน่ง พบสหรัฐฯร้องขออาเบะหลังจากที่ทรัมป์จบการซัมมิตร่วมกับประธานาธิบดีเกาหลีเหนือที่สิงคโปร์ปีที่ผ่านมา
NBC NEWS รายงานวันนี้(18 ก.พ)ว่า ผู้นำสหรัฐฯไม่ได้โกหกในการให้ข่าวเมื่อวันศุกร์(15)ก่อนหน้าที่ว่า นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ชินโซ อาเบะ ได้เสนอชื่อของเขาเข้าชิงรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพจริง โดยชี้ว่าอาเบะได้ให้สำเนาจดหมาย 5 หน้าแก่เขาเป็นหลักฐาน หลังจากหนังสือพิมพ์ญี่ปุ่น อาซาฮี ชิมบุน ออกมาเปิดเผยในวันอาทิตย์(17) โดยอ้างอิงแหล่งข่าวหลายปากภายในรัฐบาลญี่ปุ่นยืนยันว่าเป็นความจริง
อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวเหล่านั้นกล่าวว่า เป็นเพราะสหรัฐฯได้ทำเรื่องอย่างเป็นทางการขอให้ “ญี่ปุ่น” ช่วยทำเรื่องเสนอชื่อประธานาธิบดีสหรัฐฯ “โดนัลด์ ทรัมป์” เข้าชิงรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพที่ทรงเกียรติ เกิดขึ้นเมื่อครั้ง หลังจากที่ทรัมป์ได้พบกับประธานาธิบดีเกาหลีเหนือ คิม จองอึน ในสิงคโปร์ปีที่แล้ว
โดยในรายงานของสิงคโปร์ชี้ว่า อาเบะยอมเสนอชื่อทรัมป์ด้วยเหตุผลที่เขาสามารถเปิดการเจรจากับเกาหลีเหนือได้สำเร็จ รวมไปถึงลดความตรึงเครียดบนคาบสมุทรเกาหลีลงได้
ทรัมป์ได้กล่างอ้างว่า นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นได้ให้สำเนาจดหมายที่งดงามที่สุดจำนวน 5 หน้าแก่เขาที่มีข้อความโดยสรุปว่า ในฐานะญี่ปุ่นขอเสนอชื่อผู้นำสหรัฐฯเข้าชิงรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ และทรัมป์กล่าวว่า เขาได้ตอบขอบคุณอาเบะไป
ในการประชุมสภาล่างญี่ปุ่นวันจันทร์(18) อาเบะกล่าวว่า เขาจะไม่แสดงความเห็นเกี่ยวกับรายงานการเสนอชื่อรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพที่เป็นความลับมาเป็นเวลาถึง 50 ปี แต่อาเบะกล่าวว่า “ผมไม่ได้พูกว่ามันไม่จริง”
ในขณะเดียวกันหัวหน้าเลขาธิการคณะครม.ญี่ปุ่น โยชิฮิเดะ ซุงะ ปฎิเสธที่จะตอบคำถามนักข่าวในเรื่องนี้เช่นกันแต่กล่าวเพียงว่า “คณะกรรมการรางวัลโนเบลไม่ได้เปิดเผยตัวตนของผู้ถูกได้รับการเสนอชื่อ หรือผู้ที่ถูกแนะนำให้ได้รับรางวัลมานานร่วม 50 ปี และดังนั้นอยู่บนพื้นฐานจากเหตุผลนี้ ผมจะขอปฎิเสธการให้ความเห็นใดๆเช่นกัน”
ด้านทำเนีบบขาวยังไม่ได้ให้ความเห็นในเรื่องนี้ NBC NEWS กล่าว แต่ทว่าเป็นที่รู้กันว่า อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ บารัค โอบามา ได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพในปี 2009 ซึ่งเป็นปีแรกของการเข้ารับตำแหน่งในเหตุผลสหรัฐฯแสวงหาสันติภาพและความมั่นคงของโลกโดยปราศจากอาวุธนิวเคลียร์
โดยในวันศุกร์(15) ทรัมป์กล่าวถึงโอบามาในเรื่องนี้ว่า “ผมคงไม่มีวันได้มัน แต่นั่นไม่เป็นไร” ทรัมป์กล่าว และเสริมต่อว่า “พวกเขามอบมันให้แก่โอบามา ซึ่งเขาไม่เคยรู้เลยว่าได้เพราะอะไร”
ทั้งนี้อาเบะถือเป็นหนึ่งในผู้ให้การสนับสนุนที่สำคัญของทรัมป์ท่ามกลางผู้นำชาติอื่นๆ โดยเฉพาะในแคมเปญเพิ่มความกดดันสูงสุดต่อเกาหลีเหนือ
นอกจากอาเบะแล้ว พบว่าผู้นำเกาหลีใต้คนปัจจุบันได้เคยแสดงการสนับสนุนผู้นำสหรัฐฯให้ได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพมาแล้ว