รอยเตอร์ – มกุฎราชกุมาร โมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน ของซาอุดีอาระเบียทรงสั่งปล่อยตัวนักโทษชาวปากีสถาน 2,100 คนจากเรือนจำของราชอาณาจักรในระหว่างการเสด็จเยือนอิสลามาบัด รัฐมนตรีกระทรวงสารสนเทศของปากีสถาน ระบุในวันนี้ (18)
มกุฎราชกุมารโมฮัมเหม็ดเสด็จถึงปากีสถานเมื่อวานนี้ (17) ในการเริ่มต้นการเสด็จประพาสเอเชียซึ่งจะรวมถึงจีนด้วย และถูกมองว่าเป็นความพยายามของพระองค์ที่จะรื้อฟื้นชื่อเสียงของพระองค์ หลังจากการฆาตกรรม จามาล คาช็อกกี นักวิจารณ์และนักข่าวชาวซาอุดีอาระเบีย
เมื่อวานนี้ (17) ซาอุดีอาระเบียลงนามข้อตกลงการลงทุนกับปากีสถานมูลค่า 2 หมื่นล้านดอลลาร์
มกุฎราชกุมารทรงสั่งให้ปล่อยตัวนักโทษชาวปากีสถาน 2,107 คน ตามคำขอของนายกรัฐมนตรี อิมราน ข่าน ของปากีสถาน ฟาวัด เชาว์ดรี รัฐมนตรีกระทรวงสารสนเทศ กล่าวในโพสต์บนทวิตเตอร์
ชะตากรรมของแรงงานชาวปากีสถานหลายพันคนที่ติดอยู่ในเรือนจำทั่วตะวันออกกลางเป็นประเด็นอ่อนไหวในปากีสถาน ซึ่งมีแนวคิดว่านักโทษเหล่านี้ส่วนใหญ่เป็นแรงงานยากจนที่ไม่ได้รับความช่วยเหลือทางกฎหมาย
ชาวปากีสถานจำนวนมากเดินทางไปตะวันออกกลางในทุกๆ ปี โดยส่วนใหญ่ทำงานที่เขตก่อสร้างหรือเป็นผู้ช่วยเหลือภายในประเทศ เงินที่พวกเขาส่งกลับมามีความสำคัญสำหรับเศรษฐกิจขาดเงินดอลลาร์ของปากีสถาน
ซาอุดีอาระเบียไม่ได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการประกาศปล่อยตัวนักโทษของปากีสถาน
การเสด็จเยือนของมกุฎราชกุมารครั้งนี้นับเป็นการกระชับความสัมพันธ์ระหว่างพันธมิตร ซึ่งความสัมพันธ์หลักๆ เกี่ยวข้องกับการที่ในอดีตซาอุดีอาระเบียเคยให้การสนับสนุนทางเศรษฐกิจกับปากีสถานในช่วงเวลายากลำบากหลายครั้ง แลกกับการที่กองทัพอันเข้มแข็งของปากีสถานให้การสนับสนุนซาอุดีอาระเบียและราชวงศ์ซาอุฯ เป็นการตอบแทน
ในฐานะผู้พิทักษ์สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดในถิ่นกำเนิดศาสนาอิสลาม ราชวงศ์ซาอุฯ มีอิทธิพลทางศาสนามหาศาลในปากีสถาน ประเทศอนุรักษนิยมที่มีประชากรส่วนใหญ่เป็นชาวมุสลิม
ในช่วงไม่กี่เดือนมานี้ ซาอุดีอาระเบียช่วยเหลือเศรษฐกิจของปากีสถานด้วยการค้ำจุนเงินสำรองต่างประเทศที่ลดลงที่ละน้อยด้วยเงินกู้ 6 พันล้านดอลลาร์ ทำให้ปากีสถานได้มีโอกาสหายใจในขณะที่พวกเขากำลังเจรจาเรื่องการให้เงินช่วยเหลือธุรกิจกับกองทุนการเงินการเงินระหว่างประเทศ (International Monetary Fund : IMF)
ปากีสถานแสดงความขอบคุณด้วยการรับรองการเยือนของมกุฎราชกุมารโมฮัมเหม็ดในฐานะการเยือนอย่างเป็นทางการที่ใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่การเยือนของประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ของจีน ไม่นานหลังจากปักกิ่งประกาศแผนลงทุนหลายหมื่นล้านดอลลาร์กับโครงสร้างพื้นฐานในปากีสถานในฐานะส่วนหนึ่งของโครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางของจีน