เอเจนซีส์ - เมื่อวานนี้(14 ก.พ) รัฐบาลสตอกโฮล์มออกแถลงการณ์ เปลี่ยนตัวเอกอัครราชทูตสวีเดนประจำกรุงปักกิ่ง หลังจากพบว่า “อันนา ลินด์สเต็ดต์” (Anna Lindstedt) มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมในฐานะนักการทูต ทำการจัดการพบปะที่ไม่ได้รับอนุญาตระหว่างบุตรสาว แองเจลา กุย และนักธุรกิจจีน 2 คน อ้างหวังช่วยหาทางปล่อยตัวเจ้าของร้านขายหนังสือใต้ดินชื่อดังของฮ่องกง กุย มินไฮ (Gui Minhai ) ชาวสวีเดนเกิดในจีนที่เคยถูกลักพาตัวจากบ้านพักตากอากาศในไทยเมื่อปี 2015 และในเวลานี้อยู่ในคุกจีน
DW สื่อเยอรมันรายงานเมื่อวานนี้(14 ก.พ)ว่า เอกอัครราชทูตสวีเดนประจำกรุงปักกิ่ง อันนา ลินด์สเต็ดต์(Anna Lindstedt) เดินทางกลับไปยังกรุงสตอกโฮล์มในวันพุธ(13) เพื่อเข้าพบกับเจ้าหน้าที่กระทรวงต่างประเทศสวีเดน โดยสถานทูตสวีเดนในกรุงปักกิ่งให้สัมภาษณ์ผ่านทางโทรศัพท์ย้ำว่า *** ลินด์สเต็ดต์ไม่ได้อยู่ในการสอบสวนทางอาญาใดๆ***
ทั้งนี้พบว่า ลินด์สเต็ดต์กำลังจะหมดวาระลงในเดือนมีนาคมนี้
ซึ่งทางสถานทูตไม่ได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติม แต่ทว่าทางกระทรวงต่างประเทศสวีเดนออกมายืนยันว่า การถูกเรียกตัวของลินด์สเต็ดต์นั้นเกี่ยวข้องกับการหารือที่เธอเป็นตัวกลางจัดให้ “แองเจลา กุย” (Angela Gui) ลูกสาวของเจ้าของร้านหนังสือคอสเวย์เบย์ กุย มินไฮ (Gui Minhai ) ชาวสวีเดนที่เกิดในจีนและในเวลานี้ถูกขังในเรือนจำปักกิ่ง ได้พบกับ นักธุรกิจจีน 2 ราย ที่กรุงสตอกโฮล์มเมื่อเดือนที่แล้ว
“เอกอัครราชทูตมีประพฤติกรรมไม่เหมาะสมจากการที่กระทรวงต่างประเทศสวีเดนไม่ได้รับแจ้งถึงการพบปะที่เกิดขึ้น” แคทเธอรีน จอห์นสัน (Catherine Johnsson) โฆษกได้ให้สัมภาษณ์กับเอพี
และชี้ต่อว่า จะมีการสอบสวนภายในเกิดขึ้นเพื่อมีเป้าหมายต้องการทราบถึงเรื่องทั้งหมด “และการกระทำของท่านทูตเป็นสิ่งที่เรากังวล ดังนั้นเราต้องรอผลของการสอบสวน”
สื่อเยอรมันชี้ว่า แองเจลา กุย ได้เปิดเผยเรื่องราวที่เกิดขึ้นบนโลกออนไลน์ในวันพุธ(14) ถึงในสิ่งถึงที่เธอเรียกการพบปะที่เกิดในสวีเดนเมื่อเดือนมกราคมล่าสุดว่า “ประหลาด”
โดยเธอระบุว่า นักธุรกิจจีน 2 คนข่มขู่เธอหลังจากในตอนแรกได้แกล้งเสนอให้ความช่วยเหลือ ที่อ้างว่าจะนำตัวบิดาของเธอออกจากเรือนจำในจีน
กุย มินไฮ ชาวสวีเดนจากการแปลงสัญชาติ เป็นเจ้าของร่วมร้านหนังสือคอสเบย์ชื่อดังในฮ่องกง และเจ้าของโรงพิมพ์ไมตี เคอเร้นท์(Mighty Current) ซึ่งร้านหนังสือแห่งนี้จำหน่ายหนังสือเกี่ยวกับกอสซิบเรื่องฉาวของบรรดาผู้นำจีน อ้างอิงจากบีบีซี สื่ออังกฤษ
DW ชี้ว่า กุยในวัย 53 ปี หายตัวไปอย่างลึกลับเมื่อปี 2015 จากบ้านพักตากอากาศของตัวเองในประเทศไทย และในอีกหลายเดือนถัดมา เขาปรากฎตัวทางโทรทัศน์กล่าวว่า เขายอมเข้ามอบตัวต่อข้อหาอุบัติเหตุเกี่ยวข้องกับการเมาและขับเมื่อปี 2003 และทำให้นักศึกษาหญิง 1 คนเสียชีวิต
และพบว่าเพื่อนร่วมงานของกุยที่โรงพิมพ์ไมตี เคอเรนท์ จำนวนไม่กี่คนได้หายตัวไปอย่างลึกลับหลังประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว สร้างความสงสัยว่า หน่วยงานความมั่นคงจีนแผ่นดินใหญ่ต้องการปิดปากกลุ่มคนที่วิพากษ์วิจารณ์ในฮ่องกงหรือไม่
กุยถูกปล่อยตัวในเดือนตุลาคมล่าสุดหลังรับโทษในเรือนจำนาน 2 ปี แต่เขายังคงต้องอยู่ในนิงโบ(Ningbo)ต่อไป ซึ่งเป็นสถานที่เกิดของเขา จนกว่าการสอบสวนคดีการทำธุรกิจผิดกฎหมายจะเสร็จสิ้น
และในเดือนมกราคม ปี 2018 กุยถูกตำรวจจีนนำตัวออกมาจากรถไฟทั้งๆที่เขากำลังอยู่กับเจ้าหน้าที่การทูตสวีเดน 2 คนในเวลานั้น ระหว่างการเดินทางไปกรุงปักกิ่ง
โดยสวีเดนกล่าวว่า เจ้าหน้าที่สวีเดนกำลังนำตัวเขาไปรักษาตัว แต่รัฐบาลจีนกลับอ้างว่า กุยถูกสอบสวนในฐานะเปิดเผยความลับของชาติ
และหลังจากนั้น ดูเหมือนว่า กุยจะให้สัมภาษณ์สื่อสับสนุนปักกิ่งจำนวนหนึ่ง โดยชี้ว่า เขาไม่มีความปราถนาที่จะเดินทางออกจากประเทศจีน และสวีเดนต้องการใช้ตัวเขาเพื่อสร้างปัญหาให้กับรัฐบาลปักกิ่ง
ซึ่งในแถลงการณ์ที่ออกมาจากเรือนจำของกุยในขณะที่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจจีนกำลังประกบข้างนั้นถูกประณามทันทีจากกลุ่มนักเคลื่อนไหวเรียกร้องสิทธิมนุษยชนที่ชี้ว่า “กุยถูกบังคับให้พูด”
แองเจลา กุย ลูกสาวในเวลานี้กำลังจะสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาเอกจากมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ของอังกฤษ เธอได้เคยออกมาเปิดเผยว่า เธอเป็นนักเคลื่อนไหวโดยอุบัติเหตุเพราะคดีบิดาของตัวเอง
ซึ่งในการโพสต์เมื่อวันพุธ(14) เธอกล่าวว่า ความเป็นนักเคลื่อนไหวจำเป็นนำเธอไปสู่สถานการณ์ที่แปลกประหลาด โดยแองเจลา กุยกล่าวถึงการพบปะที่ถูกจัดโดยลินด์สเต็ดต์ว่า เอกอัครราชทูตสวีเดนได้หว่านล้อมเธอให้ออกเดินทางไปยังกรุงสตอกโฮล์มในวันที่ 24 ม.คที่ผ่านมา โดยอ้างว่า เพื่อต้องการหาหนทางใหม่สำหรับช่วยคดีบิดาของเธอ
“มีไวน์เป็นจำนวนมาก มีคนเป็นจำนวนมาก และมีคำถามประหลาดเกิดขึ้นมากมาย” เดอะโลคอล สื่อสวีเดนรายงานจากการโพสต์ของแองเจลา กุย และในการโพสต์ เธอยังเล่าต่อว่า “แต่เพราะการที่เอกอัครราชทูตลินด์สเต็ดต์ปรากฎตัวอยู่ที่นั่น ที่ดูเหมือนให้การสนับสนุนถึงในสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น ซึ่งดิฉันได้แต่คิดว่า นี่เป็นการริเริ่มมาจากกระทรวงต่างประเทศสวีเดน”
สื่อเดอะโลคอลของสวีเดนรายงานว่า หลังจากที่เธอออกมาจากการพบปะแล้ว เธอได้รับการบอกเล่าจากเจ้าหน้าที่กระทรวงต่างประเทศสวีเดนว่า ทางกระทรวงไม่ได้รับแจ้งถึงการพบปะครั้งนี้ และไม่ทราบว่าเอกอัครราชทูตลินด์สเต็ดต์อยู่ในประเทศ
สื่อเยอรมันรายงานว่า ในช่วงเวลา 2 วันของการพบร่วมกับนักธุรกิจจีน 2 รายและลินด์สเต็ดต์ โดยนักธุรกิจจีนเหล่านั้นอ้างว่า พวกเขาสามารถช่วยให้ได้วีซ่าจีนและงานสำหรับตัวเธอ และคนเหล่านั้นมีคนรู้จักอยู่ภายในพรรคคอมมิวนิสต์ของจีน
นักธุรกิจทั้งสองได้กล่าวต่อเธอว่า พวกเขาได้เริ่มต้นเจรจาในคดีของบิดาเธอโดยที่เธอไม่ทราบเรื่อง อ้างอิงจากแองเจลา กุย
โดยหนึ่งในนักธุรกิจกล่าวว่า มีความเป็นไปได้ที่ กุย มินไฮจะถูกปล่อยตัว แต่ต้องอยู่ในเงื่อนไขที่ แองเจลา กุย ต้องให้สัญญาที่จะไม่ทำการโพสต์เกี่ยวกับคดีของพ่อเธอเป็นเวลา 1 เดือน โดยเขาต้องการให้เธอหยุดแคมเปญปล่อยตัวพ่อของเธอออกจากคุก
แองเจลา กุยโพสต์ว่า หนึ่งในชายทั้งหมดกล่าวข่มขู่กับเธอว่า “คุณต้องเชื่อผม หรือคุณจะไม่ได้พบกับพ่อของคุณอีก”
ซึ่งเธอกล่าวว่า “เอกอัครราชทูตสวีเดนที่นั่งข้างดิฉัน เห็นด้วยกับแผนการ และท่านทูตได้กล่าวว่า หากพ่อของดิฉันได้รับการปล่อยตัว เธอจะไปยังสถานีโทรทัศน์สวีเดนเพื่อแถลงถึงอนาคตความสัมพันธ์ที่สดใสระหว่างทั้ง 2 ชาติ รวมไปถึงแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์โรงแรมนักท่องเที่ยวจีนที่กรุงสตอกโฮล์มปีที่แล้ว และต่อมาตามด้วยการรายงานในรายการบันเทิงขบขันของสวีเดน”
และเธอได้โพสต์ต่อว่า “ดิฉันต้องไม่ปิดปากเงียบเพื่อแลกกับวีซ่า และสัญญาที่ไร้สาระที่ว่า บางทีพ่อของดิฉันอาจถูกปล่อยตัว” และเสริมว่า “ภัยคุกคาม ข่มขู่ สินบน หริอการป้อยอ จะไม่เปลี่ยนสิ่งนั้น”
จากการเปิดเผยของแองเจลา กุย เธอกล่าวว่า สถานที่การพบปะเกิดขึ้นในห้องโรงแรมในสวีเดนที่เข้าไปได้โดยต้องมีคีย์การ์ด และเมื่อเธอกล่าวว่า เธอต้องการพบกับเพื่อน เธอได้รับการบอกว่า ให้นำตัวเพื่อนมาที่ห้องโรงแรมแห่งนี้
ด้านแพทริค นิลส์สัน(Patric Nilsson ) หัวหน้าฝ่ายข่าวประจำกระทรวงต่างประเทศสวีเดนให้สัมภาษณ์SVT Nyheter.ว่า “เราเห็นภาพถึงสิ่งที่เกิดขึ้น เรากำลังทำการสอบสวนในการกระทำนั้น แต่เราสามารถบอกได้ในทันทีว่า เอกอัครราชทูตกระทำไม่ถูกต้อง”
ทั้งนี้กุยได้อ้างไปถึงข้อเสนอระหว่างการพบปะ ในการให้สัมภาษณ์เมื่อต้นเดือนนี้ เกิดหลังจากที่สถานทูตจีนประจำสวีเดนออกแถลงการณ์ปัดว่า “ฝ่ายจีนไม่เคยอนุญาต และจะไม่อนุญาตให้ใครติดต่อกับบุตรสาวของกุย มินไฮ”
ในสวีเดน โจนาส สยอสเต็ดต์(Jonas Sjostedt) สมาชิกรัฐสภาสวีเดน จากพรรคเลฟต์ ปาร์ตี(Left Party) ซึ่งเป็นพรรคที่ให้การสนับสนุนรัฐบาลสตอกโฮล์ม ออกมากล่าวหา เอกอัครราชทูตสวีเดนประจำปักกิ่งรายนี้ว่า “พยายามที่จะปิดปากลูกสาวพลเมืองสวีเดนซึ่งเป็นนักโทษทางการเมืองในจีน”
“บุคคลที่ถือเป็นตัวแทนสวีเดนกลับกลายทำงานรับใช้ให้กับมหาอำนาจต่างชาติ” สยอสเต็ดต์ให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์สวีเดน SVT TV ในวันพุธ(13)
ทั้งนี้ในเวลานี้ ลินด์สเต็ดต์ต้องอยู่ในกรุงสตอกโฮล์มเพื่อรอการสอบสวน ก่อนหน้าที่จะมีการเปิดเผยจากลูกสาวกุย มินไฮ เธอมีกำหนดต้องเข้าทำหน้าที่ใหม่ในเดือนมีนาคมในตำแหน่งเอกอัครราชทูตสวีเดนด้าน “สหประชาชาติ 2030 วาระการพัฒนาที่ยั่งยืน” (UN 2030 Agenda for Sustainable Development)