เอเอฟพี - สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ลงมติด้วยคะแนนเสียงท่วมท้นวานนี้ (13 ก.พ.) ให้อเมริกาเลิกยุ่งเกี่ยวกับปฏิบัติการของกลุ่มพันธมิตรซาอุดีอาระเบียในสงครามเยเมน ซึ่งถือเป็นการตอบโต้ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ที่มีจุดยืนเข้าข้างพันธมิตรริยาดมาโดยตลอด
สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรมีมติ 248 ต่อ 117 เสียงสนับสนุนร่างกฎหมายซึ่งกำหนดให้ประธานาธิบดีต้องสั่ง “ถอนทหารอเมริกันออกจากความรุนแรงที่ส่งผลกระทบต่อสาธารณรัฐเยเมน” ภายใน 30 วัน
ส.ส.รีพับลิกัน 18 คนหันไปผนึกกำลังกับฝ่ายเดโมแครตเพื่อผ่านร่างกฎหมายซึ่งจะลดทอนอำนาจของประธานาธิบดีในการทำสงคราม และคาดว่าวุฒิสภาสหรัฐฯ คงจะให้การสนับสนุนด้วย
เมื่อปลายปีที่แล้ว วุฒิสภาสหรัฐฯ มีมติให้รัฐบาลระงับความช่วยเหลือซาอุฯ ในสงครามเยเมน พร้อมทั้งประณามมกุฎราชกุมารซาอุฯ ว่าเป็นผู้ที่ต้องรับผิดชอบการตายของ จามาล คาช็อกกี ทว่ามติดังกล่าวไม่ก่อให้เกิดผลอะไร เนื่องจากพรรครีพับลิกันซึ่งครองเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรขณะนั้นปฏิเสธที่จะนำเข้าสู่กระบวนการโหวต
“ร่างญัตติของผมผ่านความเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎร และนั่นทำให้เราใกล้ที่จะเลิกมีส่วนร่วมกับหายนะด้านมนุษยธรรมครั้งนี้” โร คันนา ส.ส.เดโมแครตซึ่งประกาศจุดยืนต่อต้านการแทรกแซงทางทหารของสหรัฐฯ กล่าวผ่านทวิตเตอร์
คันนา เชื่อว่า “ร่างญัตติว่าด้วยอำนาจสงคราม (War Powers Resolution) จะผ่านความเห็นชอบจากทั้ง 2 สภาได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์” เนื่องจากมี ส.ว.เบอร์นี แซนเดอร์ส คอยเป็นแกนนำผลักดันร่างกฎหมายนี้ในวุฒิสภา
แซนเดอร์ส ซึ่งมีแนวโน้มว่าจะลงชิงเก้าอี้ผู้นำสหรัฐฯ ในปี 2020 ออกมากล่าวชื่นชมมติของสภาผู้แทนราษฎร
“วุฒิสภาจะต้องผ่านร่างญัตตินี้โดยเร็ว เพื่อทวงคืนอำนาจตามรัฐธรรมนูญของสภาคองเกรสในเรื่องสงคราม” แซนเดอร์ส กล่าว
ร่างญัตตินี้ถือเป็นเครื่องเตือนความจำว่า สภาคองเกรสมีอำนาจตามกฎหมายที่สั่งถอนกองกำลังสหรัฐฯ ตราบใดที่ยังไม่มีการประกาศสงครามอย่างเป็นทางการ
อย่างไรก็ตาม มติเห็นชอบของวุฒิสภาอาจจะทำให้ ทรัมป์ ตัดสินใจใช้อำนาจ ‘วีโต’ เป็นครั้งแรก นับตั้งแต่ก้าวขึ้นเป็นประธานาธิบดี
ความไม่พอใจซาอุดีอาระเบียเริ่มก่อตัวขึ้นในสภาคองเกรส หลังจาก คาช็อกกี ถูกทีมสังหารของริยาดปลิดชีพอย่างโหดเหี้ยมที่สถานกงสุลซาอุฯ ในนครอิสตันบูล เมื่อเดือน ต.ค. ปีที่แล้ว และยิ่งทำเนียบขาวกางปีกปกป้องเจ้าชาย โมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน มากเท่าไหร่ สมาชิกรัฐสภาทั้ง 2 พรรคก็ยิ่งรู้สึกว่าต้องมีมาตรการตอบโต้มากเท่านั้น
คนในพรรครีพับลิกันยังไม่เห็นด้วยกับนโยบายต่างประเทศของ ทรัมป์ หลายอย่าง โดยเฉพาะแผนการถอนทหารอเมริกันออกจากซีเรียและอัฟกานิสถาน