เอเอฟพี - หัวหน้าเว็บไซต์ข่าวแห่งหนึ่งของฟิลิปปินส์ ซึ่งมีชื่อเสียงด้านการตรวจสอบประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตอร์เต อย่างเข้มข้น ถูกจับกุมในวันพุธ(13ก.พ.) ตามข้อหาหมิ่นประมาท,ใส่ร้ายป้ายสี นับเป็นการดำเนินคดีล่าสุดต่อเหล่าบุคคลที่ถูกมองว่าเป็นปรปักษ์กับรัฐบาล
มาเรีย เรสซา ผู้บริหารของเว็บไซต์ข่าวแรปเลอร์ (Rappler) ซึ่งมีเหตุกระทบกระทั่งกับประธานาธิบดีดูเตอร์เตบ่อยครั้ง ถูกจับกุมที่สำนักงานของเธอในกรุงมะนิลาในวันพุธ(13ก.พ.) ในความเคลื่อนไหวที่พวกสนับสนุนสิทธิเสรีภาพสื่อประณามว่าเป็นการ "ข่มเหงรังแก"
รายงานข่าวระบุว่าเธอถูกควบคุมตัวตามข้อกล่าวหาหมิ่นประมาททางไซเบอร์ ในขณะที่รัฐบาลพยายามเพิ่มแรงกดดันต่อ เรสซาและแรปเลอร์ อย่างหนัก หลังจาก เรสซา และเว็บไซต์ของเธอ ต้องเผชิญกับข้อกล่าวหาหลีกเลี่ยงภาษีไปก่อนหน้านี้แล้ว และผลจากคดีดังกล่าวอาจนำมาซึ่งการเว็บไซต์แรปเลอร์
การจับกุมครั้งนี้มีขึ้นหลังจาก ดูเตอร์เต เดินหน้าปราบปรามฝ่ายวิพากษ์วิจารณ์ตัวยงทั้งในสื่อมวลชนและในรัฐสภา ซึ่งอาจหาญคัดค้านสงครามต่อต้านยาเสพติดอันเป็นสัญลักษณ์ของประธานาธิบดีรายนี้ ขณะที่ปฏิบัติการดังกล่าวลุกลามบานปลายกลายเป็นสงครามนองเลือดคร่าชีวิตผู้คนไปแล้วหลายพันศพ
"เธอถูกจับกุมและเธอเข้าใจสิทธิของเธอ" เบ็ธ ฟรอนโดโซ ผู้ร่วมก่อตั้งเว็บไซต์ข่าวแรปเลอร์ระบุ จากนั้นต่อมาทาง แรปเลอร์ แถลงบนทวิตเตอร์ว่า เรสซา จำเป็นต้องค้างคืนที่สำนักงานสืบสวนแห่งชาติ หน่วยงานที่ควบคุมตัวเธอ ในขณะที่เหล่าทนายความพยายามหาทางยื่นขอประกันตัว
เรสซา ซึ่งเป็นหนึ่งในบรรดาผู้สื่อข่าวที่ถูกขังหรือฆ่า ที่ถูกยกเป็น "บุคคลแห่งปี" ประจำปี 2018 ของนิตยสารไทม์ โดนตำรวจนอกเครื่องแบบพาตัวออกจากสำนักงานของแรปเลอร์ ท่ามกลางการห้อมล้อมของพวกผู้สื่อข่าว
"คดีนี้มันน่าหัวเราะและข้อเท็จจริงคือการออกหมายจับของพวกเขาเป็นการเย้ยหยันกระบวนการยุติธรรม" เรสซาบอกกับพวกผู้สื่อข่าวหลังถูกจับ "นี่คือสิ่งที่นักข่าวในฟิลิปปินส์ต้องเผชิญในปัจจุบัน"
แรปเลอร์ ก่อความขุ่นเคืองจากรัฐบาล นับตั้งแต่ที่พวกเขาเผยแพร่รายงานวิพากษ์วิจารณ์สงครามยาเสพติดของดูเตอร์เต ที่เหล่านักวิจารณ์บอกว่ามันมีเป้าหมายที่คนยากจนและอาจเทียบเท่ากับเป็นการก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติ
อย่างไรก็ตามคดีใหม่ที่มีต่อ เรสซา และ เรย์นัลโด ซานโตส จูเนียร์ อดีตผู้สื่อข่าวของแรปเลอร์ มีต้นตอจากบทความหนึ่งที่เขียนเมื่อปี 2012 ซึ่งกล่าวหาว่านักธุรกจชายคนหนึ่งมีความสัมพันธ์กับผู้พิพากษาศาลสูงของประเทศรายหนึ่ง ณ ขณะนั้น
แม้เบื้องต้นคณะสืบสวนปฏิเสธคำร้องของนักธุรกิจชายคนดังกล่าวที่ยื่นร้องเรียนเอาผิดกับ เรสซาและ เรย์นัลโด ซานโตส จูเนียร์ ต่อบทความดังกล่าว แต่ต่อมาได้มีการยื่นเรื่องให้อัยการพิจารณา
พวกผู้สื่อข่าวฟิลิปปินส์ออกมาโจมตีเหตุจับกุมเรสซาในทันที โดยระบุว่า "การควบคุมตัวเรสซา ซึ่งชัดเจนว่าเป็นการจัดฉากข้อกล่าวหาหมิ่นประมาททางไซเบอร์ เป็นพฤติกรรมข่มเหงอย่างน่าละอายของรัฐบาลอันธพาล" สหภาพผู้สื่อข่าวแห่งชาติฟิลิปปินสกล่าว "ตอนนี้รัฐบาลพิสูจน์แล้วว่า พวกเขามีความตั้งใจเดินหน้าปิดปากสื่อมวลชนฝ่ายวิพากษ์วิจารณ์"
ด้านองค์การนิรโทษกรรมสากลก็ประณามการจับกุมครั้งนี้ โดยระบุว่า "มันมีแรงจูงใจทางการเมืองอย่างโจ่งครึ่ม"