รัสเซียทูเดย/รอยเตอร์ - สหรัฐฯ ละเมิดสนธิสัญญากองกำลังนิวเคลียร์พิสัยกลาง (Intermediate-Range Nuclear Forces agreement หรือ INF) มานานหลายปีแล้ว กระทรวงกลาโหมรัสเซียบอกระหว่างเรียกทูตอเมริกาเข้าพบ พร้อมเรียกร้องวอชิงตันทำลายฐานยิงขีปนาวุธร่อนโทมาฮอว์ก และโดรนจู่โจม สำหรับกลับมาปฏิบัติตามข้อตกลงดังกล่าวอีกครั้ง
กระทรวงกลาโหมรัสเซียเรียกผู้แทนทางทหารของสหรัฐฯ เข้าพบในกรุงมอสโกเมื่อวันพุธที่ผ่านมา เพื่อส่งมอบบันทึกเกี่ยวกับสนธิสัญญากองกำลังนิวเคลียร์พิสัยกลางแก่เขา และทางฝ่ายรัสเซียได้ใช้โอกาสนี้แนะนำอเมริกาให้กลับมาปฏิบัติตามสนธิสัญญากองกำลังนิวเคลียร์พิสัยกลางอย่างเข้มงวดอีกครั้ง ก่อนที่การถอนตัวจากภาคีสนธิสัญญาที่สหรัฐฯทำไว้กับรัสเซียจะมีผลภายใน 6 เดือน
“เพื่อบรรลุเป้าหมายนี้ สหรัฐฯ ต้องทำลายแท่นยิงเอนกประสงค์ Mk-41 ที่ออกแบบมาเพื่อยิงขีปนาวุธร่อนโทมาฮอว์ก และขีปนาวุธโจมตีเป้าหมาย” กระทรวงกลาโหมรัสเซียระบุ โดยอ้างว่าเนื่องจากมันมีคุณลักษณะแบบเดียวกับขีปนาวุธพิสัยใกล้และพิสัยกลางยิงจากภาคพื้นที่ถูกห้ามภายใต้สนธิสัญญากองกำลังนิวเคลียร์พิสัยกลาง
นอกจากนี้แล้ว กระทรวงกลาโหมรัสเซียยังบอกด้วยว่า โดรนโจมตีของอเมริกาก็ควรถูกกำจัดทิ้งเช่นกัน สืบเนื่องจากพวกมันจัดอยู่ในประเภทขีปนาวุธร่อนยิงจากภาคพื้นตามข้อตกลงดังกล่าาว
ก่อนหน้านี้เมื่อช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ วอชิงตันประกาศถอนตัวฝ่ายเดียวจากสนธิสัญญากองกำลังนิวเคลียร์พิสัยกลาง ซึ่งเป็นหลักสำคัญแห่งความมั่นคงของยุโรปมาตั้งแต่ปี 1987 โดยสหรัฐฯ กล่าวหารัสเซียสร้างขีปนาวุธต้องห้าม แต่บอกว่าอาจคืนสู่ข้อตกลง หากว่ามอสโกยอมกำจัดขีปนาวุธต้องห้ามเหล่านั้นภายใน 180 วันข้างหน้า
กระทรวงกลาโหมรัสเซียระบุในวันพุธ (6 ก.พ.) ปฏิเสธโดยสิ้นเชิงต่อคำกล่าวหาที่ไร้หลักฐานที่ว่ารัสเซียกำลังละเมิดพันธสัญญาภายใต้สนธิสัญญาดังกล่าว “คำกล่าวหาของสหรัฐฯ นั้นเป็นเท็จ” โฆษกกระทรวงกลาโหมมอสโกกล่าว