รัสเซียทูเดย์ - กองเรือบรรทุกเครื่องบินนิวเคลียร์ใหม่และฝูงบินขับไล่ล้ำสมัย จะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของกองทัพเรือจีนที่ยกเครื่องใหม่ภายในปี 2035 จากความเห็นของผู้เชี่ยวชาญด้านการทหารท้องถิ่น ส่วนหนึ่งในความทะเยอทะยานของปักกิ่งในการผลักดันกองทัพเรือสู่ความทันสมัยและหวังยกระดับแสนยานุภาพแซงหน้าสหรัฐฯในแปซิฟิก
พวกผู้เชี่ยวชาญชาวจีนที่มีส่วนเกี่ยวข้องในโครงการนี้ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวเซาท์ไชนามอร์นิงโพสต์ ว่าในความทะเยอทะยานดังกล่าว จะได้เห็นปักกิ่ง สร้างกองเรือบรรทุกเครื่องบินอย่างน้อยๆ 6 กอง ซึ่งจะสามารถเข้าประจำการปฏิบัติภารกิจตามทะเลหลวงต่างๆภายในปี 2035 โดย 4 ในนั้นจะเป็นเรือบรรทุกเครื่องบินพลังงานนิวเคลียร์
ผู้เชี่ยวชาญบอกด้วยว่าเหล่าเรือบรรทุกเครื่องบินยังจะติดตั้งระบบปล่อยเครื่องบินแบบใหม่ เรียกว่า "ระบบส่งเครื่องบินพลังแม่เหล็กไฟฟ้า(EMALS)" แบบเดียวที่ใช้กับเรือบรรทุกเครื่องบินสหรัฐฯ ซึ่งจะช่วยให้เครื่องบินขับไล่พุ่งทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าได้รวดเร็วกว่าระบบคาตาพัลต์แบบเก่าที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซลและพลังไอน้ำ บนเรือบรรทุกเครื่องบินพลังานดีเซลรุ่นเก่า
ในปัจจุบัน กองทัพเรือจีนมีเรือบรรทุกเครื่องบินพลังงานดีเซลประจำการอยู่เพียง 1 ลำ มีรหัสเรียกว่า "เหลียวหนิง" ทั้งนี้เดิมทีจีนซื้อเรือบรรทุกเครื่องบินลำนี้มาจากยูเครน แล้วนำมาพัฒนาใหม่และเข้าประจำการเมื่อปี 2012
เวลานี้ "เหลียวหนิง" ถูกใช้งานในฐานะเรือฝึกฝนสำหรับลูกเรือของเรือบรรทุกเครื่องบิน ขณะที่มีข่าวว่ามันจะถูกขายต่อให้กับ ปากีสถาน หลังการปรับปรุงอัพเกรดขนานใหญ่ ด้วยมีเป้าหมายช่วย ปากีสถาน สามารถแข่งขันกับ อินเดีย ซึ่งสร้างเรือบรรทุกเครื่องบินของตนเอง
เรือบรรทุกเครื่องบินที่ผลิตภายในประเทศลำแรกของจีน ได้แก่ ไทป์ 001เอ โดยเวลานี้มันอยู่ระหว่างการทดสอบกลางทะเล แต่คาดหมายว่าจะเข้าสู่ประจำการในเดือนเมษายน ก่อนถึงวาระครบ 70 ปีของกองทัพเรือขีนในเดือนตุลาคม
เมื่อนำไปเปรียบเทียบกับสหรัฐฯแล้ว ปัจจุบันกองทัพเรืออเมริกา มีเรือบรรทุกเครื่องบินพลังงานนิวเคลียร์ 11 ลำและมีเรือสะเทินน้ำสะเทินบกอื่นๆอีก 9 ลำที่สามารถใช้เป็นเรือบรรทุกเครื่องบินได้ในยามสงคราม
อย่างไรก็ตากองทัพจีนมีแผนอย่างกระตือรือร้นในการลดช่องว่างดังกล่าวและดูเหมือนว่าเรื่องเงินจะไม่ใช่ปัญหา แม้ตอนนี้ปักกิ่งได้ทำสงครามการค้ากับสหรัฐฯ ซึ่งกำลังส่งผลกระทบกับเศรษฐกิจของทั้งสองประเทศ
หวัง หยุ่นเฟย อดีตผู้การเรือพิฆาตของกองทัพเรือและผู้เชี่ยวชาญด้านยุทธนาวี ให้สัมภาษณ์กับเซาต์ไชนามอร์นิงว่าปักกิ่งจำเป็นต้องเดินหน้าพัฒนาไปจนกว่าจะอยู่ในระดับเดียวกับสหรัฐฯ
"ต่อให้เศรษฐกิจไม่ดี เราอาจต้องมาจัดสรรงบประมาณกันใหม่ในส่วนของรายจ่ายด้านการทหารโดยรวม เพื่อให้โครงการปรับปรุงกองทัพเรือให้มีความทันสมัย สามารถเดินหน้าต่อไปได้" เขากล่าว พร้อมยกตัวอย่างกรณีอาจต้องตัดลดงบการประกอบรถถังรุ่นใหม่
นอกจากนี้ จีนจะทุ่มเงินพัฒนาเครื่องบินขับไล่รุ่นใหม่สำหรับใช้บนเรือบรรทุกเครื่องบินด้วย โดยปัจจุบันยังอยู่ระหว่างการถกเถียงกันว่าจะเป็นรุ่น เอฟซี-31 หรือเจ-20 ในขณะที่ หวัง เชื่อว่ามันอาจเป็นศักยภาพด้านการสู้รบเป็นรอง F-35 ที่มีราคาแพงของสหรัฐฯอยู่แค่เล็กน้อย
สง ซ่งปิง ผู้สันทัดกรณีด้านการทหารในฮ่องกง เชื่อว่าเทคโนโลยีของจีนจะก้าวขึ้นมาทัดเทียมกับฝูงบินรบและเรือบรรทุกเครื่องบินของสหรัฐฯเร็วๆนี้ แต่เตือนว่าความโดดเด่นทางฮาร์ดแวร์เป็นเพียงส่วนหนึ่งของภาพรวมเท่านั้น โดยเขาชี้ถึงการขาดการฝึกฝนและความพร้อควบคุมความเสียหายในอดีต เนื่องจากกำลังพลของจีนไม่ค่อยมีประบการณ์สู้รบในสมรภูมิจริงเหมือนอย่างกำลังพลของสหรัฐฯ