เอพี - นายิบ บูเคเล(Nayib Bukele) อดีตผู้ว่ากรุงซานซัลวาดอร์ ล่าสุดชนะเลือกตั้งประธานาธิบดีเอลซัลวาดอร์คนใหม่ในวันอาทิตย์(3 ก.พ)แบบถล่มทะลายด้วยนโยบายต่อต้านการคอร์รัปชัน ขึ้นเป็นผู้นำแดนลาตินคนใหม่ในวัยแค่ 37 ปี สิ้นสุดยุค 2 พรรคการเมืองครอบงำประเทศ
เอพีรายงานวันนี้(4 ก.พ)ว่า ศาลสูงสุดด้านการเลือกตั้งเอลซัลวาดอร์ประกาศให้นายิบ บูเคเล(Nayib Bukele) อดีตผู้ว่ากรุงซานซัลวาดอร์ วัย 37 ปี ที่ไม่ได้มาจาก 2 พรรคใหญ่ ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีเอลซัลวาดอร์ โดยชี้ว่า บูเคเลชนะการเลือกตั้งโดยได้ไปเกือบ 54% ในขณะที่นับไปแล้วเกือบ 90%
และพบว่า ยังทิ้งห่าง คาลอส กัลเลจา (Carlos Callejas) จากพรรคชาตินิยมพันธมิตรรีพับลิกัน (Nationalist Republican Alliance ) ผู้สมัครที่ตามมาเป็นอันดับ 2 แบบไม่เห็นฝุ่น ซึ่งได้ไปไม่ถึง 32% ส่วนอดีตรัฐมนตรีต่างประเทศเอลซัลวาดอร์ อูโก มาร์ติเนซ (Hugo Martinez ) จากพรรคพรรคแนวร่วมฟาราบุนโด มาร์ติ เพื่อการปลดปล่อยแห่งชาติ หรือ F.M.L.N และผู้สมัครพรรคเล็กตามมาแบบโดนทิ้งห่าง
เอพีชี้ว่า การที่บูคาเลได้คะแนนเกิน 50% ส่งผลทำให้เขาไม่ต้องเข้าสู่การเลือกตั้งรอบ 2 หากว่าเกิดขึ้นจะมีขึ้นในเดือนมีนาคมนี้ และตัวผู้ชนะซึ่งต่อต้านการคอร์รัปชันได้ประกาศชัยต่อหน้าฝูงชนผู้สนับสนุนกลางกรุงซานซัลวาดอร์ พร้อมกับเรียกร้องให้ผู้ที่สนับสนุนเขาออกมาเฉลิมฉลองเต้นรำกลางถนน
"เรามีความเชื่อมั่้นอย่างเต็มที่ว่าเราได้ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีเอลซัลวาดอร์ และเราชนะในรอบแรก" บูเคเลประกาศ
เอพีชี้ว่า บูเคเลยืนบนเวทีต่อต้านการคอร์รัปชันที่มีสโลแกนหาเสียงว่า "มีเงินอย่างเพียงพอเมื่อไม่มีใครขโมยไป"
ทั้งนี้พบว่าผู้สมัครลงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีเอลซัลวาดอร์ทั้ง 4 คนล้วนต่างสัญญาที่จะยุติการคอร์รัปชัน ทำให้ความรุนแรงจากแก๊งหมดไป และสร้างงานใหม่ ซึ่งการต่อสู้กับอาชญากรรมถือเป็นนโยบายสูงสุด
เอพีชี้ว่า มีชาวเอลซัลวาดอร์ถึง 67,000 คนเป็นสมาชิกแก๊ง ที่ทำให้ชุมชนตกอยู่ในอาการขวัญผวาด้วยการกรรโชก ฆาตกรรม และรูปแบบความรุนแรงอื่นๆ
โดยผู้สมัครทั้งหลายต่างเสนอการสร้างโอากาสทางเศรษฐกิจและการนำคุณค่าทางสังคมกลับคืน เพื่อชักจูงให้ประชาชนหันเหออกห่างจากพฤติกรรมผิดกฎหมาย
ในการเลือกตั้งวันอาทิตย์(3) ไม่พบมีรายงานปัญหาเลือกตั้งใหญ่ๆเกิดขึ้น เอพีกล่าว