เอเอฟพี/เอเจนซีส์ – คลื่นความหนาวเย็นหฤโหดจากขั้วโลกเหนือ ซึ่งทำให้อุณหภูมิของพื้นที่จำนวนมากทางแถบมิดเวสต์ของอเมริกาติดลบต่ำกว่าทวีปแอนตาร์กติกา เริ่มเคลื่อนตัวไปทางตะวันออกและคาดว่าจะหมดฤทธิ์เดชลงไปเรื่อยๆ หลังจากทำให้เที่ยวบินนับพันต้องระงับการให้บริการ โรงเรียนและธุรกิจหยุดทำการ รวมทั้งกระตุ้นความกังวลเกี่ยวกับภาวะอุณหภูมิร่างกายต่ำกว่าปกติ โดยที่สภาพอากาศหนาวเย็นสุดขั้วนี้ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วสิบกว่าคน
ตามรายงานทั้งของเจ้าหน้าที่และของสื่อมวลชน สำนักข่าวรอยเตอร์รวบรวมได้ว่านับตั้งแต่วันเสาร์ (26 ม.ค.) เป็นต้นว่า ทั่วทั้งแถบมิดเวสต์มีผู้เสียชีวิตเนื่องจากอากาศที่หนาวยะเยือกอย่างน้อยสิบกว่าคน บางคนดับชีพเพราะอุบัติเหตุทางท้องถนนซึ่งเกี่ยวข้องกับสภาพอากาศ ขณะที่คนอื่นๆ ดูเหมือนเสียชีวิตจากการปล่อยให้ร่างกายอยู่ในสภาพหนาวเย็นเกินไป
บริการไปรษณีย์สหรัฐฯ ที่เคยโฆษณาว่า จะให้บริการไม่มีวันหยุด ต้องกลับลำสั่งระงับการจัดส่งจดหมายและพัสดุภัณฑ์ในบางพื้นที่ของรัฐอินดีแอนา มิชิแกน อิลลินอยส์ โอไฮโอ ไอโอวา นอร์ทดาโคตา เซาท์ดาโคตา และเนแบรสกา ขณะที่ประชาชนในกว่าสิบรัฐที่อุณหภูมิติดลบเป็นตัวเลขสองหลักได้รับคำแนะนำให้งดออกจากบ้าน
ชิคาโก เมืองใหญ่อันดับ 3 ของอเมริกา เป็นทางผ่านโดยตรงของลมวนขั้วโลกคราวนี้ และเผชิญความหนาวเย็นที่สุดเป็นประวัติการณ์ในวันที่ 2 โดยมีแนวโน้มทำสถิติใหม่ในช่วงเช้ามืดวันพฤหัสบดี (31 ม.ค.) ที่คาดว่า อุณหภูมิจะลดต่ำที่สุด
แรห์ม เอมมานูเอล นายกเทศมนตรีชิคาโก แถลงข่าวเมื่อคืนวันพุธ (30 ) ว่า อุณหภูมิลดต่ำถึงระดับที่ทำลายสถิติและอันตรายต่อชีวิต
เบน ดิวเบลเบสส์ นักอุตุนิยมวิทยาของสำนักงานอากาศแห่งชาติของสหรัฐฯ (เอ็นดับเบิลยูเอส) ระบุว่า อากาศหนาวเย็นที่สุดจะเกิดขึ้นในช่วงคืนวันพุธเข้าสู่เช้าวันพฤหัสบดี
ทั้งนี้ ช่วงเช้าวันพุธอุณหภูมิในชิคาโกติดลบ 30 องศาเซลเซียส และค่าความหนาวที่แท้จริงที่รู้สึกได้เมื่อมีลมมาปะทะ อยู่ที่ -46 องศาเซลเซียส ซึ่งถือว่า หนาวกว่าที่อแลสกาหรือกระทั่งบางส่วนของทวีปแอนตาร์กติกาในเขตขั้วโลกใต้
ที่สนามบินโอแฮร์ของชิคาโก ซึ่งเป็นศูนย์การบินสำคัญในภูมิภาค เจ้าหน้าที่ภาคพื้นดินได้รับคำสั่งไม่ให้ออกไปสัมผัสความหนาวเย็นครั้งละเกิน 15 นาที ส่งผลให้เที่ยวบินจำนวนมากล่าช้า
รายงานระบุว่า มีเที่ยวบินกว่า 1,800 เที่ยวต้องยกเลิกการให้บริการจากสนามบินใหญ่ 2 แห่งในชิคาโก ขณะที่ผู้ให้บริการรถไฟ “แอมแทร็ก” ระงับบริการจากชุมทางในเมืองนี้เช่นเดียวกัน
สภาพอากาศที่หนาวเย็นติดลบและส่งผลต่อชาวอเมริกันนับสิบล้านคนนี้เป็นผลจากลมวนขั้วโลก (polar vortex) หรือลมหมุนวนความเร็วสูงในลักษณะทวนเข็มนาฬิกาจากบริเวณขั้วโลกเหนือที่ส่งผลให้อากาศหนาวเย็นแผ่ปกคลุมบริเวณโดยรอบมหาสมุทรอาร์กติก
เอ็นดับเบิลยูเอสพยากรณ์ว่า อุณหภูมิจะทรงอยู่ที่ –31 ถึง -42 องศาเซลเซียส โดยที่ค่าความหนาวเย็นที่แท้จริงเมื่อมีลมปะทะอยู่ที่ – 32 ถึง -48 องศาเซลเซียส ซึ่งอาจทำให้เนื้อเยื่อถูกทำลายหากอยู่กลางแจ้งเพียง 5 นาที
รัฐอิลลินอยส์ มิชิแกน และวิสคอนซิลประกาศมาตรการฉุกเฉินแล้ว
เกรตเชน วิตเมอร์ ผู้ว่าการรัฐมิชิแกน สั่งปิดหน่วยงานรัฐบาลจนถึงวันพฤหัสบดี
ขณะเดียวกัน ทางการและผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพเตือนอันตรายจากเนื้อเยื่อถูกทำลายเพราะความเย็นจัดและภาวะอุณหภูมิร่างกายต่ำกว่าปกติ
ศูนย์พักพิงให้ความอบอุ่นนับร้อยแห่งเปิดรับประชาชนที่มีความเสี่ยง เช่น ผู้สูงวัย รถบัสจำนวนมากถูกแปลงเป็นศูนย์ให้ความอบอุ่นเคลื่อนที่ และสถานพักพิงมีคนไร้บ้านมาขอพักอาศัยเพิ่มขึ้น ซึ่งรวมถึงคนจรจัดราว 16,000 คนที่เคยกินนอนข้างถนนในชิคาโก
ทั้งนี้ คาดว่า พายุหิมะจะยังคงส่งผลต่อบางส่วนในแถบนอร์ทอีสต์ของอเมริกาในช่วงสุดสัปดาห์ ส่งผลให้มีลมกรรโชกและหิมะที่ทำให้ทัศนวิสัยสำหรับการขับขี่ลดลง และคาดว่า จะมีพายุตกหนักทางเหนือของรัฐเมน และพายุหิมะระดับปานกลางที่เกิดขึ้นฉับพลันในพื้นที่อื่นๆ ในแถบอีสต์โคสต์