xs
xsm
sm
md
lg

“โกส์น” เปิดปากหนแรกระบุผู้บริหาร “นิสสัน” ใช้ “อุบาย-ทรยศ” เพื่อขวางควบรวม “เรโนลต์”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

คาร์ลอส โกส์น ซึ่งขณะนั้นยังเป็นซีอีโอและประธานของเรโนลต์แห่งฝรั่งเศส  และเป็นประธานทั้งของนิสสัน มอเตอร์ และ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส แห่งญี่ปุ่น โพสท่าถ่ายภาพ ณ สำนักงานใหญ่ของเรโนลต์ในฝรั่งเศส (ภาพจากแฟ้มถ่ายเมื่อ 12 ก.ย. 2018)  โกส์นเปิดปากให้สัมภาษณ์ในวันพุธ (30 ม.ค.) ว่า ถูกผู้บริหารของนิสสัน ใช้ “กลอุบายและการทรยศ” เพื่อขัดขวางการรวมกับเรโนลต์
เอเจนซีส์ - คาร์ลอส โกส์น เจ้าพ่ออุตสาหกรรมรถยนต์ผู้กำลังถูกคุมขังอยู่ในญี่ปุ่น ให้สัมภาษณ์ครั้งแรกนับตั้งแต่ถูกจับกุมเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว ระบุ พวกผู้บริหาร “นิสสัน” คัดค้านแผนการของเขาที่จะให้บริษัทเข้าผูกพันใกล้ชิดยิ่งขึ้นกับเรโนลต์ จึงหันมาใช้ “กลอุบายและการทรยศ” เพื่อขัดขวางเรื่องนี้ ตลอดจนอยู่เบื้องหลังข้อกล่าวหาที่ว่าเขามีความประพฤติมิชอบในทางการเงิน หนังสือพิมพ์ “นิกเกอิ” อันทรงอิทธิพลด้านข่าวการเงินและเศรษฐกิจรายงานในวันพุธ (30 ม.ค.)

นิกเกอิ บอกว่า ได้พูดคุยกับโกส์นเป็นเวลา 20 นาทีก่อนหน้านั้นในวันเดียวกัน ณ สถานกักกันในกรุงโตเกียว ซึ่งอดีตประธานของนิสสัน มอเตอร์ และของ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส รวมทั้งเป็นอดีตประธานและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหาร (ซีอีโอ) ของ เรโนลต์ ผู้นี้ ถูกคุมขังมาตั้งแต่วันที่ 19 พฤศจิกายนปีที่แล้ว

ในการให้สัมภาษณ์คราวนี้ โกส์นซึ่งปัจจุบันอายุ 64 ปี เล่าว่า ได้หารือเรื่องแผนการรวมนิสสันกับเรโนลต์ ค่ายรถพันธมิตรแห่งฝรั่งเศส กับฮิโรโตะ ซาอิกาวะ ซีอีโอของนิสสันในเดือนกันยายน ทว่า ซาอิกาวะและเหล่าผู้บริหารของนิสสันกลับใช้กลอุบายและการทรยศกับตัวเขา เพื่อทำลายแผนการเหล่านั้น

โกส์นที่ได้รับการยกย่องอย่างสูงจากการพลิกฟื้นนิสสันให้พ้นจากวิกฤตเมื่อสองทศวรรษที่แล้ว พยายามผลักดันให้นิสสันกระชับความผูกพันกับเรโนลต์แน่นแฟ้นขึ้น ซึ่งรวมถึงการผนวกกิจการเต็มรูปแบบ แม้พวกผู้บริหารของนิสสัน สงวนท่าทีในเรื่องนี้อย่างชัดเจนก็ตาม
ฮิโรโตะ ซาอิกาวะ ซีอีโอของนิสสัน
ขณะนี้ผู้บริหารสัญชาติฝรั่งเศสเชื้อสายเลบานอนและบราซิลผู้นี้ ถูกอัยการกรุงโตเกียวตั้งข้อหาเกี่ยวกับการละเมิดความรับผิดชอบและการรายงานค่าตอบแทนต่ำกว่าความเป็นจริง

การจับกุมโกส์นทำให้แนวโน้มการกระชับความผูกพันนิสสัน-เรโนลต์ รวมถึงมิตซูบิชิ มอเตอร์ส มืดมนลง โดยซาอิกาวะกล่าวภายหลังจากที่โกส์นถูกจับว่า ไม่ใช่เวลาเหมาะสมที่จะหารือเกี่ยวกับความสัมพันธ์ด้านเงินทุนที่ซับซ้อนของเครือข่ายพันธมิตร นอกจากนั้นนิสสันและมิตซูบิชิยังปลดโกส์นจากตำแหน่งประธานกรรมการ ส่วนตำแหน่งในเรโนลต์นั้น โกส์นขอลาออกเอง

เขาปฏิเสธข้อกล่าวหาจ่ายเงินอย่างไม่เหมาะสมให้บริษัทของนักธุรกิจซาอุดีอาระเบียผู้หนึ่ง โดยยืนยันว่า การดำเนินการดังกล่าวได้รับอนุมัติจากผู้บริหารคนหนึ่งของนิสสัน

โกส์น ยังบอกว่า ข้อกล่าวหาของนิสสันและมิตซูบิชิ ว่า ตนรับเงินอย่างไม่เหมาะสมเกือบ 8 ล้านยูโรผ่านบริษัทร่วมทุนของค่ายรถสองแห่งนี้ในเนเธอร์แลนด์ว่า เป็นการบิดเบือนความจริง พร้อมโต้แย้งว่า การซื้อบ้านพักหรูหราในเมืองรีโอเดจาเนโร ประเทศบราซิล และกรุงเบรุต ประเทศเลบานอนนั้น ได้รับอนุมัติจากแผนกกฎหมายของนิสสัน

ทว่า นิสสัน กลับยืนยันว่า ไม่เคยรับรู้ว่าได้จ่ายเงินค่าอสังหาริมทรัพย์หลายแห่งให้โกส์น

ระหว่างการให้สัมภาษณ์คราวนี้ โกส์น ยังแก้ต่างว่า ตนไม่ได้ใช้อำนาจเผด็จการ แต่เป็นการบิดเบือนความจริงด้วยการตีความการเป็นผู้นำที่เข้มแข็งเด็ดขาดเป็นการบริหารแบบเผด็จการโดยคนที่ต้องการทำลายตน

เขาสำทับว่า สุขภาพแข็งแรงดีและยืนยันว่า จะไม่หลบหนีหากได้รับการประกันตัว ทั้งนี้ ศาลปฏิเสธการขอประกันตัวของโกส์นมาหลายครั้งเนื่องจากเห็นว่า มีความเสี่ยงในการหลบหนีและยังกังวลว่า อาจมีความพยายามทำลายหลักฐาน

ทางด้านโฆษกของนิสสันออกมาตอบโต้โกส์นทันทีว่า ซาอิกาวะพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า ไม่มีการพยายาม “ทำรัฐประหาร” ในนิสสัน แต่เรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นเป็นผลจากการกระทำผิดของโกส์นและเกร็ก เคลลี่ อดีตผู้ช่วยคนสนิทของโกส์นเท่านั้น

เขายังบอกว่า การตรวจสอบของนิสสันพบหลักฐานที่น่าเชื่อถือมากมายที่บ่งชี้การกระทำผิดของโกส์น และว่า ประเด็นหลักที่บริษัทมุ่งเน้น คือ การจัดการกับจุดอ่อนด้านบรรษัทภิบาลที่ทำให้เกิดเรื่องไม่ชอบมาพากลนี้

ขณะเดียวกัน สถานีวิทยุโทรทัศน์เอ็นเอชเค ของทางการญี่ปุ่นรายงานว่า ซาอิกาวะเตรียมหารือนอกรอบแบบตัวต่อตัวกับฌอง-โดมินิก เซนาร์ ประธานกรรมการคนใหม่ของเรโนลต์ ระหว่างการประชุมกลุ่มพันธมิตรเรโนลต์-นิสสัน-มิตซูบิชิที่เนเธอร์แลนด์วันพฤหัสบดี (31)
กำลังโหลดความคิดเห็น