รอยเตอร์ – สำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐฯ (เอฟบีไอ) ประกาศยุติการสอบสวนคดีคนร้ายกราดยิงคอนเสิร์ตกลางแจ้งที่นครลาสเวกัสเมื่อปี 2017 ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตไปถึง 58 ราย หลังไม่พบแรงจูงใจที่ชัดเจนของมือปืน
รายงานสรุปของเอฟบีไอ ระบุว่า สตีเฟน แพดด็อก มือปืนวัย 64 ปี ไม่แตกต่างอะไรจากผู้ก่อคดีกราดยิงอื่นๆ ที่เผชิญปัญหารุมเร้าหลายด้าน เช่น ปัญหาสุขภาพจิตและความเครียด ซึ่งทำให้อยากจะฆ่าตัวตาย
พนักงานสอบสวนยังไม่พบหลักฐานว่า แพดด็อก มีค่านิยมหรือแรงจูงใจทางการเมืองใดๆ ที่อาจนำไปสู่การก่อเหตุสังหารหมู่เมื่อวันที่ 1 ต.ค. ปี 2017 ซึ่งทำให้มีผู้บาดเจ็บอีกมากกว่า 800 คน
“เราไม่พบปัจจัยกระตุ้นอย่างใดอย่างหนึ่งที่อยู่เบื้องหลังการโจมตีของ แพดด็อก” หน่วยวิเคราะห์พฤติกรรม (Behavioral Analysis Unit) ในสังกัดเอฟบีไอระบุ ซึ่งเป็นการย้ำข้อสรุปของตำรวจลาสเวกัสเมื่อเดือน ส.ค. ปีที่แล้ว
แพดด็อก กระทำการทั้งหมดโดยลำพัง ตั้งแต่วางแผนเรื่อยไปจนถึงการใช้ปืนไรเฟิลหลายกระบอกสาดกระสุนกว่า 1,000 นัดจากชั้น 32 ของโรงแรมมัณฑะเลย์เบย์ รีสอร์ต แอนด์ คาสิโน ลงมาใส่ฝูงชนที่กำลังชมคอนเสิร์ตอยู่เบื้องล่าง และเมื่อถูกตำรวจเข้าปิดล้อม เขาก็ตัดสินใจยิงตัวตาย
เจ้าหน้าที่ระบุว่า แพดด็อก เผชิญปัญหาหลายอย่างในชีวิต ทั้งสุขภาพร่างกายและจิตใจที่ย่ำแย่ รวมถึงปัญหาการเงิน ซึ่งอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เขาวางแผนปลิดชีพตนเอง นอกจากนี้เขายังต้องการสร้างชื่อเสียงจากเป็นฆาตกรสังหารหมู่ เนื่องจากบิดาก็เป็นอาชญากรชื่อดังมาก่อน
แพดด็อก แทบไม่เคยแสดงความเห็นอกเห็นใจใครมาตลอดทั้งชีวิต ดังนั้น การสังหารผู้คนที่กำลังมีความสุขได้อย่างเลือดเย็นจึงสอดคล้องกับอุปนิสัยส่วนตัวของเขา
ชายผู้นี้วางแผนอย่างรัดกุมตั้งแต่การเตรียมซื้อปืนและเครื่องกระสุน ศึกษากลยุทธ์ของตำรวจ เลือกสถานที่ลงมือ และถึงขั้นติดตั้งกล้องวงจรปิดไว้จับตาดูความเคลื่อนไหวของตำรวจ เพื่อที่จะใช้ปืนพกยิงตัวตายก่อนถูกจับ