เอเจนซีส์ - ประธานาธิบดี มาครง ของฝรั่งเศสให้สัมภาษณ์จากกรุงไคโรว่า เขารู้สึกห่วงถึงความเป็นอยู่ของอดีตประธานบริหารนิสสัน คาร์ลอส กอส์น (Carlos Ghosn)ในเรือนจำญี่ปุ่น พร้อมเปิดเผยว่า ได้เอ่ยถึงเรื่องนี้กับผู้นำญี่ปุ่นว่า รู้สึกว่า การขังกอส์นในเรือนจำญี่ปุ่นนั้นทั้งนานและหนักเกินไป
บลูมเบิร์ก สื่อธุรกิจรายงานเมื่อวานนี้(28 ม.ค)ว่า กลายเป็นการออกมาแสดงความเห็นที่แรงที่สุดของผู้นำฝรั่งเศสเท่าที่เคยมีมาในคดีอดีตผู้บริหารรถนิสสันที่ถูกจับในคดีเลี่ยงภาษีที่ญี่ปุ่น และในเวลานี้อยู่ในเรือนจำ
โดยประธานาธิบดี เอ็มมานุแอล มาครง ได้กล่าวต่อนักข่าวระหว่างการเยือนกรุงไคโรถึงข้อความการสนทนาทางโทรศัพท์ระหว่างตัวเขาและนายกรัฐมนตรี ชินโซ อาเบะ ของญี่ปุ่นว่า
“สิ่งที่ผมได้กล่าวไปคือ ผมรู้สึกว่าการถูกควบคุมตัวนั้นมีระยะเวลาที่นานเกินไปและยังสาหัสมาก และผมได้กล่าวกับอาเบะเช่นนั้น”
ซึ่งการออกมาแสดงความเห็นของผู้นำฝรั่งเศสครั้งนี้ อาจถูกมองได้ว่า เสี่ยงต่อการขัดขวางกระบวนการทางยุติธรรมญี่ปุ่น ซึ่งหัวหน้าเลขาธิการคณะครม. โยชิฮิเดะ ซูงะ ได้ให้สัมภาษณ์ในวันจันทร์(28)ว่า เนื่องด้วยตามกระบวนการนั้นจะตามมาด้วยการจำคุกกอส์นและการสอบสวน
“เจ้าหน้าที่สอบสวนที่มีความเป็นอิสระเป็นอย่างมากเป็นผู้รับผิดชอบ ซึ่งอยู่บนพื้นฐานของกระบวนการที่เหมาะสม และการตัดสินทางยุติธรรมที่เข้มงวด รวมไปถึงคำสั่งจากศาล” ซูงะแถลง
และนอกจากนี้เขายังออกมาชี้ว่า บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ 2 แห่งสมควรต้องตัดสินใจว่า ใครจะเป็นผู้บริหารบริษัทนิสสันคนใหม่ พร้อมกับโต้ไปถึงคำอ้างที่ว่า รัฐบาลเกี่ยวข้องในการเจรจา
ทั้งนี้พบว่า กอส์น อดีตนายใหญ่นิสสันถูกควบคุมตัวโดยทางการญี่ปุ่นนับตั้งแต่เขาถูกจับกุมเมื่อวันที่ 19 พ.ย ปีที่แล้วกลางท่าอากาศยานนานาชาติฮาเนดะ กรุงโตเกียว
บลูมเบิร์กชี้ว่า การที่มาครงสามารถเข้ายุ่งเกี่ยวกับคดีของ 2 บริษัทได้เป็นเพราะรัฐบาลฝรั่งเศสมีอิทธิพลในบริษัทค่ายรถเรโนลต์
โดยรัฐบาลฝรั่งเศสถือหุ้น 15% ในเรโนลต์พร้อมกับเอกสิทธิ์ในการออกเสียงพิเศษ ส่วนบริษัทหลัง พบว่าถือหุ้น 43% ของนิสสันพร้อมกับสิทธิการออกเสียง ส่งผลทำให้บรรดาผู้นำฝรั่งเศสสามารถกล่าวในทางอ้อมต่อการตัดสินใจ ที่บางครั้งกระทบบริษัทผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติญี่ปุ่น
สื่อธุรกิจชี้ว่า มาครงเคยมีประวัติกับค่ายเรโนลต์มาแล้ว ทั้งนี้ในวันอาทิตย์(27) เขาออกมากล่าวปกป้องการเพิ่มถือหุ้นของฝรั่งเศสเมื่อปี 2015 เมื่อครั้งตัวเองดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีเศรษฐกิจฝรั่งเศส
“ผมรู้สึกยินดีที่เข้าแทรกแซง เป็นเพราะผมรู้สึกว่ากอส์นนั้นไปไกลเกินไปในกระบวนการนิปปอนไนเซชัน(Nipponization) ของเครือ” มาครงกล่าว