เอเอฟพี - เทสโก้ ห้างค้าปลีกรายใหญ่ที่สุดของอังกฤษ มีแผนปรับลดพนักงานตามสาขาต่างๆทั่วสหราชอาณาจักรและสำนักงานใหญ่ ราว 9,000 อัตรา ภายใต้ขั้นต่อไปของมาตรการปรับโครงสร้าง ขณะที่ทางบริษัทต้องเผชิญการแข่งขันอันดุเดือดมากยิ่งขึ้นจาก อัลดี และลิเดิล 2 ห้างค้าปลีกลดราคาสัญชาติเยอรมนี
อย่างไรก็ตาม เทสโก้ ซึ่งมีพนักงานราว 300,000 คนจากพนักงานทั้งหมด 440,000 คนทั่วโลก ระบุว่าทางบริษัทจะหาหน้าที่การงานใหม่ให้แก่พนักงานราวๆ 50% ที่ได้รับผลกระทบจากแผนปรับลดพนักงานครั้งนี้
“โดยรวมแล้วเราคาดหมายว่าจะมีเพื่อนร่วมงานของเทสโก้สูงสุด 9,000 คนที่จะได้รับผลกระทบ อย่างไรก็ตาม เราคาดหมายว่าครึ่งหนึ่งของเพื่อนร่วมงานเหล่านี้จะได้รับการจ้างงานใหม่ในบทบาทด้านปฏิสัมพันธ์ลูกค้า” ถ้อยแถลงระบุ “ใน 4 ปีแห่งการปรับแผนธุรกิจ เรามีความคืบหน้าไปด้วยดี แต่ตลาดมีความท้าทายและเราจำเป็นต้องเดินหน้าปรับตัวเพื่อให้อยู่ในการแข่งขัน” เจวัน ทาร์รี ซีอีโอเทสโก้ประจำอังกฤษและไอร์แลนด์กล่าว
เทสโก้บอกว่า การปรับลดพนักงานนั้นเป็นไปตามแผนปิดเคาน์เตอร์ต่างๆ ในบางสาขา ที่ให้บริการสินค้าต่างๆ อย่างเช่น ปลาสด, เนื้อสัตว์ และเนย นอกจากนี้แล้วพวกเขายังมีปรับรูปแบบการควบคุมสต๊อกสินค้าให้มีความคล่องตัวขึ้น เช่นเดียวกับจำนวนสำนักงานใหญ่และปิดโรงอาหารสำหรับพนักงานเปลี่ยนเป็นครัวบริการตนเอง
“เราคาดหมายว่าจะมีราวๆ 90 สาขาที่ต้องปิดเคาน์เตอร์ ส่วนอีกราวๆ 700 สาขาที่เหลือจะเปิดเคาน์เตอร์ทั้งแบบครบครัน หรือไม่ก็แบบคล่องตัวไว้บริการลูกค้าของเรา” เทสโก้ระบุในถ้อยแถลง ขณะที่ ทาร์รี เสริมว่า “เรากำลังเปลี่ยนแปลงตามสาขาต่างๆ ในสหราชอาณาจักรและสำนักงานใหญ่ เพื่อลดความซับซ้อนในสิ่งที่เราดำเนินการและแนวทางที่เราดำเนินการเพื่อให้เราสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ดียิ่งขี้น”
ก่อนหน้านี้ เทสโก้ ปรับลดพนักงานลงแล้วกว่า 10,000 คน นับตั้งแต่ เดฟ ลูอิส ขึ้นดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) ในปี 2014 ซึ่งช่วยลดต้นทุนได้ราว 1,500 ล้านปอนด์ (ราว 1,900 ล้านดอลลาร์)
ทางบริษัทคืนสู่กำไรสุทธิรายปีเมื่อปีที่แล้ว จากยอดขายที่แข็งแกร่งและการปรับโครงสร้าง หลังจากเคยขาดทุนสุทธิถึง 40 ล้านปอนด์ ในปี 2016/2017 ส่วนหนึ่งเป็นผลกระทบจากเรื่องอื้อฉาวตกแต่งบัญชี
เทสโก้ เครือข่ายซูเปอร์มาร์เกตใหญ่ที่สุดอันดับ 3 ของโลก รองจากคาร์ฟูร์ของฝรั่งเศส และวอลล์-มาร์ทของสหรัฐฯ มีกิจการอยู่ทั่วโลก ในนั้นรวมถึงจีน, อินเดีย, มาเลเซีย, สโลวาเกีย และไทย
ในขณะที่อังกฤษยังคงเป็นตลาดหลัก แต่ช่วงไม่กี่ปีผ่านมา เทสโก้ต้องประสบกับยากลำบากจากการแข่งขันอันดุเดือดภายในประเทศ ที่ห้างฯ ต่างๆ พากันลดราคาสะบั้นหั่นแหลก นอกจากนี้แล้วพวกเขายังเผชิญวิบากกรรมจากเรื่องอื้อฉาวทางบัญชี
ซูเปอร์มาร์เกตแห่งนี้แถลงเมื่อเดือนกันยายน 2014 ยอมรับว่ามีความเป็นไปได้ที่ทางบริษัทจะรายงานผลกำไรสูงกว่าความเป็นจริงราว 250 ล้านปอนด์ ซึ่งต่อมาก็ถูกปรับและเจอค่าใช้จ่ายต่างๆ ในจำนวนเงินเดียวกัน
อย่างไรก็ตาม เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ศาลได้ยกฟ้องอดีตผู้อำนวยการทางการเงินของเทสโก้ประจำสหราชอาณาจักร เคลียร์เขาจากคำกล่าวหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องอื้อฉาวดังกล่าว