xs
xsm
sm
md
lg

‘อาเบะ’ ยันพร้อมซัมมิต ‘คิม’ เพื่อสลายความหวาดระแวง-ฟื้นฟูสัมพันธ์การทูต

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

นายกรัฐมนตรี ชินโซ อาเบะ แห่งญี่ปุ่นกล่าวแถลงนโยบายในพิธีเปิดการประชุมสภาไดเอตที่กรุงโตเกียว วันนี้ (28 ม.ค.)
เอเอฟพี - นายกรัฐมนตรี ชินโซ อาเบะ แห่งญี่ปุ่น ยืนยันวันนี้ (28 ม.ค.) ว่าพร้อมที่จะพบกับผู้นำ คิม จองอึน แห่งเกาหลีเหนือ เพื่อสลายความหวาดระแวงที่ทั้งสองชาติมีต่อกัน และฟื้นฟูความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างสองชาติซึ่งเป็นอริกันมาช้านาน

ระหว่างแถลงนโยบายในพิธีเปิดประชุมรัฐสภาวันนี้ (28) อาเบะ ยังรับปากจะยกระดับความสัมพันธ์จีน-ญี่ปุ่นให้ “พัฒนาขึ้นไปอีกขั้น” และจะจัดสรรงบประมาณก้อนโตเป็นประวัติการณ์เพื่อซ่อมบำรุงระบบสาธารณูปโภคและโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ของญี่ปุ่น

“ผมจะทำเต็มที่ ใช้ทุกๆ โอกาสที่มีเพื่อสลายเปลือกแห่งความหวาดระแวงซึ่งกันและกัน และตัวผมเองก็พร้อมที่จะพบกับประธาน คิม จองอึน เพื่อคลี่คลายปัญหานิวเคลียร์และขีปนาวุธของเกาหลีเหนือ รวมถึงเรื่องพลเมืองญี่ปุ่นที่ถูกลักพาตัว”

นายกฯ ญี่ปุ่นยังไม่ให้กรอบเวลาที่ชัดเจนว่าจะพบกับผู้นำโสมแดงเมื่อไหร่ ทว่า คิม นั้นได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายเตรียมพร้อมสำหรับการประชุมซัมมิตครั้งที่ 2 กับประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ที่จะมีขึ้นในช่วงปลายเดือน ก.พ. นี้

“ผมจะพยายามหาข้อยุติให้กับอดีตที่น่าเศร้า เพื่อสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตสู่ระดับปกติ” อาเบะ กล่าว โดยเลือกใช้ถ้อยคำที่นุ่มนวลเป็นพิเศษเมื่อจะต้องสื่อถึงความโหดร้ายป่าเถื่อนที่กองทัพจักรวรรดิญี่ปุ่นเคยกระทำต่อผู้คนบนคาบสมุทรเกาหลีในช่วงก่อนและระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2

คำพูดประนีประนอมของ อาเบะ ในวันนี้ (28) ผิดกันโดยสิ้นเชิงกับถ้อยแถลงต่อรัฐสภาเมื่อ 1 ปีก่อน ซึ่งเขาขู่จะใช้มาตรการตอบโต้อย่างแข็งกร้าว “เพื่อให้เกาหลีเหนือเปลี่ยนแปลงนโยบาย” และยังประณามโครงการขีปนาวุธและนิวเคลียร์ของโสมแดงว่าเป็น “ภัยคุกคามร้ายแรงและเร่งด่วนอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน”

อาเบะ ยืนยันจะคุยกับเกาหลีเหนือให้รู้เรื่องเกี่ยวกับชะตากรรมของพลเมืองญี่ปุ่นที่ถูกลักพาตัวไปฝึกสายลับเมื่อช่วงสงครามเย็น ซึ่งเป็นสิ่งที่ค้างคาใจชาวญี่ปุ่นมาจนถึงทุกวันนี้

ผู้นำญี่ปุ่นชี้ว่า ความสัมพันธ์กับจีน “ได้กลับคืนสู่เส้นทางปกติอย่างสมบูรณ์แบบ” หลังจากที่ตนเดินทางเยือนปักกิ่งและพบกับประธานาธิบดี สี จิ้นผิง เมื่อปีที่แล้ว และคาดว่า สี เองก็จะมาเยือนญี่ปุ่นอย่างเป็นทางการครั้งแรกภายในปีนี้

“ผมจะสานความสัมพันธ์ทางการทูตกับประเทศเพื่อนบ้านเพื่อก้าวสู่ยุคใหม่ และทำให้ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือเป็นดินแดนแห่งสันติภาพและความเจริญรุ่งเรืองอย่างถาวร” อาเบะ กล่าว

ทั้งสองชาติเคยบาดหมางกันอย่างรุนแรงในปี 2012 หลังจากที่โตเกียวทุ่มเงินซื้อที่ดินบางส่วนในหมู่เกาะพิพาทเซ็งกากุ หรือ “เตี้ยวอี๋ว์” และโอนกรรมสิทธิ์มาเป็นของรัฐ

อย่างไรก็ตาม รัฐบาลญี่ปุ่นเผชิญเสียงเรียกร้องจากภาคธุรกิจให้ต้องเร่งฟื้นฟูความสัมพันธ์กับปักกิ่ง เพราะนอกจากจะเป็นประเทศคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดแล้ว ชาวจีนยังเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวหลักที่ไปเยือนแดนอาทิตย์อุทัยและมีพลังขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจอย่างสูง

รัฐบาลญี่ปุ่นมองว่า การมาเยือนโตเกียวของ สี จิ้นผิง คือหัวใจสำคัญของความสำเร็จในการประชุมซัมมิต G20 ซึ่งญี่ปุ่นจะเป็นเจ้าภาพในปีนี้ และยังหวังว่าผู้นำจีนจะมาร่วมพิธีเปิดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกส์ที่โตเกียวในปี 2020 ด้วย

อาเบะ แสดงความเห็นอย่างระมัดระวังเกี่ยวกับรัสเซีย หลังการพบปะหารือกับประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน ที่กรุงมอสโกเมื่อสัปดาห์ที่แล้วยังไม่อาจยุติข้อพิพาทหมู่เกาะคูริล ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้ทั้ง 2 ชาติไม่อาจทำสนธิสัญญาสันติภาพยุติสงครามกันได้

สำหรับนโยบายในประเทศ อาเบะ ยืนกรานจะปรับขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่มจาก 8% เป็น 10% ตั้งแต่เดือน ต.ค. เป็นต้นไป และจะจัดสรรงบประมาณ 7 ล้านล้านเยนเพื่อปรับปรุงถนนหนทางและสะพานที่ใช้งานมายาวนาน อีกทั้งยังเผชิญภัยธรรมชาติ เช่น น้ำท่วมและแผ่นดินไหวบ่อยครั้งจนมีสภาพทรุดโทรม

ผู้นำ คิม จองอึน แห่งเกาหลีเหนือ
กำลังโหลดความคิดเห็น