xs
xsm
sm
md
lg

ยอดเหยื่อ ‘เขื่อนแตก’ ในบราซิลพุ่ง 58 ศพ ยังสูญหายอีกกว่า 300 คน

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

หน่วยดับเพลิงบราซิลเข้าไปค้นหาร่างผู้สูญหายในเมืองบรูมาดินโญ รัฐมินัสเชไรส์ เมื่อวันที่ 27 ม.ค. ภายหลังเขื่อนกักเก็บกากแร่ของเหมืองแร่เหล็กแห่งหนึ่งเกิดแตกเมื่อ 2 วันก่อนหน้า
รอยเตอร์ - หน่วยกู้ภัยบราซิลยังคงเร่งทำงานตลอดคืนวันอาทิตย์ (27 ม.ค.) เพื่อค้นหาชาวบ้านหลายร้อยคนที่ยังคงสูญหายจากโศกนาฏกรรมเขื่อนแตกเมื่อ 2 วันก่อน ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตล่าสุดเพิ่มเป็น 58 ราย และมีแนวโน้มจะขยับสูงขึ้นเรื่อยๆ

เปโดร ไอฮารา โฆษกสำนักงานดับเพลิง ระบุว่า เจ้าหน้าที่กู้ภัยได้เข้าตรวจสอบรถบัสคันหนึ่งที่คาดว่าจะมีผู้เสียชีวิตติดอยู่ภายใน และพบศพผู้เคราะห์ร้ายอีก 3 ร่างอยู่ในบ้านซึ่งถูกโคลนถล่มทับ

โศกนาฏกรรมครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อเขื่อนเก็บกากแร่ของเหมือง คอร์เรโก โด เฟเคา (Corrego go Feijao) ในเมืองบรูมาดินโญ รัฐมีนัสเชไรส์ ซึ่งเจ้าของคือบริษัท วาลี เอสเอ (Vale SA) เกิดแตกอย่างกะทันหัน ทำให้ดินโคลนมหาศาลไหลทะลักลงมาสู่ชุมชนเบื้องล่าง

“สำนักงานดับเพลิงจะยังคงปฏิบัติหน้าที่ต่อไปด้วยความหวังว่าจะมีผู้รอดชีวิต จนกว่าเราจะพบศพสุดท้าย” ไอฮารา ให้สัมภาษณ์ “แต่แน่นอนว่าในอุบัติเหตุเช่นนี้ ยิ่งเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ โอกาสที่จะพบผู้รอดชีวิตก็ลดลงตามไปด้วย”

ฟลาวิโอ โกดินโญ โฆษกสำนักงานป้องกันพลเรือนแห่งชาติบราซิล ประกาศตัวเลขผู้เสียชีวิตล่าสุดที่ 58 ราย ซึ่งมีแนวโน้มว่าจะเพิ่มสูงขึ้นอีก เนื่องจากขณะนี้ยังมีผู้สูญหายอีกกว่า 300 คนซึ่งคาดว่าจะเสียชีวิตแล้ว โดยทางสำนักงานยังคงมีการอัปเดตรายชื่ออย่างต่อเนื่อง

สาเหตุที่ทำให้เขื่อนแตกนั้นยังไม่ทราบแน่ชัด และบริษัทสัญชาติเยอรมนีที่เข้าไปตรวจสอบสภาพเขื่อนเมื่อไม่นานมานี้ก็ยืนยันว่าไม่พบปัญหาใดๆ

อาวีมาร์ เดอ เมโล บาร์เซโลส นายกเทศมนตรีเมืองบรูมาดินโญ ตำหนิ วาลี ว่า “ไม่รอบคอบและไร้ศักยภาพ” โดยกล่าวโทษบริษัทแห่งนี้ว่าเป็นต้นตอของโศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้น และขู่จะเรียกร้องเงินค่าปรับสูงถึง 100 ล้านเรอัล

ด้าน ฟาบิโอ ชวาร์ตสแมน ประธานคณะเจ้าหน้าที่บริหารของวาลี ยืนยันผ่านสถานีโทรทัศน์ท้องถิ่นวานนี้ (27) ว่า บริษัทได้ปฏิบัติตามมาตรฐานความปลอดภัยที่ผู้เชี่ยวชาญแนะนำ “100 เปอร์เซ็นต์” แต่ก็ไม่สามารถป้องกันหายนะครั้งนี้ได้

ซีอีโอผู้นี้ให้สัญญาว่า ทางบริษัทจะยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยให้สูงยิ่งกว่าเก่า และเตรียมแผนรองรับให้ดีขึ้นกว่าในปัจจุบันเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นอีก

ก่อนหน้านี้ เขื่อนเก็บกากแร่ของเหมืองแร่เหล็กแห่งหนึ่งของ ซามาร์โก มิเนราเคา เอสเอ ซึ่งเป็นกิจการร่วมทุนระหว่าง วาลี กับกลุ่ม บีเอชพี กรุ๊ป ก็เกิดพังทลายเมื่อปี 2015 ปลดปล่อยโคลนที่เต็มไปด้วยสารพิษลงมาท่วมชุมชนเล็กๆ และแม่น้ำสายหลักของบราซิล ทำให้มีผู้เสียชีวิตไปถึง 19 ราย และถือเป็นภัยพิบัติด้านสิ่งแวดล้อมครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของชาติ โดยเหมืองแร่แห่งดังกล่าวอยู่ห่างจากเหมืองที่บรูมาดินโญไปทางตะวันออกไม่ถึง100 กิโลเมตร

ทางการบราซิลได้เปิดสัญญาณไซเรนเตือนภัยในเมืองบรูมาดินโญนานหลายชั่วโมงเมื่อวานนี้ (27) เพื่อเตือนประชาชนราว 24,000 คนให้เร่งอพยพ เนื่องจากเขื่อนอีกแห่งหนึ่งทำท่าว่าจะพังลงมาเช่นกัน ทว่าต่อมาสำนักงานป้องกันพลเรือนได้ยกเลิกคำเตือน ทำให้การอพยพประชาชนยุติลงและกลับมาค้นหาผู้สูญหายกันได้อีกครั้ง





กำลังโหลดความคิดเห็น