เอเอฟพี - มีผู้เสียชีวิตไม่ต่ำกว่า 18 ราย และบาดเจ็บจำนวน 83 คน หลังเกิดระเบิด 2 ครั้งในตอนเช้าวันนี้ (27 ม.ค.) ภายในโบสถ์เมาท์ คาร์เมล คาธีดรอล (Mount Carmel Cathedral) บนเกาะทางใต้ของฟิลิปปินส์ กองทัพฟิลิปปินส์แถลง ซึ่งเกาะแห่งนี้เป็นฐานที่มันของกลุ่มมุสลิมติดอาวุธ เกิดขึ้นไม่กี่วันหลังจากผู้มีสิทธิเลือกตั้งฟิลิปปินส์ออกเสียงสนับสนุนในการตั้งเขตปกครองตนเองของชาวมุสลิม ด้านเจ้าหน้าที่ฟิลิปปินส์เชื่อ อาจเป็นฝีมือของกลุ่มอาบูไซยาฟ
เอเอฟพีรายงานวันนี้ (27 ม.ค) ว่า ระเบิดลูกแรกเกิดขึ้นภายในโบสถ์คาทอลิกตั้งบนเกาะโจโล (Jolo) ช่วงเช้าวันอาทิตย์ (27) ในขณะที่กำลังทำพิธีแมส และตามมาด้วยลูกที่ 2 ที่บริเวณด้านนอกขณะที่กองกำลังเข้าจัดการ โฆษกกองทัพประจำภูมิภาคแถลง
ทั้งนี้ พบว่า เหยื่อส่วนใหญ่เป็นคริสต์ศาสนิกชนที่เดินทางไปโบสถ์วันอาทิตย์และทหาร พบว่า ประตูที่นั่งแถวยาวด้านใน รวมไปถึงหน้าต่างที่เป็นกระจกของโบสถ์เมาท์ คาร์เมล คาธีดรอล (Mount Carmel Cathedral) ถูกระเบิดกระจัดกระจาย เห็นได้จากภาพถ่ายเหตุการณ์ที่กองทัพฟิลิปปินส์ถ่ายไว้ได้ พร้อมไปกับร่างที่อยู่บนพื้น อ้างอิงจากนักข่าวช่างภาพเอเอฟพีในที่เกิดเหตุ
ด้านโฆษกประธานาธิบดี โรดริโก ดูเตอร์เต ออกมาประณามความรุนแรงครั้งนี้ โดยชี้ว่า เป็นการก่อการร้ายและการฆาตกรรม
“เราจะติดตามไปจนสุดขอบโลกเพื่อตามคนร้ายที่ไร้ความปรานีซึ่งอยู่เบื้องหลังในอาชญากรรมป่าเถื่อน จนกระทั่งอาชญากรทุกคนถูกนำตัวมาตัดสินและถูกจำคุก” ซัลวาดอร์ ปาเนโล(Salvador Panelo) กล่าวผ่านแถลงการณ์
ทหารฟิลิปปินส์ 5 นาย เจ้าหน้าที่ยามฝั่งฟิลิปปินส์ 1 นาย และพลเรือนอีก 12 คน เสียชีวิต และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 83 คน พันโท เจอร์รีย์ เบเซนา (Gerry Besana) โฆษกกองทัพประจำภูมิภาคแถลง
แต่ทว่า กราเซียโน มีฮาเรซ(Graciano Mijares) ผู้บัญชาการตำรวจประจำภูมิภาคของฟิลิปปินส์ ได้ให้ยอดผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 27 ราย และผู้บาดเจ็บ 77 คน
สำหรับระเบิดลูกที่ 2 ถูกซ่อนไว้ในกล่องเก็บของมอเตอร์ไซด์ที่ถูกจอดทิ้งไว้ที่ลานจอดรถด้านนอกของโบสถ์ อ้างอิงจากรายงานกองทัพ
กองทัพฟิลิปปินส์ แถลงว่า มีการนำส่งตัวทางอากาศของผู้บาดเจ็บบางส่วนเพื่อเข้ารับการรักษาพยาบาลที่เมืองซัมบวงกา (Zamboanga)
ทางเจ้าหน้าที่ฟิลิปปินส์ ชี้ว่า กลุ่ม อาบูไซยาฟที่ขึ้นชื่อในการจับตัวเรียกค่าไถ่อาจเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการก่อเหตุระเบิด
“เมื่อคุณพูดถึงการก่อการร้ายในจังหวัดซูลู (Sulu) ผู้ต้องสงสัยแรกมักเป็นกลุ่ม(อาบูไซยาฟ) แต่ทางเรายังไม่ตัดประเด็นไปที่อาจเป็นฝีมือของคนอื่น” เบเซนากล่าว
เอเอฟพีรายงานว่า ผู้มีสิทธิออกเสียงเลือกตั้งฟิลิปปินส์ได้ลงมติผ่านคูหา อนุมัติกฎหมายที่จะทำการจัดตั้งภูมิภาคใหม่ซึ่งเป็นเขตการปกครองตัวเองทางใต้ของฟิลิปปินส์ โดยตั้งความหวังว่า ความเคลื่อนไหวครั้งนี้จะนำสันติภาพและการพัฒนามาสู่ภูมิภาคที่ยากไร้หลังมีความขัดแย้งมาหลายสิบปี และทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก