รอยเตอร์ - สหรัฐฯ จะเพิ่มมาตรการกดดันทางเศรษฐกิจเพื่อบีบให้ประธานาธิบดี นิโคลัส มาดูโร แห่งเวเนซุเอลายอมสละอำนาจ ขณะที่นักการทูตอเมริกันบางส่วนเริ่มทยอยเดินทางออกจากกรุงการากัส ส่วนรัสเซียประกาศกร้าวพร้อมหนุนหลัง มาดูโร เป็นประธานาธิบดีต่อ
กระทรวงการคลังสหรัฐฯ ยังไม่ถึงขั้นประกาศอายัดทรัพย์สินและบัญชีธนาคารของเวเนซุเอลาในสหรัฐฯ แต่ยืนยันจะใช้มาตรการกำกับดูแลธุรกรรมเชิงพาณิชย์ ให้ “สอดคล้อง” กับจุดยืนของวอชิงตันซึ่งประกาศรับรองนาย ฮวน กุยโด ประธานรัฐสภาและหัวหน้าฝ่ายค้าน ว่าเป็นผู้นำโดยชอบธรรมของเวเนซุเอลา
ไมค์ พอมเพโอ รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ เตรียมขอให้คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติลงมติรับรองสถานะผู้นำประเทศให้แก่ กุยโด ในวันนี้ (26 ม.ค.) หลังจากที่หลายประเทศแสดงจุดยืนหนุนหลังนักการเมืองหนุ่มฝ่ายค้าน และเรียกร้องให้ มาดูโร สละตำแหน่ง
พอมเพโอ ยังได้แต่งตั้ง เอลเลียต อบรามส์ (Elliott Abrams) อดีตนักการทูตอเมริกัน เป็นผู้แทนสหรัฐฯ ในการคลี่คลายวิกฤตการเมืองเวเนซุเอลา โดย อบรามส์ นั้นได้ชื่อว่าเป็นพวกนีโอคอนเซอร์เวทีฟที่สนับสนุนให้สหรัฐฯ แสดงบทบาทแก้ไขปัญหาของโลกมาแต่ไหนแต่ไร
รัสเซียออกมาคัดค้านแผนของสหรัฐฯ และกล่าวหาวอชิงตันว่าสนับสนุนการก่อรัฐประหาร ซึ่งทำให้เวเนซุเอลาส่อเค้าจะกลายเป็นสังเวียนเปิดศึกระหว่าง 2 มหาอำนาจ
แหล่งข่าวระบุว่า บริษัทคู่สัญญากลาโหมเอกชนซึ่งเคยกระทำภารกิจลับให้แก่รัสเซียได้ส่งผู้แทนไปยังเวเนซุเอลาในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา เพื่อเสริมมาตรการคุ้มกันให้แก่ มาดูโร
ผู้นำเวเนฯ กล่าวชื่นชมแผนการเปิดอภิปรายในเวทียูเอ็น โดยระบุว่าตน “จะได้แฉความจริงทั้งหมดเกี่ยวกับบทบัญญัติรัฐธรรมนูญเวเนซุเอลา และการรัฐประหารที่กำลังเกิดขึ้น”
เมื่อวันพุธที่ผ่านมา (23) มาดูโร ได้สั่งให้คณะทูตสหรัฐฯ เดินทางออกจากเวเนซุเอลาภายใน 72 ชั่วโมง
แหล่งข่าวรอยเตอร์ยืนยันว่า เจ้าหน้าที่อเมริกันบางส่วนได้เดินทางออกจากสถานทูตในกรุงการากัสเมื่อวานนี้ (25) โดยมีตำรวจขับรถนำขบวนไปส่งยังสนามบิน
มิเชลล์ บาเชเลต์ ข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนยูเอ็น เรียกร้องวานนี้ (25) ให้มีการสอบสวนเพื่อหาความจริงกรณีหน่วยความมั่นคงเวเนฯ ใช้กำลังเกินขอบเขตต่อผู้ประท้วงขับไล่ มาดูโร ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา พร้อมแสดงความเป็นห่วงว่าสถานการณ์อาจลุกลามบานปลายจนคุมไม่อยู่
กุยโด ได้สาบานตนเป็นประธานาธิบดีรักษาการเมื่อวันพุธ (23) โดยแหล่งข่าวระบุว่า เขากำลังพิจารณาร้องขอเงินทุนสนับสนุนจากสถาบันนานาชาติ รวมถึงกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ)
อย่างไรก็ตาม กุยโด ยังไม่มีอำนาจควบคุมกิจการของรัฐ โดยเฉพาะกองทัพซึ่งยังยืนกรานภักดีต่อ มาดูโร ท่ามกลางวิกฤตการเมืองและเศรษฐกิจซึ่งทำให้ชาวเวเนฯ นับล้านต้องอพยพหนีไปต่างแดน และอัตราเงินเฟ้อที่มีแนวโน้มจะพุ่งสูงถึง 10 ล้านเปอร์เซ็นต์ในปีนี้
กุยโด ให้สัญญาว่าจะประกาศนิรโทษกรรมนายทหารทุกคนที่ยอมแปรพักตร์จาก มาดูโร และขอให้กองทัพ “เลือกยืนอยู่ข้างรัฐธรรมนูญ”